โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

อเล็กซ์ เรนเดลล์ เผยเส้นทางรัก 7 ปี จากเพื่อนสู่แฟน เตรียมเป็นคู่ชีวิต

The Bangkok Insight

อัพเดต 19 ก.ย 2567 เวลา 02.27 น. • เผยแพร่ 19 ก.ย 2567 เวลา 02.05 น. • The Bangkok Insight

อเล็กซ์ เรนเดลล์ เปิดใจเล่าวินาทีขอแฟนสาวนอกวงการแต่งงาน เผยเส้นทางรัก 7 ปี จากเพื่อนสู่แฟน เตรียมเป็นคู่ชีวิต

ขึ้นแท่นว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงเป็นที่เรียบร้อย สำหรับพระเอกหนุ่ม อเล็กซ์ เรนเดลล์ ก็ได้ทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาวนอกวงการ เจนนี่ แต่งงานเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ประเทศแคนาดา

อเล็กซ์ เรนเดลล์ เผยเส้นทางรัก 7 ปี จากเพื่อนสู่แฟน เตรียมเป็นคู่ชีวิต

ล่าสุด (18 ก.ย.) อเล็กซ์ เรนเดลล์ พระเอกหนุ่มสายธรรมชาติ เปิดใจเล่าวินาทีขอแฟนสาวนอกวงการแต่งงาน เล่าเส้นทางความรักกว่า 7 ปีที่พัฒนาจากเพื่อนสู่แฟน พร้อมเคลียร์ข่าวเม้าท์จริงหรือไม่ที่ไม่รับงานละครกว่า 2 ปี เพราะเตรียมออกจากวงการบันเทิง ทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกร

ในฐานะที่พี่เบนซ์เห็นน้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยรู้สึกยังไง ?

เบนซ์ : ตื่นเต้นแล้วก็ดีใจ จริง ๆ ก็แอบดูเขามาเรื่อยๆว่าเขาเป็นยังไงบ้าง คบกับใครบ้าง โอเคมั้ย แต่พอเราเห็นรูปแฟนเขามันจะมีความรู้สึกบางอย่างว่าคนนี้น่าจะโอเค คนนี้น้องฉันน่าจะแฮปปี้นะ พอได้ข่าวเขาขอแต่งงาน ฉันเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ดีใจมากเลย มีความรู้สึกยินดีกับเขา การตัดสินใจของน้องน้องไม่ใช่คนปุ๊ปปั๊ปตัดสินใจ เขาจะคิดละเอียดถี่ถ้วน เขารู้ว่าคนนี้โอเคแล้วนะกับชีวิตเขา ยินดีล่วงหน้าขอให้มีความสุขมาก ๆ

ไปเจอกับว่าที่คุณภรรยาคนนี้ได้ยังไง ?

อเล็กซ์ : รู้จักกันมานานพอสมควรแล้ว ผมเป็นเด็กบางกอกพัฒนา เขาจะเป็นเด็ก ISB ตั้งแต่สมัยเรียน 2 โรงเรียนนี้ก็จะมีการแข่งขันด้วยกัน ก็จะเป็นเพื่อนกันทุกวันนี้ก็จะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน จะรู้ว่าเขาคือใครตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว พอตอนโตไปเห็นรูปใน IG ก่อนแล้วช่วงนั้นเขาโสดด้วย มันเป็นรูปที่เขาอยู่อยู่ในสระว่ายน้ำแต่ตัวเขาไม่เปียก เราก็มองแล้วก็งงว่าทำไมตัวไม่เปียก อันนี้คือจุดแรก เราก็เลยลองกดเข้าไปดูคนนี้น่าสนใจเลยกดไลค์รัวๆหลายๆรูป แล้วก็ไปดูว่าเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีแล้วก็บังเอิญมาเจอแล้วก็ได้มารู้จักกัน

ไปปิ๊งเขาตรงไหน ?

อเล็กซ์ : วันแรกที่เจอ ผมยังไม่ได้มีเจตนาอะไรมากขนาดนั้น แล้วก็ไปกับเพื่อนผู้ชายด้วย เวลาเราไปกับเพื่าอนผู้ชายจะเป็นโหมดกวนๆสนุกๆหน่อย แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรถึงขนาดนั้น แต่พอเริ่มคุย เราก็ยังไม่เคยคบกับผู้หญิงแบบนี้ เขาจะดูแมน ๆ ตรงไปตรงมา เลยขอแลกไลน์กับเขาจากนั้นก็เจอกันแล้วก็เจอกันบ่อยขึ้น ๆ

ปกติเราเจอแต่คนในวงการบันเทิง อันนี้เขาเป็นคนนอกวงการ ต่างกันมั้ย ?

อเล็กซ์ เรนเดลล์ : ผมว่าต่าง ถ้าเราเป็นคนในวงการทั้งสองคนไม่ว่าเราจะไปไหนความสปอตไลท์มันมาโดยอัตโนมัติจะเป็นแฟนคลับของฝั่งผู้ชายหรือของผู้หญิงต้องมีอยู่บ้าง แต่พอเป็น 2 คนแล้วจะมีรีแอ็คอีกแบบนึง มันจะเป็นอีกแบบนึง คนนี้คือใครมากับใคร คนจะไม่ได้เข้ามาหาเราขนาดนั้น มันก็จะได้พื้นที่ส่วนตัวที่รู้สึกว่าเป็นข้อดี

คบกันมา 6-7 ปี ตั้งใจปิดมั้ย ?

อเล็กซ์ เรนเดลล์ : ไม่ได้ถึงกับตั้งใจปิด บางทีมีพี่ๆนักข่าวถามเราก็ตอบว่ามีคนคุยอยู่มาตั้งแต่แรกแล้ว เราก็พยายามจะให้ข้อมูลที่น้อยที่สุดด้วยอย่างเช่นตัวเลข 7 ปีก็ไม่เคยบอก เพิ่งมาบอก ก่อนหน้านี้เรารู้สึกว่าถ้าเราให้อะไรไปที่เป็นข้อมูลชัดเจนมันจะเป็นประเด็นได้ เราพยายามตอบแบบกลางๆ ให้หลีกเลี่ยงพวกข้อเท็จจริงทั้งหลาย เขาจะได้ไม่มีอะไรไปเขียนได้

พอทำแบบนั้นความเป็นส่วนตัวมันก็มากขึ้น หลังๆพี่นักข่าวเขาก็จะไม่ถามลึก ส่วนเรื่องรูปเราก็ลงบ้าง ด้วยงานของเราที่มันอยู่กับโทรศัพท์เยอะต้องเช็คโน่นเช็คนี่เยอะเวลาอยู่กับเขาจะเป็นโหมดพักผ่อนจะไม่ได้จับโทรศัพท์เท่าไหร่ เลยไม่ได้ลงมากขนาดนั้น รู้สึกอยากลงค่อยลง ทั้งคู่ไม่ได้มีนิสัยอัปเดตชีวิตผ่านโซเชียลทุกวัน

แต่แฟนไม่ได้ติดอะไรที่ไม่ค่อยลงรูป ?

อเล็กซ์ : ไม่ติด ผมติดที่เขาไม่ลงมากกว่า ผมลงแล้วเขาไม่ลง ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยแล้วเราก็ถ่ายรูปให้เขาเยอะมากเลย แต่เราก็งงว่าแรงที่เราใช้ถ่ายรูปให้คุณทำไมคุณถึงไม่ลงในโซเชียลบ้าง

คุยกันนานมั้ยกว่าจะตกลงเป็นแฟนกัน ?

อเล็กซ์ : ถ้ากลับไปคิดว่าวันไหนที่เราตัดสินใจเป็นแฟนกันจริงๆคือผมยังไม่มีวันนั้นในความทรงจำ มันเป็นความสัมพันธ์ที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เราเคย มันเหมือนเราสนิทกันมารู้อีกทีเขาไม่รับสาย เราเริ่มคิดว่าเราไปทำอะไรมาหรือเปล่าวะ เราเริ่มรู้แล้วว่ามันคืออาการที่เรารู้สึกดีกับคนนี้แล้วมันก็ค่อยๆแข็งแรงขึ้น มันไม่ได้มีโมเมนท์ที่ขอเป็นแฟนหรือโมเมนท์ที่มีดอกไม้หรือสวีทในช่วงแรกเท่าไหร่เลย มันเป็นการค่อย ๆ ไม่รีบ ๆ มารู้อีกทีเรารู้จักกันมาเป็นปีแล้ว มันเป็นฟีลอย่างนั้นมากกว่า

จีบยังไง วันนึงที่เราชอบกันแล้ว ?

อเล็กซ์ : ในช่วงที่เราโสดเราก็มีคุยตามประสาคนโสด แล้วเราก็จะมีเรื่องเล่าที่เป็นประโยคเด็ดเพื่อแสดงความฉลาดของเรา แต่พอเราแสดงความฉลาดกับคนนี้เขาไม่เล่นด้วย เราก็ต้องเปลี่ยนวิธีเราก็ต้องเอาใจ ๆ กับเขา อาจจะมีสวีทบ้างมีพูดคุยกันสนุกสนาน อาจจะไม่ใช่คำพูดที่สวีท อาจจะเป็นการเล่นกับเขาเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุด ตรงนี้สำคัญ ถ้าเราปล่อยตัวเราเองได้ 100% จริง ๆ พอเราเข้าปีที่ 6 ปีที่ 7 มันปล่อยได้เต็มที่จริงๆ ตรงนี้เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนสองคนไม่เห็นว่าจะมีปล่อยแบบนี้ได้กับใครแล้ว ก็ต้องอยู่ด้วยกันแล้ว

เห็นว่า 6-7 ปีที่คบกันมาไม่มีเรื่องทะเลาะกันเลย ?

อเล็กซ์ : ก็มีทะเลาะกันแต่เมื่อเราเทียบจากสิ่งที่ได้ยินจากคนนั้นคนนี้เราก็รู้สึกว่าเราเป็นคู่ที่พูดกันแมนๆได้ อาจจะมีทะเลาะเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ แต่ถือว่าน้อยมากๆ ใน 7 ปีนี้ที่หนักจริงๆ อาจจะมีครั้งสองครั้งที่จำได้ ที่เหลือก็คืออาจจะมีเถียงกันนิดนึงแต่ไม่หนักมาก

เรื่องที่ทะเลาะน่าจะเป็นเรื่องที่อเล็กซ์งอแง ?

อเล็กซ์ : ก็ด้วย(หัวเราะ) ส่วนมากจะเป็นเรื่องของเวลาที่เจอกัน ผมจะทำงานค่อนข้างเยอะแต่เขาจะเข้าใจมากๆ จำคำพูดของผู้ใหญ่ที่เล่าให้ฟังว่าทำงานแบบนี้อย่ากลายเป็นคนที่โตขึ้นมาไม่มีครอบครัวสำเร็จทางด้านการงานแต่ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก แล้วคำพูดนี้มันติดกับเรามาหลายปีมาก ถ้าเราอยากมีอนาคต อยากจะมีครอบครัว เราต้องใส่เวลาเจอเขาในตางรางของเราจริง ๆ และให้ความสำคัญจริง ๆ อันนี้ช่วยได้เยอะมาก

เตรียมการขอแต่งงานยังไง ?

อเล็กซ์ : คิดมาหลายปีแล้วอยู่ในใจของเราแต่ไม่ได้พูดให้ใครฟัง แต่คุยกันสองคนมันก็ถึงจุดที่ต้องคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ผมก็จะมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนว่าเพื่อครอบครัว เพื่อตัวเอง และเพื่อคุณ เพื่อครอบครัวก็คือสร้างบ้านให้ครอบครัวเก็บเงินให้พ่อแม่เราอยู่ถึงวันสุดท้ายได้อย่างสบายจริง ๆ หลังจากนั้นขอจัดการเรื่องบริษัทเรื่องงานประมาณปีนึง แล้วก็มาถึงจังหวะนี้ เพราะการมีครอบครัวมันต้องเสียสละครั้งใหญ่ไปตลอดชีวิตอีกรอบนึง เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องอิ่มก่อน พอเราอิ่มแล้วก็พร้อมจะมี ด้วยจังหวะอายุด้วยที่คบกันมาซักพักนึงแล้ว เลยคิดว่าเป็นจังหวะชีวิตที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ไม่อยากไปรีบอะไรมาก

ไปขอแต่งงงานที่ไหน ?

อเล็กซ์ : ที่เลคหลุยส์ แคนาดา เป็นสถานที่ที่พี่สาวไปแต่งงานที่นี่ พี่สาวไปแต่งงานที่โตรอนโต แล้วเราก็ยกไปทั้งครอบครัว เราก็แพลนว่าเราจะไปทริปแล้วเขาเป็นคนที่ชอบทะเลสาบมาก แล้วทะเลสาบนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก เราก็ไปพักกันที่นี่พอจัดงานแต่งเสร็จเราก็ไปเที่ยวกันสองคนเลยคิดว่าด้วยจังหวะอะไรหลายๆอย่างเป็นจังหวะที่ดี

วางแผนการขอแต่งงานยังไง ?

อเล็กซ์ : ไม่ง่ายเลย เรื่องแหวนเรื่องอะไรเป็นเรื่องใหม่มาก เกรดของแหวน ไซส์ของแหวน ไซส์เพื่อนแอบลองให้มาหลายปีแล้ว แอบได้ไซส์มา วันแรกที่เห็นเพชรผมตกใจมากเลยนะ กะรัตมันเดาไม่ออกมันเหมือนเม็ดข้าว มันเล็กนิดเดียว คือในความรู้สึกเกรดที่ดีที่สุดน่าจะสำคัญกว่าไซส์ที่ใหญ่ที่สุดในความรู้สึกผม แล้วด้วยตัวเรือนเขาไม่ได้ใหญ่เราอยากได้อะไรที่เหมาะกับตัวเขา

แต่ขบวนการเอาไปแคนาดาก็ไม่ได้ง่าย เราบินไปต่างหาก เราฝากแหวนแม่ไปก่อน พอเราบินไปผมใส่ไว้ในกระเป๋าสูทกับตัวเองตลอด ผมต้องใส่เป็นถุงกระสอบเล็กๆ เวลาเล่าให้เพื่อนฟังเขาจะบอกว่าไม่มีความโรแมนติกอะไรเลย โมเมนท์ที่กลัวมากที่สุดคือตอนเราไปสนามบินแล้วเราต้องถอดเสื้อแล้วเข้าไปในนั้น มันจะหายมั้ย พอไปถึงปุ๊ปเขาตื๊ด ๆ ขึ้นมาอันนี้คืออะไร แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แล้วก็ไม่อยากใส่กล่องเพราะมีคนทักมาว่าเดี๋ยวเขาจะรู้

ไปขอที่ทะเลสาบไม่คิดว่ามันจะตกน้ำหรอ ?

อเล็กซ์ : ก็คิดอยู่ครับ ไป 4 วัน เราก็คิดในใจว่าเราเอาวิวที่สุด เราเอาฟีลลิ่งที่สุด เราไม่มีช่างภาพ ไม่มีกำหนดการ ไม่มีเวลาดี เราก็คิดว่าใน 4 วันนี้ต้องขอจะวันไหนยังไม่รู้ ไม่ได้คิดว่าจะพูดอะไรให้มันเป็นฟีลลิ่งล้วนๆ ให้เป็นโมเมนท์ที่ดีล้วนๆ ถ้าเอาช่างภาพมามันจะระแวงความเซ็ต วันสุดท้ายก็ขึ้นเรือไปเป็นเรือพายตอนประมาณ ตี 5 ครึ่ง แล้วก็นั่งห่างกันเหลือเกิน เขาก็นั่งนู่น เรานั่งอยู่ข้างหลัง

จะขยับไปข้างหน้าเรือก็โยกแถมใส่เสื้อชูชีพอีก ชูชีพสีแดงแป๊ดเลย นึกในใจว่าเราจะถ่ายรูปแต่งงานกันโดยมีเสื้อชูชีพไม่ได้นะ เลยบอกเขาว่าถ่ายเซลฟี่กันหน่อยมั้ยถอดชูชีพรูปจะได้สวย ๆ แล้วโมเม้นท์นั้นก็มาด้วยตัวของมันเอง อันนี้คือขากลับแล้ว เราก็เห็นแล้วว่านั่งท่องเที่ยวที่นี่ก็เริ่มมา ถ้าเราไปขอบนบกทุกคนก็จะปรบมือเพราะผมเคยเห็นผมเคยไปเวนิสผมเคยเห็นทุกคนปรบมือ มันจะเขินไปหมด พอกลับมาคิดแล้วก็คิดว่าตัดสินใจถูกไม่ได้วางแผนเอาแบบเฟรช ๆ เลย

พูดยังไง ขอยังไง ?

อเล็กซ์ : เราก็พูดออกมาตามที่คิดตอนนั้นเลย ก็พูดออกมา เขาก็งง แล้วก็ตกลงกัน ไม่ได้มีคำพูดอะไร ตอนหลังเขามาบอกผมว่านึกว่าจะมีสปีชพูดยาวๆ เราก็เพิ่งมารู้ว่าขอแต่งงานต้องพูดเยอะ ๆ เหรอ ผมว่ามันเป็นโมเมนท์ที่เขาบอกผมมาตั้งนานแล้วว่าเขาอยากได้เซอร์ไพร์สแต่พอเขาโดนเซอร์ไพร์สจริงๆเขาก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน มันไม่ได้มีคำพูดหวานอะไรขนาดนั้น แต่มันแค่นิดเดียวเอง ก็ลองสวมแหวนแล้วก็ลุ้นแทบตาย ปรากฎว่าหลวม(หัวเราะ)

ว่าที่ภรรยาเขาว่ายังไงบ้าง ?

อเล็กซ์ : เขาก็งงเพราะว่าจริงๆเราคุยกันไว้แล้วว่ากลับจากทริปนี้เดี๋ยวจะเริ่มคุยกัน มันเป็นแผนที่เราวางเอาไว้ว่าเพื่อให้เขาไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นบนทริปนี้

ร้องไห้เหมือนในละครมั้ย ?

อเล็กซ์ : ไม่ได้ร้อง แต่ว่าตอนที่เรากลับไปที่โรงแรมแล้วเราเฟซไทม์ ครอบครัวผมอยู่ที่แคนาดาเหมือนกันแต่อยู่อีกเมืองนึงแล้วครอบครัวเขาอยู่ที่กรุงเพทฯแล้วเราก็เฟซไทม์ทั้งสองฝั่งแล้วเราเห็นรีแอ็คของคนอื่นอันนี้เริ่มมา เราเห็นความยินดี ความต้อนรับครอบครัวสมาชิกใหม่ของทั้งสองฝ่ายมันกินใจเรา

แพลนแต่งงานเมื่อไหร่ ?

อเล็กซ์ : มกราคมช่วงกลางๆเดือน ตอนนี้กำลังสรุปรายละเอียดที่แน่ชัดอยู่ ด้วยความที่ทุกอย่างบีบนิดนึงช่วงนี้

มีเวลาเตรียมมั้ยหรือว่าให้แฟนเป็นคนจัดการ ?

อเล็กซ์ : จริงๆเรื่องรายละเอียดของงานคิดว่าทางแฟนน่าจะมีภาพในใจที่ชัดเจนกว่าเรา ผมจะดูแลเรื่องเพื่อนเจ้าบ่าวจะเที่ยวที่ไหนดี ใส่ชุดอะไรดี ตอนนี้ชุดเยอะมาก ชุดพ่อชุดพี่ชาย เสาร์อาทิตย์เราก็จะไปเป็นครอบครัววัดโน่นวัดนี่ ก็สนุกสนานน่าตื่นเต้นดี

ตื่นเต้นมั้ย ?

อเล็กซ์ : ตื่นเต้นนะครับ พอมานั่งลิสต์แขกที่เราเชิญมา รู้สึกดีใจที่จะได้เจอกับทุกคนที่เราอาจจะไม่ได้เจอกันนาน แล้วก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เราเป็นเรา วันนี้เราอาจจะไม่ได้คุยกับเขามานานแล้ว แล้วเราจะได้ถือโอกาสนี้เข้าไปเอาการ์ดไปให้เขา ได้ชวนเขามา รู้สึกดีใจที่จะได้กลุ่มเพื่อน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานแต่งงานตื่นเต้นมาก

เวลาที่เรามีวันสำคัญเราต้องอยากได้อะไรที่พิเศษในงานของเรา ?

อเล็กซ์ : ของผมมีอย่างเดียวเลยคือพิธีรดน้ำสังข์ ผมไปงานแต่งแล้วรู้สึกว่าเวลาที่เพื่อนหรือผู้ใหญ่มารดน้ำสังข์ได้พูดอะไรนิดๆหน่อยๆ มันเป็นโมเมนท์ที่ซึ้ง ด้วยความที่เราไปเชิญผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านที่เรากำลังจะไปชวนแล้วเราไม่มีเวลาดูแลทุกๆคน นี่เป็นโมเมนท์เดียวที่จะได้มองตากับเพื่อนจริง ๆ ก็เลยขอแค่นี้ ไม่ได้เยอะเป็นร้อยๆคนแต่เฉพาะคนที่มางานหมั้นในตอนเช้า

คุณเจนนี่มีความต้องการอะไรพิเศษมั้ย ?

อเล็กซ์ : เขาก็อยากได้ดอกไม้เท่าที่ฟังเขา เขาก็จะมีภาพในหัวว่ามีดอกไม้ ผมก็รู้บ้างไม่รู้บ้าง ก็สกรีนให้เขาช่วยเขาคิด ด้วยความที่เราทำออแกไนซ์เราทำอีเว้นท์ด้วย

จัดกี่ที่ ?

อเล็กซ์ : ตอนนี้แน่ ๆ ที่กรุงเทพฯแต่พอมาดูแขกก็เลยคิดว่าอาจจะหาอีกทีที่ไม่ถึง 50 คน ที่เราจะจัดเฉพาะแค่เพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว ครอบครัว แต่ว่ายังไม่รู้รายละเอียดจะเป็นยังไง

แต่งแล้วมีทายาทเลยมั้ย ?

อเล็กซ์ : ก็หนึ่งในแผนแน่นอนด้วยอายุของผมกับเขาพอเรามาคำนวนดูแล้ว สมมติเรามีวันนี้เลยกว่าเขาจะเรียนจบเราก็ 60 กว่าแล้ว เราทำค่ายมาเราเห็นโมเมนท์ผู้ปกครองกับเด็กเราอยากมีโมเมนท์แบบนี้ เราอยากมีแรง ไม่ใช่กลับมาเหนื่อยๆแล้วไม่มีแรง เราอยากจะใช้เอเนอจี้กับเขาได้ ก็รีบ แต่ก็ยังไม่ได้วางไทม์ไลน์อะไรขนาดนั้น จริง ๆ คิดว่าอยากมีซัก 2 กำลังดี ผู้หญิงคนนึง ผู้ชายคนนึง มีมากกว่านั้นก็ได้ แต่อยากมีมากกว่าหนึ่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...