โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

18 ปีรัฐประหาร 19 กันยา พลิกเส้นทางเพื่อไทยชนะ สู่ทำเนียบรัฐบาล

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 18 ก.ย 2567 เวลา 10.49 น. • เผยแพร่ 18 ก.ย 2567 เวลา 23.45 น.

คอลัมน์ : Politics policy people forum

มื่อ 18 ปีก่อน ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหารข้ามโลก โดยผู้นำที่ชื่อ “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” ผู้บัญชาการทหารบก ในนามคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)

เวลานั้น “ทักษิณ” อยู่ระหว่างการร่วมประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา

18 ปี ต่อมา นายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 31 คือ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของ “ทักษิณ” เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกในทำเนียบรัฐบาล 2 วันก่อนวันครบรอบ 18 ปีคืนยะเยือก

พลิกจากผู้แพ้เมื่อ 18 ปีก่อน กลายมาเป็นผู้ชนะอย่างเบ็ดเสร็จ เพราะศัตรูคู่แค้นการเมืองตลอด 2 ทศวรรษ กลายมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล สวนทางขุมกำลังการยึดอำนาจเมื่อ 18 ปีที่แล้ว กำลังถูกปิดฉาก

เส้นทางคืนอำนาจเพื่อไทย

นับแต่วันยึดอำนาจปี 2549 เครือข่ายทักษิณ ได้กำเนิดพรรคการเมือง ที่ใช้เป็นพาหนะเพื่อเดินทางไปสู่ชัยชนะถึง 3 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ

ทว่าถูกยุบไป 2 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน ถูกยุบพรรคเมื่อ 2 ธันวาคม 2551 และพรรคไทยรักษาชาติ ถูกยุบเมื่อ 7 เมษายน 2562

กลับกันพรรคเครือข่ายทักษิณ ได้รับชัยชนะเลือกตั้ง 3 ครั้ง จาก 4 ครั้งหลังสุด และเป็นรัฐบาล 3 ครั้ง

ครั้งแรก รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ชนะเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 มีนายกรัฐมนตรี 2 คน ชื่อ สมัคร สุนเทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์

ครั้งสอง พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 มีนายกฯชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ครั้งสาม พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 แต่ได้เป็นแค่ฝ่ายค้าน เมื่อพรรคพลังประชารัฐรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้มากกว่า

ครั้งที่สี่ 14 พฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทยได้ สส.เป็นอันดับสอง แต่กลายเป็นว่าพรรคก้าวไกลที่ชนะเลือกตั้ง ได้ สส.อันดับหนึ่ง ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

พรรคเพื่อไทย จึงรวบรวมเสียงพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลแทน จนถึงปัจจุบันมีนายกฯ 2 คน เศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร

ขณะเดียวกัน นอกจากใช้กลยุทธ์พรรคการเมือง ยังควบคู่กับยุทธศาสตร์เดินเกมบนท้องถนนภายใต้ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” หรือ นปช. ผ่านเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ที่ลากยาวเป็นเดือน 2 ครั้ง คือ เมษายน 2552 กับมีนาคม-พฤษภาคม 2553

มีความพยายามเดินหน้าการ “ปรองดอง-นิรโทษกรรม” ผ่านการออกกฎหมาย 2 ครั้ง ครั้งแรก พ.ร.บ.ปรองดอง มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ผันตัวมาเป็น “นักการเมือง” หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ นำเสนอกฎหมายดังกล่าว แต่ก็กลายเป็นวาระค้างในสภา เพราะโดนต่อต้านอย่างหนักจากพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงกระแสคัดค้านนอกสภา

มีความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งครั้งแรกเป็นแนวคิดนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุม ไม่รวม “แกนนำและผู้สั่งการ” สุดท้ายกลับเลือกนิรโทษกรรมสุดซอย กลายเป็นการเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำเนิดกลุ่ม กปปส. นำมาสู่เหตุการณ์ยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557

อย่างไรก็ตาม “ทักษิณ” กลับเข้าประเทศ 22 สิงหาคม 2567 ต่อมาได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

สลายขั้ว ทำลายฝ่ายแค้น

แม้ว่าพรรคการเมืองของเครือข่ายทักษิณ ถูกยุบพรรคไป 2 ครั้ง แต่ก็เป็นยักษ์ที่ฆ่าไม่ตาย และแม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บวก รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าครอบครองอำนาจยาวนานถึง 9 ปี

แต่สำหรับการเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร พรรคเพื่อไทย สามารถจัดตั้งรัฐบาล “สลายขั้ว” จับมือพรรคการเมืองใหญ่ 2 ลุง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ

บวกเข้ากับพรรคตัวแปรอย่าง พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา แตะมือกับพรรคประชาธิปัตย์ไว้หลวม ๆ แล้วจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน

กระทั่งรัฐบาลเศรษฐา ประสบอุบัติเหตุ ต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อีกครั้ง มี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ

ในการโหวตให้ “แพทองธาร” เป็นนายกฯ นอกจากได้เสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมในรัฐบาลเศรษฐา

ยังได้เสียงของพรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง ทั้งที่พรรคไทยสร้างไทยอยู่ในขั้วฝ่ายค้าน และหัวขบวนก็เป็นคู่ปรับกับผู้มีอำนาจในเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยสามารถดึงมาได้ 6 เสียง ยกมือโหวตให้ “แพทองธาร”

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยยังได้เสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง ทั้งที่อีกครึ่งจำนวน 20 เสียงกำลังก่อกบฏ

สุดท้าย ส่วนผสมของรัฐบาลแพทองธาร เป็นการเมืองที่ยิ่งกว่าสลายขั้ว-ลงตัวยิ่งกว่ารัฐบาลเศรษฐา เพราะสามารถดึงพรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียง มาร่วมรัฐบาล แล้วเขี่ย 20 เสียง พรรคพลังประชารัฐ ซีก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพรรคเพื่อไทย ให้ไปเป็นฝ่ายค้านแทน ปิดเกมบ้านป่า…เมื่อเกมอำนาจไม่ลงตัว

ปิดฉากบ้านป่า

ย้อนไปช่วงที่ “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง“พล.อ.ประวิตร” เป็นผู้บัญชาการทหารบก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความแค้นที่ถูกปิดเกมในวันนี้

เพราะ “พล.อ.ประวิตร” เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ฉุด “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” นักรบหมวกแดง “สายรบพิเศษ” ขึ้นดํารงตําแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 6 ทั้งที่อยู่นอกไลน์อำนาจ

ขณะเดียวกัน ภายหลัง “พล.อ.ประวิตร” ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ได้ดึง พล.อ.อนุพงษ์ จากตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) มาเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.ร.1 รอ.)

ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับ “ทักษิณ” จะก้าวขึ้นสู่การเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังยึดอำนาจในเมืองหลวง และก่อนเกษียณอายุราชการ “พล.อ.ประวิตร” ได้ดึง ป.ที่ 3 คือ “พล.อ.ประยุทธ์” จาก พล.ร.2 รอ. มาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1

นี่คือจุดกำเนิด “กลุ่มบูรพาพยัคฆ์” เป็นกองกำลังสำคัญในค่ำคืนปฏิวัติ 19 กันยายน 2549

หลังการยึดอำนาจ พล.อ.สนธิต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ หาคนที่มาสืบทอดตำแหน่ง ผบ.ทบ. แทนตัวเอง

“พล.อ.สนธิ” ตัดสินใจส่งไม้ต่อให้ พล.อ.อนุพงษ์ แห่งเตรียมทหารรุ่น 10 น้องรัก “พล.อ.ประวิตร” ได้เป็น ผบ.ทบ. สานต่อบูรพาพยัคฆ์-ทหารเสือราชินี

เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ ก้าวขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็ดึงรุ่นน้อง ป.ประยุทธ์ เข้าอยู่ในไลน์อำนาจ และสืบทอดตำแหน่งกระทั่งเกิดการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

10 ปีต่อมา อำนาจกลับกลาย 3 ป.เหลือ ป.เดียวที่พยายามยื้ออำนาจไว้ จึงถูกปิดเกม

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 18 ปีรัฐประหาร 19 กันยา พลิกเส้นทางเพื่อไทยชนะ สู่ทำเนียบรัฐบาล

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...