มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ไฮบริด ‘เด่น’ ทางออฟโรด เทคโนโลยี ‘ครบ’

คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ไม่รอช้า มิตซูบิชิ ปิดแทร็ก ปทุมธานี สปีดเวย์ ให้สื่อมวลชน-ประชาชาติธุรกิจ ได้มีโอกาสสัมผัสรถ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ไฮบริด (Mitsubishi XFORCE HEV) พอหอมปากหอมคอ

ทีมงานตั้งใจให้เราทดสอบโหมดการขับขี่ 5 ใน 7 โหมด โดยจำลองรูปแบบการขับขี่และเส้นทาง ให้เราได้ใช้งานรถตามสภาพการขับขี่จริง

มิตซูบิชิตั้งใจพัฒนารถคันนี้ให้เหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย ด้วยการนำรถมาทดสอบวิ่งในพื้นที่ต่าง ๆ ของบ้านเรา 1 แสนกิโลเมตร เพื่อรวบรวมข้อมูล และพัฒนาปรับแต่งเพื่อหวังให้รถ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เหมาะสมกับสภาพการใช้งานในบ้านเรามากที่สุดนั่นเอง

เมื่อมีเวลา ขอพิจารณารอบคันกันเล็กน้อย เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็น เส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ออกแบบมาภายใต้แนวคิด “Silky and Solid” แนวคิดการออกแบบใหม่ เน้นความเรียบหรู แต่ทรงพลัง ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที ตรงนี้ต้องบอกว่า แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล

แต่ส่วนตัวยังให้ความรู้สึกที่ก้ำกึ่ง ระหว่างความล้ำสมัยแบบกลางเก่ากลางใหม่

แต่เมื่อเปลี่ยนมาดูที่มุมมอง ด้านข้างของตัวรถ กลับให้ความรู้สึกทรงพลัง มีความปราดเปรียว ด้วยเส้นสายที่ด้านข้าง ช่วยให้รู้สึกมีความกระฉับกระเฉงขึ้นมาเยอะ เมื่อเทียบกับด้านหน้า ส่วนด้านท้ายถือว่าลงตัว

รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC 107 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ให้กำลังไฟสูงสุด 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร ใช้ระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ มิตซูบิชิเคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้สูงสุด 24.4 กิโลเมตร/ลิตร

เข้าสู่การทดสอบในช่วงแรก เลือกใช้ Normal หรือโหมดที่เหมาะกับถนนทั่วไป ทดสอบระบบ Diamond Sense เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำผ่านการทำงานของกล้อง เรดาร์ และเซ็นเซอร์

ทีมงานนำผ้าดำมาปิดกระจกด้านข้าง ให้เราถอยจอด โดยเลือกใช้มุมจากกล้อง 360 องศาที่หน้าจอ ซึ่งให้ภาพและทัศนวิสัยค่อนข้างชัดเจน ได้ทั้งกล้องมองภาพรอบคัน-เส้นกะระยะ ระบบเตือนจุดอับสายตา ช่วยให้การถอยจอดเป็นเรื่องง่าย

จากนั้นทดสอบวงเลี้ยว โดยผ่านสิ่งกีดขวางมีกล่องขนาดใหญ่ จำลองให้เราขับผ่านมุมอับ เราก็ยังสามารถใช้กล้องมองภาพ 360 องศา เข้ามาช่วยและสามารถเลือกกดมุมมองของภาพได้ จนขับผ่านเส้นทางดังกล่าวมาได้สบาย ๆ

ขยับมาที่โหมด Tarmac หรือวิ่งบนถนนลาดยางหรือจะเรียกว่าโหมดสปอร์ตก็ได้เพิ่มความกระชับของคันเร่งและเครื่องยนต์เข้ามา เราเติมความเร็วทั้งทางตรง ทางโค้ง และการขับเปลี่ยนเลนกะทันหัน รถคันนี้ทำออกมาได้ดี ติดนิดเดียว ส่วนตัวรู้สึกว่า รถมีความเบาไปนิด ถ้าเพิ่มความหนึบหนับเข้ามา น่าจะเป็นรถอีกคันที่ขับสนุก

แต่อย่างที่บอกนี้เป็นการทดสอบ รูปแบบการจำลองในสนามเท่านั้น หากเรานำรถไปวิ่งบนถนนจริง ความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปคนละฟิล

จังหวะกดคันเร่ง เครื่องตอบสนองดี จังหวะที่เราขับเข้าโค้งด้วยความเร็วและแรง ระบบ AYC (Active Yaw Control) หรือระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้งเข้ามาช่วย ทำให้รถคุมง่ายขึ้น

เพื่อให้ชัดเจน ปรับมาสู่โหมดทางลูกรัง หรือ Gravel ในแทร็กทางฝุ่น ขับแบบสลาลอม เข้าโค้งด้วยความเร็ว และการจำลองวิ่งเข้าวงเวียนอยู่ 2 รอบเต็ม บนทางลูกรัง หินลอย ฝุ่นตลบ เหมือนวิ่งครอสคันทรี รถคันนี้ เอาอยู่จริง ไม่ชมไม่ได้กับระบบ AYC คุมรถได้อยู่หมัด รถไม่มีการโอเวอร์สเตียร์ เก็บอาการดีจริง ๆ ถ้าไม่มีระบบอาจคนละเรื่อง

ต่อที่แทร็กทางเปียก ขับทุกอย่างเหมือนทางฝุ่นเป๊ะ… แต่เป็นถนนทางเรียบ ชุ่มไปด้วยน้ำ เราเปลี่ยนเป็นโหมด Wet รถมีอาการบานน้ำเล็ก ๆ แค่คุมได้และเอาอยู่

ส่วนโหมดที่เหลือยังไม่ได้ทดสอบ

เท่านั้นยังไม่พอได้สอบระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหรือเคลื่อนที่ไปด้านหน้า (LCDN) รถเราก็จะเตือน สามารถตั้งค่าให้ออกตัวตามไปด้วยได้

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เป็นรถที่มีความโดดเด่นของช่วงล่างและเทคโนโลยีความปลอดภัย ที่ราคาค่าตัว อยู่ที่ 899,000-1,089,000 บาท น่าสนใจแค่ไหนไปพิสูจน์กัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ไฮบริด ‘เด่น’ ทางออฟโรด เทคโนโลยี ‘ครบ’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net