หมอริท ลงซีรีส์วาย ประกบคู่เพื่อนซี้ กัน นภัทร ว้าวแน่! ขนลุกตั้งแต่อ่านบท
"หมอริท เรืองฤทธิ์" ลงซีรีส์วาย มิติใหม่ประกบคู่เพื่อนซี้ "กัน นภัทร" ขนลุกตั้งแต่อ่านบท พร้อมเตรียมผลัดกันธุรกิจคลีนิคเข้าตลาดหลักทรัพย์ วางแผนไกลถึงการสร้างโรงพยาบาลในอนาคต
ห่างหายจากการแสดงไปปฏิบัติหน้าที่การเป็นคุณหมอไปนาน ล่าสุด"หมอริท - นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช" เตรียมหวนคืนจอให้แฟนคลับได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง กับผลงานซีรี่ส์วายเรื่องแรกประกบเพื่อนซี้ "กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ"
กับเรื่อง "อาหารมื้อสุดท้ายก่อนโลกกลายเป็นทางด่วนอวกาศ (Last Meal Universe)" โดย "หมอริท" ได้เปิดใจขณะมาทำหน้าที่พิธีกรในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดการประชุมวิชาการร่วมคณะแพทยศาสตร์ 4 สถาบัน พ.ศ. 2568 จุฬาฯ - รามาฯ - ศิริราช - ธรรมศาสตร์ พร้อมเผยถึงแผนอนาคตในการขยายคลินิคเสริมความงามของตัวเองในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ด้วย
เป็นยังไงบ้างกับการกลับมาเล่นซีรีส์หลังหายไปนาน ? "ก็ห่างหายไปนานแล้วครับ จริงๆ ก็ไม่ค่อยได้เล่นซีรีส์เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆจังๆ ครั้งนี้เป็นการเล่นบทนำเป็นครั้งแรกเลย" (แตกต่างกันไปยังไงบ้าง ?) "แตกต่างสุดๆ”
เคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากเล่นซีรีวายแล้ววันนี้ได้มาเล่นจริงๆ ? “ครั้งนั้นก็ตอบทีเล่นทีจริง เพราะคิดว่าถ้ามีโอกาสก็คงเล่นได้ แต่อันนี้โอกาสมันเหมาะเจาะเกินไปตรงที่เล่นกับเพื่อน คือจริงๆถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ “กัน (นภัทร)” ก็คงไม่ได้เล่น แต่พอเป็น “กัน” มันก็เหมือนว่า คือจริงๆ ริทเป็นคนถือคติยึดงานของหมอเป็นหลัก แล้วงานของวงการบันเทิงเหมือนเป็นงานผ่อนคลาย ยิ่งได้ไปเจอเพื่อนก็เหมือนได้ไปพักผ่อนกัน ทำงานแบบพักผ่อนอะไรอย่างนี้”
แล้วทำไมถึงจับพลัดจับผลูอยู่ดีๆ มาเล่นด้วยกันได้ ?
“นั่นน่ะสิ คือเขาไปตั้งต้นมาจากหนังในตอนนั้น (ภ. ดับแสงรวี) เล่นหนังด้วยกันแล้วออกไม่กี่ซีน ไม่กี่วิ คนดูบอกว่ารู้สึกว่ายังไม่เต็ม มันยังไปต่อได้” (เรามีขายไว้ว่าเรามีจูบกันได้ ?) “ ใช่ครับ (หัวเราะ)”
แล้วจากวันนั้นมันสานต่อยังไง ว่าเราจะเล่นด้วยกัน ? “ก็จริงๆ ก็โทรคุยกันว่าแบบเล่นไหม ถ้าเล่นก็เล่นด้วยกัน แล้วก็คุยกันว่าถ้าเล่นเราจะทำออกมาให้มันเป็นซีรีส์วายอีกมิตินึงนะ” (มิติไหน ?) “ อันนี้ต้องไปตามดูนะ เพราะว่าแอบเห็นที่ตัดต่อเวอร์ชั่นเตรียมออนแอร์แล้ว แอบเห็นแล้ว มันเป็นซีรีส์วายอีกมิตินึง คือเวลาเรานึกถึงภาพซีรีส์วาย มันก็จะนึกถึงภาพความวาย ความรักหอมกรุ่น ความจิ้นอะไรอย่างนี้ ซึ่งอันนี้มันก็คือวายอยู่ดี แต่ว่ามันจะออกมาเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง มิติใหม่เลย”
เป็นซีรีส์วายรสชาติไหน ? “ซีรีส์วายเรื่องนี้หรอ มันจะรสชาติออกแนวขมๆ นิดนึง (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ ด้วยความที่พลอตเรื่องมันเป็นซีรีส์วายใช่ไหมครับ ในซีนมันก็จะมีการเข้าคู่กันบ้าง แต่ว่าด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกัน เราก็เล่นในฐานะนักแสดง จินตนาการว่าเราเป็นตัวละครนั้นๆ แต่พอเข้าคู่กันปุ๊บ มันไม่ได้ออกมาเป็นเคมีความวายแบบนั้น มันจะออกมาเป็นวายอีกแบบนึง มันเป็นอีกรสหนึ่ง คนละรสชาติ คือมันต้องดู คือถ้าไม่ดูก็ไม่รู้เลย”
ตอนที่อ่านบทรู้สึกยังไงบ้าง ? “ขนลุก บทธรรมดาๆ เลย แต่ตอนอ่านนี่คือบทขนลุกเลย ฟีลแบบมันจะเกิดขึ้นแล้วหรอกับเรา (หัวเราะ) ประมาณนั้น แต่พอถึงตอนที่เข้าซีนจริงๆ ผู้กำกับเขาให้อิสระในการเล่น สมมุติว่าเทคที่หนึ่งเราเล่นตามสิ่งที่ควรจะเป็นก่อนตามบทก่อน พอเทคสอง ผู้กำกับก็บอกว่าลองอิสรภาพ เต็มที่เลย ลองอิมโพรไวส์ซิ ลองขายมาซิ มันก็จะเจออะไรใหม่ๆ ที่รสชาติมันไม่เหมือนซีรีส์วายเดิมๆ”
วันนั้นที่พูดไปว่ามันไม่น่าจะเป็นจริง แต่พอได้มาเล่นจริงๆ มันกังวลตรงไหนไหม ? “ไม่กังวลเลยนะครับ จริงๆไม่กังวลเลย จริงๆ ห่วงที่สุดคืออะไรรู้มั้ย? ห่วงคนดู เพราะเขาอาจจะคาดหวังฟีลเสิร์ฟๆ แพตเทิร์นซีรีส์วายว่าจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ ต้องมีการทะเลาะกันก่อน แล้วไปเจอกัน แล้วมีความมุ้งมิ้งชอบกัน ห่วงคนดูว่าเขาจะคาดหวังแบบนั้น แต่พอเราถ่ายออกมา แล้วก็ตัดต่อมาแล้วอ่ะ มันคนละวายอ่ะ”
ตอนที่ดูตัดต่อมีความจิ้นไหม ? “มันได้ แต่มันไม่ใช่ฟีลแบบว่าฉันรักเธอจังเลย มันไม่ใช่แบบฟีลเดิมที่ทุกคนเคยเจอมา มันเป็นฟีลแบบมันได้ แต่มันได้อีกแบบนึง แต่ไม่รู้จะพูดออกมายังไงดี (แล้วตัวละครมันได้กันไหม ?) อืมมมม… อันเนี่ยบอกไม่ได้ ต้องติดตาม”
มันเป็นยังไงบ้างฉากเลิฟซีน ? “มันแบบถึงขนาดไหนหรอ ? มันก็จะมีความแบบร่างกายถึงกันระดับนึง แต่ไม่บอกว่าอวัยวะส่วนไหน (หัวเราะ) อาจจะแค่จับมือก็ได้ไง เข้าใจป่ะ หรืออาจจะแค่หัวชนกัน หรือซบไหล่ก็ได้ หลายอวัยวะที่มันสัมผัสกัน คือการแสดงความรัก มันแสดงความรักได้หลายทาง มันไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจเสมอไป หรือมันเป็นแบบนั้นก็ได้ ต้องดู”
ตอนที่มองหน้ากันมันขำไหม ? “ เอาจริงๆไหม ? ริทเป็นคนที่หลุดขำง่าย แต่กันมันเหมือนมืออาชีพกว่า เขาเล่นละครมาเยอะ เขาเล่นมาหลายเรื่องแล้ว เขาาก็จะรู้ว่า 5 4 3 2 แอ็คชั่น เขาจะทำยังไงใช่ไหม แล้วมันก็จะแกล้งริทให้หลุดบ้าง ให้โน่นให้นี่บ้าง คือริทมองหน้ากันก็ขำอยู่แล้วตั้งแต่แรก โดยเฉพาะซีนที่ต้องมาแบบสบตาปิ๊งๆ อ่ะ”
ซีนทำอาหารเหรอ ซีนหั่นผักอะไรแบบนี้ ?) “ อ่ะ ใช่ฟีลๆ นั้นมี เราก็จะแบบมึงดีๆดิ เอออะไรอย่างนี้” (ต้องฮึบแค่ไหน ?) “ มันก็ต้องแบบฮึบ! (ทำหน้าเม้มปาก หัวเราะ) เอาตรงๆ เลยนะ ริทมั่นใจเลยว่าคนที่ดูเรื่องนี้จะรู้ว่าริทกลั้นขำอยู่ หน้ามันออก หน้ามันจะแบบ (ทำหน้าเม้มปาก) แต่คือบางอย่างผู้กำกับเขาตั้งใจใส่ลงไป
เพราะว่ามันก็เป็นเสน่ห์ในเรื่องอีกแบบนึงเหมือนกัน เพราะอย่างที่บอกเราตั้งใจว่าเราจะไม่ทำวายปกติอยู่แล้วตั้งแต่แรก ไม่ใช่วายแพตเทิร์นแน่นอน ใครที่คาดหวังจะเจอวายแพตเทิร์น อินเลิฟ หวาน มองตาซึ้ง ฟีลๆ นั้นน่ะ ไปดูเรื่องอื่นก่อน (หัวเราะ ) อันนี้แจ้งให้ทราบเลย แต่ริทจะบอกว่ามันเซอร์ไพรส์ แล้วก็มันเกินคาดกว่าที่คิด เพราะมันเป็นวายที่ริทก็ยังไม่เคยดูวายแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน”
ในเรื่องจะเป็น ”กัน-ริท“ หรือ “ริท-กัน” ? “เป็น “กัน-ริท” หรือบางวันก็เป็น “ริท-กัน” ได้ คือมันไม่มีการตกลงกันเกิดขึ้นไง มันต้องไปดูว่าอารมณ์วันนั้นว่าใครเป็น “กัน-ริท” ใครเป็น “ริท-กัน”
พอได้เห็นออกมาเป็นหนึ่งอีพีแล้ว ได้คุยกับกันไหมว่าเป็นยังไง โอเคไหม ? “จริงๆ ริทชอบนะ คือริทรู้สึกว่าความตั้งใจแรกมันอยากสร้างมิติใหม่ในซีรีส์วาย เอาจริงๆ ตั้งแต่ประกาศมาว่าสองคนนี้มันจะเล่นซีรีส์วายด้วยกัน จนมาถึงวันนี้ เราคาดหวังไว้อยู่แล้วว่ามันจะไม่ได้ออกมาในแบบที่ทุกคนเคยดูกัน แต่มันก็จะแอบเขินๆ นิดนึงตรงเวลาเว็บไซต์ต่างชาติ หรือคนต่างชาติ ที่เขาชอบดู BL ไทย แล้วเขาอาจจะคาดหวังว่าคู่นี้มันต้องเป็นแบบที่เคยเป็นมาแน่นอนเลย แล้วเขาจะผิดหวังหรือเปล่า ก็อยากให้เตรียมใจไว้ก่อนเลยว่าอย่าคาดหวังในแบบที่เคยเห็นแต่สนุกแน่นอน แค่ไม่เป็นไปตามสิ่งที่เป็นมา”
แฟนคลับเราสองคนว่ายังไงบ้าง ? “เขาก็น่าจะปล่อยเลยตามเลย (หัวเราะ) เขารู้แล้วว่าอันนี้มันจะมาในรูปแบบอย่างนี้ เขาน่าจะรู้อยู่แล้ว ถ้าอยู่ดีๆ จะให้แสดงอินเลิฟอย่างนั้นเลย คนก็ไม่เชื่ออีกอยู่ดี แล้วบทมันก็ไม่ได้มาแบบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ”
เรื่องย่อมันเป็นประมาณไหน ? “เรื่องย่อมันคือตัวริทเล่นเป็น ”ชุนณ์“ เป็นวิศวกรจากดาวนอกโลก หน้าที่จริงๆ คือมาระเบิดดาวโลกเพื่อสร้างทางด่วนอวกาศ แล้วพอตอนที่จะต้องลงมาระเบิดดาวโลก ก็เกิดเหตุที่จะต้องอยู่ในโลกต่อ แล้วก็ได้มีโอกาสไปลองชิมอาหารบนโลก แล้วคนที่ทำอาหารคนนั้นก็คือ “ชนแดน” ก็คือกัน ซึ่งก็ทำอาหารอร่อยมาก แล้วชีวิตเราที่ผ่านมากินอาหารผ่านแคปซูลตลอด ไม่มีรสชาติ พอได้ลองทานอาหารที่ดาวโลก เรารู้สึกว่าอาหารอร่อยมาก เป็นอาหารไทย ซึ่งกันฝีมือสุดยอดมาก พอกินไปกินมาก็เริ่มรู้สึกว่าคนนี้ดูแลเราดีจัง ให้ข้าว เลี้ยงเรา ให้ที่พัก เราก็เลยรู้สึกขอบคุณในความรู้สึกดีๆ ที่เขามีให้“ (ก็คือติดใจในรถมือเขา ?) “ ติดใจหลายๆ อย่างของเค้า จนไม่อยากกลับไปที่ดาวของตัวเองแล้ว แล้วก็เป็นเรื่องราวถัดๆมา”
หลังจากปล่อยโปสเตอร์โปรโมตไปฟิตแบคเป็นยังไงบ้าง ? “จริงๆโปสเตอร์ยังปกติ Short TEASER ก็ยังปกติ แต่เดี๋ยวมันจะมีตัวยาวอีก ถ้าเกิดได้เห็นตัวยาวตัวเต็มคือรู้เลย”
มีเวอร์ชั่น Uncut ด้วยมั้ย ? “คิดว่ามีนะครับ แต่ Uncut ริท กับ Uncut ที่ทุกคนเข้าใจ จะไม่เหมือนกัน มันจะเป็น Uncut อีกแบบ ซึ่งริทเห็น Uncut นั้นแล้ว มันก็จะไปตีตลาดทางคาเฟ่อะไรอย่างนี้ เป็นแนวโบ๊ะบ๊ะ ช่วงนี้คนเครียดเยอะ ดูอะไรอย่างนี้อาจจะเอนเตอร์เทนก็ได้”
จะได้ดูเมื่อไหร่ ? “วันที่ 2 มีนาคม ทางช่องวันครับ”
ถามเรื่องช่วงนี้คลินิกเดินสายรับรางวัล ? “ก็ไปเฉพาะช่วงที่ได้รางวัลใหญ่ๆ อย่างงี้ครับ ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ในฝั่งคลินิกด้วย ฝั่งงานตัวเองด้วยอะไรอย่างนี้”
เรามีแผนขยายยังไง ตอนนี้มีกี่สาขาแล้ว ? “ถ้าเกิดเป็นคลินิก The RITZ มีทั้งหมด 10 สาขา แล้วก็มีอีกหนึ่งคลินิกที่เป็นน้องใหม่ชื่อ Space v อีกหนึ่งสาขา แล้วก็มีคลินิกศัลยกรรมตาชื่อว่า iLIDZ อีกหนึ่งสาขา รวมกันทั้งหมดเป็น 12 สาขาตอนนี้ครับ อยู่ในกรุงเทพฯหมดเลยครับ”
เห็นว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ? “ใช้คำว่ากำลังเตรียมข้อมูลอยู่ ก็ระยะเวลาเตรียมข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์เขากำหนดไว้ก็คือ 3 ปี ซึ่งก็เตรียมมาแล้ว 2 ปี ก็เหลืออีกหนึ่งปี ก็คือปีนี้ เป็นปีสุดท้ายที่จะต้องเตรียมข้อมูล แล้วก็เตรียมผลประกอบการ เตรียมแผนการเติบโต เตรียมผลกำไรอะไรประมาณนี้ ซึ่งก็จะใช้เวลาอีกประมาณปีหน้า ถึงจะรู้ว่าแผนการเข้าตลาดมันโอเคหรือไม่โอเค ทำได้หรือไม่ได้ ก็ต้องให้ทางตลาดหลักทรัพย์เขาตรวจ”
ณ วันนี้มองยังไง การทำศัลยกรรมในเมืองไทย เพราะตอนนี้คนจะทำในเมืองไทยมากกว่าที่จะบินไปทำต่างประเทศ ? “จริงๆต้องบอกว่าตลาดการดูแลตัวเอง ความสวยความงาม การศัลยกรรมในประเทศไทย ก็ยังถือว่าเติบโตอยู่ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัวในปัจจุบันนี้นะครับ แต่ว่าในกลุ่มของ well being เรื่องของสุขภาพ wellness ต่างๆ ความงามอย่างที่บอกไป ยังสามารถเติบโตได้อยู่นะครับ ตอนนี้ประเทศไทยเรามีแผนผลักดันให้ประเทศไทยเราเป็นเหมือนศูนย์กลางของการแพทย์ เป็น medical hub ซึ่งตอนนี้นโยบายก็กำลังผลักดันไปในทางนี้อยู่ เพราะฉะนั้นเนี่ยในเรื่องของทิศทางเกี่ยวกับการแพทย์ แล้วก็ wellness ความงามเนี่ย เรียกได้ว่ายังเติบโตต่อเนื่องอยู่ในตอนนี้ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับคนทำธุรกิจในด้านนี้ ก็ยังรู้สึกอุ่นใจที่ยังเดินสายนี้อยู่ครับ”
แล้วในอนาคตวางแผนถึงขั้นที่อยากจะมีโรงพยาบาลเลยไหม ? “จริงๆ ปลายทางก็มีแผนที่จะเปิดโรงพยาบาลเหมือนกัน ก็อยากขยายสาขาไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะตอนนี้เราอยู่แค่กรุงเทพฯ ก็เอาตรงๆ จริงๆ คลีนิคที่ทำมาตอนนี้อยู่แค่ในกรุงเทพฯ เราก็พยายามพัฒนาทีมงานของเราให้แข็งแรงมากขึ้น ทำระบบให้ดีขึ้น ทำเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีการรักษาให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ แล้ววันนึงที่พร้อมก็จะเริ่มออกจากกรุงเทพฯไปสู่ต่างจังหวัด ไปอยู่ทั่วประเทศ แล้วก็ขึ้นเป็นโรงพยาบาลให้ได้”
มีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์บ้างไหม ? “ก็มีคนติดต่อซื้อเหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้เปิดขายตอนนี้ ยังดูแลเองไหวอยู่ ตอนนี้ก็เป็นของเราคนเดียว”
เพราะอะไรที่เราอยากดูแลเอง ? “เอาจริงๆ ส่วนตัว นิสัยส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทำตามใคร แล้วก็เป็นคนเชื่อมั่นเชื่อใจตัวเองว่าเราประกอบธุรกิจแบบมีจริยธรรม แล้วเราก็ไม่อยากให้ใครเอาเรื่องผลประกอบการ เรื่องเงิน หรือเรื่องอะไรมาเป็นตัวบังคับการเติบโตธุรกิจ เพราะถ้าเกิดเขามาอยู่กับเรา แน่นอนว่าเขาลงทุน เขาก็คาดหวังอะไรบางอย่าง ก็เลยยังไม่ตัดสินใจที่จะให้ใครเข้ามาในธุรกิจเรา เพราะว่ามันเป็นธุรกิจการแพทย์ แล้วโอกาสที่จะทำให้มันออกนอกลู่นอกทาง หรือมองเรื่องตัวเลขมากกว่าเรื่อง Ethics หรือเรื่องจริยธรรม มันมีโอกาสสูงที่จะบิดเบี้ยวไป ก็เลยขอคลุมไว้เองก่อนแล้วกัน แล้วทีมแข็งแรงเมื่อไหร่จะไปต่างจังหวัดทันที”
แล้วสมมติในอนาคต 3 ปี ถ้าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ได้วางแผนไว้ยังไงบ้าง ? “จริงๆ ถ้าเกิดวันนั้นที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ เราก็จะได้เงินทุนจากมหาชน ก็จะต้องมีแผนในการขยายธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจ แต่อย่างที่บอกไป คือการขยายธุรกิจภายใต้การกดดันของตัวเลข โอเคมันก็ต้องทำ”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หมอริท ลงซีรีส์วาย ประกบคู่เพื่อนซี้ กัน นภัทร ว้าวแน่! ขนลุกตั้งแต่อ่านบท
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th