MIND: ทำไมฝนตกแล้วเราถึงรู้สึกหม่นหมอง แต่ไม่เป็นไร เพราะคุณไม่ได้ ‘เศร้าอยู่คนเดียว’
แม้เพลงดังเมื่อหลายปีก่อนจะเคยบอกไว้ว่า “เขาว่าฝนทำให้คนเหงา” แต่ในโมงยามที่ฝนตกลงมาแบบนี้ เชื่อว่าฝนทำให้บางคนมีอาการมากกว่าเหงาไปหลายขุม
.
ทั้งเศร้าซึมไร้เรี่ยวแรง อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ไปจนถึงหมดอาลัยตายอยาก แม้ไม่มีเรื่องหนักใจก่อนหน้า แต่แค่ฝนตกลงมา อารมณ์ด้านลบก็ปรากฏตัวจนวันนั้นเปลี่ยนเป็น ‘Bad Day’ ได้แทบจะทันที
.
แต่ช้าก่อนสหาย แม้ยังสดใสขึ้นมาไม่ได้ แต่วันนี้เราก็อยากตบบ่าตบไหล่แล้วบอกคุณว่าคุณไม่ได้ ‘เศร้าแบบนั้นอยู่คนเดียว’ อยู่คนเดียวหรอกนะ
.
เพราะสำหรับการแพทย์ งานวิจัยที่บ่งบอกว่าสภาพอากาศมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกนั้นถูกพูดถึงมานานแล้ว ถึงขนาดมีการเรียกอาการเหล่านี้เป็นโรคว่า seasonal affective disorder (SAD - แหม่ ขนาดชื่อย่อยังชวนเศร้าเลย) ด้วยซ้ำ
.
โดยงานวิจัยในปี 2017 ได้อธิบายว่าเพราะปัจจัยของแสงอาทิตย์ในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูฝน ทำให้การผลิตฮอร์โมนเซราโทนิน (Seratonin) ซึ่งสัมพันธ์กับการที่ร่ายกายได้สัมผัสแสงอาทิตย์นั้นลดน้อยถอยลง และเนื่องจากหนึ่งในหน้าที่ของฮอร์โมน Seratonin นั้นคือการปรับสมดุลอารมณ์ การหายไปของมันจึงส่งผลต่อความรู้สึกภายในของเราในที่สุด
.
บ้างส่งผลน้อย บ้างส่งผลผมาก แต่ถ้านับว่าถึงขนาดทำให้ชีวิตช่วงนั้นเกิด ‘ความทุกข์’ มากกว่า ‘ความสุข’ เคยมีงานวิจัยที่พยายามหาตัวเลขตรงนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งพบว่ามีถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มตัวอย่างที่มีอาการดังกล่าว รวมถึงอีกงานวิจัยที่ค้นพบว่าการโพสต์คอนเทนต์เชิงลบในช่วงฝนตกนั้นมีปริมาณมากกว่าในช่วงอากาศดีอย่างมีนัยยะสำคัญเช่นกัน
.
ดังนั้นในความเศร้าและเปล่าเปลี่ยวที่กำลังสัมผัสกันอยู่ เราก็อยากเป็นคนหนึ่งที่นั่งข้างๆ คุณและบอกคุณนะ ว่านอกหน้าต่างนั้นยังมีอีกหลายคนที่เป็นเหมือนคุณอยู่ไม่น้อยเลย นี่ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่ถ้าอยากหาย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็แนะนำวิธีเยียวยาไว้หลายวิธี ตั้งแต่การออกกำลัง ทำกิจกรรมที่ชอบ หนีไปนอน ไปจนถึงการต่อสายพูดคุยกับใครสักคน
.
หายใจลึกๆ ไม่ต้องกังวลใดๆ
.
เพราะสุดท้ายอารมณ์และความรู้สึกของเรานั้นก็เป็นเหมือนกับฝนนั่นแหละ คือรออีกไม่นานหรอก แสงแดดอันสดใสก็จะโผล่พ้นฟ้ากลับมาตามเดิม
.
#MIND#BrandThink#CreativeChange#Empowering#Diversity#PositiveImpact