“มะเร็งเต้านมในผู้ชาย” พบได้น้อยแต่อันตรายและรุนแรง!
มะเร็งเต้านม หลายคนคิดว่าเกิดขึ้นเฉพาะผู้หญิง แต่ที่จริงแล้ว ผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน แม้จะพบได้เพียงประมาณ 1% แต่สิ่งที่ทำให้โรคนี้อันตรายสำหรับผู้ชายคือ มักถูกตรวจพบในระยะที่โรคลุกลามไปแล้ว เนื่องจากหลายคนไม่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยง โดยทางการแพทย์ระบุว่า เกิดจาก ความผิดปกติของเซลล์เต้านม ที่แบ่งตัวเร็วและไม่สามารถควบคุมได้ จนก่อตัวเป็นก้อนเนื้อร้าย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา เซลล์เหล่านี้อาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง บริเวณรักแร้ และอวัยวะอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกับในผู้หญิง
ไขข้อสงสัย! ป่วย“มะเร็งเต้านม”จำเป็นต้องตัดเต้านมทิ้งทั้งหมดหรือไม่?
เช็กด่วน! 10 ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม หญิงไทยพบผู้ป่วยใหม่ราว 50 คนต่อวัน
สาเหตุมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่พบว่ามีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง เช่น
- พันธุกรรม
- อายุที่มากขึ้น
- ความผิดปกติของฮอร์โมน
- การสัมผัสรังสีบริเวณทรวงอก
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างเช่นการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
หนึ่งในปัญหาของการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในผู้ชาย คือ อาการระยะแรกมักไม่ชัดเจน ก้อนที่เกิดขึ้นมักมีขนาดเล็กและไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ จึงทำให้หลายคนไม่สังเกตความผิดปกติ อย่างไรก็ตาม หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด
- มีก้อนแข็งหรือเนื้อเต้านมหนาขึ้นผิดปกติ
- หัวนมบอด ยุบตัว หรือเปลี่ยนรูปร่าง
- มีเลือดหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม
- ผิวหนังบริเวณเต้านมแดง บวม หรือหนาตัว
- ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้โต
- รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองรอบเต้านม
การตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นช่วยเพิ่มโอกาสรักษาหายได้สูงถึง 90%
หากพบความผิดปกติ แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและอาจใช้เทคโนโลยีขั้นสูงร่วมด้วย เช่น อัลตราซาวด์เต้านม (Ultrasound), แมมโมแกรม (Mammogram) และ การเจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy) เพื่อยืนยันการวินิจฉัย นอกจากนี้ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม อาจได้รับคำแนะนำให้ทำ การตรวจยีน BRCA1/BRCA2 เพื่อประเมินความเสี่ยงเพิ่มเติม
สำหรับวิธีการรักษามะเร็งเต้านมในผู้ชาย ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพโดยรวม ได้แก่
- การผ่าตัดเต้านม (Mastectomy) เพื่อตัดก้อนมะเร็งหรือเต้านมออก
- การฉายรังสี (Radiation Therapy) เพื่อลดความเสี่ยงการกลับมาเป็นซ้ำ
- การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy) ทำลายเซลล์มะเร็งที่กระจายไปแล้ว
- การให้ฮอร์โมนบำบัด (Hormone Therapy) สำหรับผู้ที่มะเร็งตอบสนองต่อฮอร์โมน
- การใช้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) เพื่อจัดการเซลล์มะเร็งที่มีความผิดปกติของยีนเฉพาะ
แม้ไม่สามารถป้องกันมะเร็งเต้านมได้ 100% แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี เช่น
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และโปรตีนไขมันต่ำ
- ตรวจสุขภาพประจำปี และหากพบก้อนผิดปกติควรรีบพบแพทย์
มะเร็งเต้านมในผู้ชายอาจพบได้ไม่บ่อย แต่ความอันตรายไม่ได้ต่างจากผู้หญิง หากตรวจพบช้าโอกาสรักษาหายจะลดลง ดังนั้น ผู้ชายทุกคนควรใส่ใจสุขภาพของตนเอง สังเกตความผิดปกติของเต้านม และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 2