"ชูวิทย์" ฉะพรรคส้ม "ไปว่าเขาเทา แต่เราเทาเสียเอง" หลังผู้สมัคร สส. ถูกจับคดีฟอกเงิน
วันนี้ (29 ธ.ค. 68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ภายใต้หัวข้อ “มีเทา ไม่เหลือใคร” แสดงความคิดเห็นต่อกรณีตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เข้าตรวจค้นและจับกุม นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร เขตบางพลัด–บางกอกน้อย พรรคประชาชน ในข้อหาฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด
กรณีดังกล่าวทำให้พรรคประชาชนออกมาประกาศเปลี่ยนตัวผู้สมัคร พร้อมขอโทษต่อสาธารณชน และยืนยันจุดยืนว่า “มีส้ม ไม่มีเทา” โดยระบุว่าได้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด
ชูวิทย์ ระบุว่า พรรคประชาชนใช้นโยบายปราบปราม “สีเทา” เป็นประเด็นหลักในการหาเสียง แต่กรณีที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การคัดเลือกผู้สมัครไม่ควรตรวจสอบเพียงประวัติพื้นฐานหรือเอกสารเหมือนการรับสมัครงานทั่วไป เนื่องจากตำแหน่ง สส. เป็นผู้แทนของประชาชน และควรมีมาตรฐานที่สูงกว่าอาชีพอื่น
ชูวิทย์ ยังกล่าวถึงประเด็น “สีเทา” ในวงการการเมืองว่า มีหลายระดับ ตั้งแต่เทาอ่อน เทาเข้ม ไปจนถึงเทาดำ หากเข้าเรื่องยาเสพติดอันนี้ดำปี๋ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากพิจารณาเรื่องสีเทาอย่างจริงจัง อาจไม่เหลือพรรคการเมืองใดที่ปราศจากปัญหา
สำหรับกรณีผู้สมัคร สส. เขต 33 พรรคประชาชน ชูวิทย์ ระบุว่า ถูกจับในข้อหาฟอกเงินจากบริษัทที่มีเงินหมุนเวียนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดกว่า 20,000 ล้านบาท และได้รับเงินจากบริษัทเป็นรายเดือน ทำให้พรรคต้องรีบตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้สมัครทันที เนื่องจากมีนโยบายต่อต้านสีเทาเป็นหลัก
นอกจากนี้ ชูวิทย์ ยังเตือนว่า ภาพลักษณ์ภายนอกของผู้สมัครอาจดูดี มีความเป็นคนรุ่นใหม่ หรือมีภาพลักษณ์ทางวิชาการ แต่ภายในอาจมีปัญหาแฝงอยู่ พร้อมเรียกร้องให้พรรคประชาชนตรวจสอบผู้สมัครในเขตอื่น ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ทั้งนี้ ชูวิทย์ ทิ้งท้ายว่า การออกมาชี้ว่าพรรคการเมืองอื่นมีปัญหาสีเทา อาจไม่สามารถทำได้อีกต่อไป หากพรรคของตนเองยังมีปัญหา พร้อมเปรียบเปรยว่า “ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นไปทั้งข้อง”