โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ใครว่าชุมพรมีดีแค่ทะเลล่ะจ๊ะ

Readme.me

อัพเดต 16 ธ.ค. 2562 เวลา 03.46 น. • เผยแพร่ 11 ธ.ค. 2562 เวลา 06.49 น. • Beauty Memory

สวัสดีค่ะชาว Readme วันนี้จุ๋มขออนุญาตรีวิวแหล่งทำกินที่จังหวัดชุมพรหน่อยนะคะ จุ๋มเดินทางไปทำงานที่ชุมพรครั้งนี้เพราะมีนัดกับลูกค้าที่ ธูษิฏา เวลเนส รีสอร์ท ซึ่งก็คือแหล่งทำกินหลักของจุ๋มเลยค่ะ และเนื่องจากไม่ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวในชุมพรเกือบ 2 ปีละ เดินทางคราวนี้มีเวลา 3 วัน 2 คืน เดินทางไปชุมพรด้วยสายการบินไทยแอร์เอเซียไฟลท์เช้าและกลับไฟลท์ค่ำ ฉะนั้นมีเวลาเที่ยวแบบเพียบ ๆ เต็มวันไปเลยจ้า

หลายคนคงจะรู้อยู่แล้วว่าทะเลชุมพรสวย จุดดำน้ำก็สวยงาม แต่ชุมพรไม่มีดีแค่ทะเลหรือเกาะ อ่านดูแล้วจะรู้ว่าชุมพรก็มีที่เที่ยวมากมายแบบเวลาแค่นี้มันจะพออะรั้ยยย…และก่อนอื่นขอออกตัวแรง ๆ ก่อนเลยว่า จุ๋มเป็นคนพูดเยอะ ฉะนั้นเขียนมันก็ต้องเยอะเหมือนพูดอ่ะนะ แล้วรีวิวที่เคยเขียนยาวยังไง รีวิวนี้ก็ยาวอย่างนั้นแหละ อ่านกันยาวปาย ยาวปายยยยยย

วันแรกเดินทางถึงสนามบินขุมพร เวลา 8.40 น. พอออกจะสนามบินจุ๋มก็มุ่งหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ อยู่ที่ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง ตามพระราชดำริ ที่นี่คือ โครงการแก้มลิง หนึ่งในแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดชุมพรนั้นเอง โครงการฯ นี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาอย่าง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจุ๋มเคยไปเมื่อหลายปีก่อน มีการสอนทำแชมพู สบู่เหลว EM Ball เพื่อให้เรียนรู้และพึ่งพาตนเอง แต่ครั้งนี้เห็นว่ามีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย มีการจัดสร้างสะพานชมกวาง และสะพานไม้เคี้ยมที่ยาวที่สุดในโลก เลยต้องขอไปชมสักหน่อย

จากสนามบินชุมพรไปโคงการหนองใหญ่ใช้เวลาไม่นาน เราไปถึงขณะที่แดดกำลังเปรี้ยงสุด ๆ ก็เลยได้เห็นแต่สะพานและกวางปูนค่ะ 5555 แนะนำว่าถ้าอยากเห็นกวางตัวเป็น ๆ ออกมาเดินเล่นเล็มยอดหญ้า ให้มาช่วงบ่ายแก่ ๆ เกือบเย็นนะคะ

/>

/>

จากนั้นก็อ้อมไปอีกมุมของโครงการฯ ที่เป็นสะพานไม้เคี้ยม ซึ่งใกล้ ๆ สะพานไม้มีร้านอาหารที่ตอนนี้จุ๋มจำชื่อไม่ได้แล้ว และไม่ได้เข้าไปชิมอาหารด้วย แต่จุดเด่นมาก ๆ ของร้านนี้คือ น้อง ๆ พนักงานต้อนรับค่ะ น้องวิ่งไปวิ่งมาต้อนรับแขกน่ารักน่าชังเชียวค่ะ มาดูโฉมหน้าน้องกันค่ะ

/>

สะพานไม้เคี้ยมทอดยาวไปในบึงน้ำที่เป็นโครงการแก้มลิงระยะทาง 290 เมตร ส่วนตัวคิดว่าถ้าถ่ายภาพมุมสูงจากโดรนคงสวยมิใช่น้อย

/>

มาชุมพรทั้งทีขอไปกราบสักการะศาลหลักเมืองสักหน่อยเน้อ พอไปแล้วพบว่ากำลังบูรณะจ้า หลังสักการะเสร็จก็ได้แต่บอกตัวเองว่าแล้วจะกลับมาสักการะใหม่อีกครั้งหลังบูรณะเสร็จนะคะ

/>

ไหว้ศาลหลักเมืองเสร็จแผนต่อไปคือ จุดชมวิวเขามัทรีและศาลกรมหลวงชุมพรฯ แต่ทางที่จะมุ่งหน้าไปยังทั้ง 2 จุดเราต้องผ่านร้านยายปวดนี่นา ร้านนี้จุ๋มเคยพลาดโอกาสมาแล้วครั้งนึงเพราะว่าไปถึงร้านประมาณบ่ายสอง ก็ไม่เหลืออะไรให้ลิ้มรสแล้ว ฉะนั้นยังไม่เที่ยงแบบนี้เราต้องไม่พลาดอีกเป็นครั้งที่ 2 งั้นกินก่อนไปต่อละกัน

ร้านยายปวดเป็นร้านแบบบ้าน ๆ เลยไม่ใช่ร้านอาหารใหญ่โต เสน่ห์ที่ได้ยินมาคือการใช้เตาถ่านและรสชาตที่เป็นต้นตำรับชาวชุมพรค่ะ เราลองเมนูที่จะไม่คุ้นเคยหน่อยก็คือ ปลาเค็มทอดกะทิ” เมนูนี้ออกจะเลี่ยนกะทิไปหน่อย “แกงป่ากระดูกหมูกับลูกกล้วย” ลูกกล้วยก็คือกล้วเล็บมือนางที่ยังดิบเปลือกสีเขียวอื๋อ รสชาตกล้วยก็ออกจะมัน ๆ คล้าย ๆ กินมันมันน่ะแหละ และเมนูที่รู้สึกปลื้มปริ่มมากที่สุดคือ “ปลาโฉมงามซอสมะขาม” เนื้อปลาอร่อยมาก ทอดมาแบบหนังกรอบเนื้อนุ่มราดด้วยซอสมะขามที่กลมกล่อมสุด ๆ ทุกท่านลงความเห็นให้แมนูนี้ชนะเลิศ สำหรับเมนูอื่น ๆ คิดว่าธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรโดดเด่น

/>

หลังอิ่มเราต้องยกเลิกแผนการไปเข้ามัทรีและศาลกรมหลวงชุมพรเพราะว่าฝนกระหน่ำลงมาแบบหลายแสนห่า ระหว่างทางกลับที่พัก ธูษิฏา เวลเนส รีสอร์ท ที่อำเภอทุ่งตะโก เราต้องผ่านวัดพระบรมธาตุสวี อำเภอสวี

จุ๋มเคยเข้าไปสักการระวัดพระธาตุสวีเมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว จำความรู้สึกครั้งนั้นได้ว่า ทำไมวัดเงียบขนาดนี้ ทำไมไม่มีคนเข้ามาไหว้พระเลย ทำไมวัดเหมือนปิดไว้เฉย ๆ เลยว่าแล้วความวิเวกก็ทำให้จุ๋มออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว แต่ครั้งนี้ความรู้สึกแรกที่เข้าไปคือ ว้าวววววววววว ทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ คือวันนี้แตกต่างจากวันนั้นโดยสิ้นเชิง วัดพระบรมธาตุสวีวันนี้มีทั้งพิพิธภัณฑ์ พระอุโบสถ ศาลพระเสื้อเมือง และสะอาดสะอ้านมาก มีหนู ๆ จากโรงเรียนอนุบาลมาไหว้พระเต็มเลย

พระเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงระฆัง แนวระเบียงคดประดิษฐานพระพุทธรูปมากกว่า 108 องค์ ภายในบริเวณพระเจดีย์ได้รับการดูแลอย่างดีสะอาดสอ้านและสงบร่มเย็นมาก และหลังจากมีโอกาสได้พบท่านเจ้าอาวาสท่านเล่าเรื่องราวให้ฟังมากมายและหนึ่งในเรื่องราวที่ได้ทราบมาก็คือ ที่ยอดสูงสุดหรือ“หยดน้ำค้าง”ขององค์พระธาตุ เดิมทำด้วยไม้สัก แต่ในการบูรณะครั้งล่าสุด ประชาชนได้ร่วมกันบริจาคทองคำน้ำหนัก 2 กก. มาทำเป็นหยดน้ำค้างเหลืองอร่ามงามตา

/>

ออกมาเจดีย์ก็เจอศาลพระเสื้อเมือง ซึ่งมีตำนานเล่าถึงประวัติการสร้างพระธาตุบรมสวีว่า เมื่อครั้งที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเสด็จยกทัพมารี้พลมาพักที่วัดร้างแห่งหนึ่งในเขตอำเภอสวี ได้พบกาเผือกและกาฝูงหนึ่งเกาะอยู่บนกองอิฐกระพือปีกและส่งเสียงร้อง พระองค์จึงให้รื้อเศษกองอิฐที่กองทับถมกันออกพบฐานเจดีย์ใหญ่ เมื่อขุดลึกลงไปได้พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงให้แม่ทัพนายกองไพร่พลช่วยกัน สร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่แทนที่เดิม จากนั้นพระราชทานชื่อว่า พระบรมธาตุกาวีปีก ต่อมาเรียกกันว่าพระธาตุกาวี และคำว่า กาวี ได้เพี้ยนจนเป็นกลายเป็นสวีในปัจจุบัน ก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชจะเสด็จยกทัพกลับ ทรงห่วงใยพระบรมธาตุว่าจะไม่มีผู้ดูแลรักษา จึงสั่งเรียกบรรดาทหารในกองทัพซึ่งกำลังนอนหลับสนิท ในขณะนั้นมีทหารคนหนึ่งชื่อ เมือง ขานรับพระองค์จึงมีรับสั่งถามว่า ต้องการจะอยู่ดูแลรักษาพระบรมธาตุแห่งนี้ไหม นายเมืองขานรับอาสา พระองค์จึงสั่งให้นายทหารตัดศีรษะนายเมืองเซ่นสรวงบูชาไว้ในศาลเพียงตา แต่ที่ศาลที่เห็นในปัจจุบันเป็นศาลที่บูรณะขึ้นใหม่แล้ว

พระอุโบสถรูปทรงแปลกตาต่างจากพระอุโบสถที่เราเห็นตามวัดทั่วไป พระอุโบสถที่นี่ดูเรียบง่ายแต่งดงามด้วยพระประธานที่ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณ

พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุสวี มีการจัดแสดงพระพุทธรูปโบราณที่ขุดค้นพบในบริเวณพระธาตุ ผ้าห่มพระธาตุที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ประธานไว้เมื่อหลายปีก่อนก็ถูกนำมาเก็บไว้ยังอาคารแห่งนี้

ค่ำคืนแรกเราฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารเมอร์รายา ของธูษิฏา เวลเนส รีสอร์ท และเข้านอนไว ๆ เตรียมตื่นแต่เช้าไปลุ้นหมอกที่ดอยตาปัง

เราเริ่มเช้าวันที่ 2 ตั้งแต่ตี 5 ออกจากธูษิฏา เวลเนส รีสอร์ท มุ่งหน้าจุดต่อรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ดอยตาปัง ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จากรีสอร์ทใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ลืมบอกไปว่าก่อนเดินทางจุ๋มโทรเช็คเรื่องรถ 4W กับผู้ใหญ่ประเสริฐ ภักดี ที่เบอร์ 098-8219831 ได้ความว่าจะมีรถ 4W มารอให้บริการตั้งแต่ตี 4 นะคะ ตอนจุ๋มไปถึงจุดขึ้นรถผู้ใหญ่ประเสริฐให้พวกเรานั่งรอดูลาดเลาก่อนเพราะว่าวันนั้นมันมีโอกาสที่จะฝนตก ผู้ใหญ่ไม่อยากให้เสียเงินค่ารถฟรี จำต้องนั่งรอดูสถานการณ์กันก่อน ฉะนั้นแล้วอาหารเช้าสำหรับแขกที่รีสอร์ทจัดให้ก็ได้เวลากำจัดทันที ค่ารถ 4W ขึ้นดอยราคา 500 บาท สามารถนั่งได้ 10 ท่าน จะเหมาหรือจะรอร่วมเดินทางกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นก็ตามแต่สบายใจเลยค่ะ

รอจนประมาณเกือบ 7 โมงเช้าก็โชดดีเป็นของเราเมื่อผู้ใหญ่ประเสริฐเดินมาบอกว่า ขึ้นตอนนี้เลยยังไม่โดนฝนแน่นอน ด้วยผู้ร่วมเดินทางของจุ๋มเป็นบุรุษหนุ่มผู้แข็งแรงบึกบึนทั้งหมด จุ๋มเลยได้นั่งตอนหน้าไปผู้ใหญ่ประเสริฐแบบสบาย ๆ เลย

ระหว่างทางขึ้นบนยอดดอย ใช้เวลาประมาณเกือน 40 นาที มีทั้งทางแบบชิลล์ ๆ ไร้พิษสง และลื่นไหล สไลด์ล้อฟรี ให้ได้กรี๊ดกร๊าดอะดรีนาพุ่งกระฉูด หัวใจจะกระดอนออกนอกอกกันเป็นระยะ แต่บอกเลยผู้ใหญ่ประเสริฐดูขับแบบโครตชิลล์อ่ะ

ถึงล้าววววววว ยอดดอยตาปัง วิวปัง อากาศปังมากกกกกกก เราอาจจะไม่ได้เห็นทะเลหมอกอย่างที่หวัง แต่มันไม่รู้สึกพัง เพราะที่เห็นตรงหน้ามันก็ปังอยู่ดี อากาศบนยอดดอยเย็นมากกก สูดหายใจแบบเต็มปอดสุด ๆ วิวคือปั๊วะปังสุด ๆ เสียดายที่ไม่ใช่ตากล้องมีอาชีพเลยมีปัญญาเก็บภาพมาฝากได้เท่านี้ เมฆหมอกเปลี่ยนไปทุกวินาที ซึ่งก็คือความงามที่หมุนเปลี่ยนเข้ามาทุกวินาทีเช่นกัน เราใช้เวลาอยู่บนอยู่ดอยนานนนนนมาก เอาให้คุ้มกับความหวาดเสียวตอนเดินทาง 555555555

/>

ลงจากดอยตาปังแวะจิบกาแฟสบาย ๆ ที่ร้านมะลิลา คอฟฟี่ซะหน่อย

จากนั้นเรามุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหลังสวน จริง ๆ แล้วเราเคยได้ยินประวัติเกี่ยวกับทางรถไฟที่ข้ามแม่น้ำหลังสวนว่า ในช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นใช้เส้นทางรถไฟนี้ลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ และฝ่ายอักษะต้องการตัดเส้นทางลำเลียงจึงเลือกทำลายทางรถไฟที่เป็นจุดข้ามแม่น้ำเพื่อยากต่อการซ่อมแซม หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบ ก็มีการซ่อมแซมสะพานใหม่ซึ่งมีรูปร่างต่างจากเดิมเราเลยมาดูว่ามันต่างกันยังไง และนั้นก็คือครึ่งนึงเป็นทรงเหลี่ยมและอีกครึ่งนึงเป็นทรงโค้งนั้นเอง

/>

ตรงนี้จุ๋มมโนว่่ามันต้องเป็นร่องลอยการสาดกระสุนจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเป็นแน่แท้

/>

มาสะพานแล้วก็ขอแวะสถานีรถไฟหลังสวนซะหน่อยละกัน เผื่อใครจะอยากเดินทางโดยรถไฟ

ใกล้เที่ยงละขอแวะกินขนมจีนร้านโปรดเลยค่ะกัน ร้านขนมจีนหาดยาย (สาขา 2) อยู่แถวตัวอำเภอหลังสวน เสน่ห์ของขนมจีนร้านนี้สำหรับจุ๋มนอกจากตัวน้ำยา น้ำพริกแล้วก็คือผัก ผักสด ผักลวก ผักราดน้ำกระทิ มันอลังการดาวล้านดวงมาก ถ้าคุณคือสายกินผักรับรองความฟินระดับกระเพาะปลิแตกค่ะ

จากร้านขนมจีนหาดยายก็เป็นเวลาที่จุ๋มนัดประชุมกับลูกค้าแล้วค่ะ หมดแล้วหรรษาเข้าโหมดทำงานกันไป ตกเย็นเราฝากท้องกับห้องอาหารเมอร์รายของ ธูษิฏา เวลเนส รีอสร์ท อีกเช่นเคย วันแรกเราอิ่มอร่อยกับเวลาไก่ปลาเบา ๆ แล้ว วันนี้ก็อาหารทะเลหน่อยละกัน อาหารที่นี่รสชาติจัดจ้านสมเป็นอาหารใต้อย่างที่สุด เจริญอาหารมาก ๆ อ่ะ

/>

เช้าวันที่ 3 ที่เราต้องเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว วันนี้เลยขอตื่นเช้าไปปั้นจักรยานชิลล์ ๆ แถวบ้านปากตะโกหมู่บ้านเล็ก ๆ ใกล้ ๆ รีสอร์ทสักหน่อย

มี Street art กรุบกริบให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย

ปั้นไปอีกนิดเราเจอวัดชลธีพฤกษาราม ซึ่งที่จุ๋มเล็งไว้แต่ไกลคือเจดีย์ที่อยู่ภายในวัด ซึ่งจุ๋มคิดว่ามีสแตนเลสเป็นวัสดุในการก่อสร้าง ทำให้ดูแปลกตากว่าเจดีย์ที่เห็นทั่วไป ลองปั้นจักรยานไปหน้าเจดีย์ก็เห็นเจดีย์เปิดให้เข้าไปพอดี แล้วเราจะพลาดทำไปล่ะ เข้าไปดูเลยละกัน

ภายในเจดีย์มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นนึงมีพระอัฐิธาตุจัดแสดงไว้มากมาย

/>

ออกจากเจดีย์มานิดนึง ก็เจอเมืองจำลองเล็ก ๆ ที่จำลองสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา เช่น ที่ประสูติ ตรัสรู้ สถานที่แสดงธรรม และปรินิพพาน

/>

/>

/>

ออกจากวัดเราปั้นมุ่งหน้าไปที่สะพานข้ามแม่น้ำตะโก มาชมวิวของเขาอะไรก็ไม่รู้แต่แอบทำให้คิดถึงพังงาขึ้นมาซะงั้น เช้านี้โชคดีที่แดดไม่โหดเท่าไรมีลมเย็นกำลังสบาย แต่จะแนะนำว่าถ้าตอนเย็นว่าง ปั้นมาตอนเย็นเถอะค่ะ ช่วงพระอาทิตย์ตรงดินที่มุมนี้คงจะสวยเป็นสองรองใครแน่ ๆ เลย

/>

ปั้นจักรยานเสร็จก็กลับมาอาบน้ำให้สบายตัวแล้วหม่ำมื้อเช้ากัน

เอาบรรยากาศภายใน ธูษิฏา เวลเนส รีสอร์ท มาให้ดูนิดนึง รีสอร์ทตั้งอยู่บนหาดอรุโณทัย มีทั้งหมด 3 โซนนะคะ เป็นโซนสวนที่จุ๋มนอนนี่แหละหนึ่งโซน โซนที่สองอยู่ติดหาดเลย โซนที่สามให้บริการในแบบโฮมสเตย์ ซึ่งเอาจริง ๆ รอบนี้จุ๋มไม่ได้ไป 2 โซนหลัง ก็เลยไม่มีรูปมาฝาก งั้นมาดูรูปห้องพักและบรรยากาศโซนสวนที่จุ๋มพักละกันค่ะ

/>

/>

จากนั้นเราก็ Check out และไปหม่ำมื้อกลางวันกันที่ร้านยิ้ม อยู่ที่ตำบลทุ่งคา อำเภอเมืองค่ะ แถวร้านมีป้ายว่าเป็นดอนหอยหลอดชุมพรด้วยนะคะ ร้านอยู่ริมน้ำบรรยากาศดี อาหารอร่อยค่ะ

จากร้านยิ้ม เรามุ่งหน้าเขามัทรีและศาลกรมหลวงชุมพรที่เราพลาดในวันแรกกันค่ะ วันนี้เขามัทรีฟ้าใสเชียวค่ะ

/>

จากเขามัทรีมุ่งศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักร์ จุดที่จุ๋มเข้าไปสักการะคือศาลด้านล่างที่เป็นจุดพักพระศพพระองค์ท่านนะคะ ไม่ได้ขึ้นไปศาลด้านบนเพราะเกรงว่าจะไม่ทันเวลาขึ้นเครื่อง

/>

ชุมพร 3 วันมันไม่พอจริง ๆ ใครว่าชุมพรไม่มีอะไรอันนี้จุ๋มเถียงเลยค่ะ เพราะยังมีผาเปิดใจบ้านพันวาล จุดชมทะเลหมอกเขาออง ถ้ำเขาพลูที่ละแม วัดถ้ำรับร่อที่ท่าแซะ ไหนจะหมู่เกาะชุมพร เกาะร้านเป็ดร้านไก่ และอีกมากมายสาธยายกันไม่หมด แล้วจะกลับมาใหม่นะคะชุมพร

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ www.facebook.com/BeautyMemoryMyOnlineDiary

ขอบคุณ Readme ที่มีพื้นที่ให้แบ่งปันประสบการณ์
ขอบคุณทุกท่านที่คลิ้กเข้ามาอ่านรีวิวนี้ค่ะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยนะคะ

กดอ่านรีวิวนี้ต่อ https://th.readme.me/p/29109
ติดตามรีวิวใหม่ๆ ได้ที่ Readme.me
ติดตามแฟนเพจเราได้ที่ Facebook Readme.me - ไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...