โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

แพทย์เตือน มะเร็งช่องปากอันตราย แนะหมั่นตรวจช่องปากอย่างสม่ำเสมอ หากพบก้อนหรือบาดแผลผิดปกติ เร่งพบแพทย์

สวพ.FM91

อัพเดต 07 เม.ย. 2566 เวลา 04.17 น. • เผยแพร่ 07 เม.ย. 2566 เวลา 04.17 น.

“มะเร็งช่องปาก” เป็นมะเร็งที่มีปัจจัยเสี่ยงมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต สามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งในช่องปาก เช่น ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก พื้นใต้ลิ้น และต่อมทอนซิล เนื่องในเมษายน เดือนแห่งการรณรงค์มะเร็งช่องปาก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ขอเชิญชวนชาวไทยทำความรู้จักกับมะเร็งชนิดนี้กัน

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในเพศชาย จากสถิติข้อมูลมะเร็งประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2559-2561 (Cancer in Thailand Vol.X 2016-2018) รวบรวมโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า มะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 6 ของโรคมะเร็งในผู้ชายไทย ในแต่ละปีพบผู้ป่วยมะเร็งช่องปากรายใหม่เฉลี่ย 3,840 คนต่อปี หรือวันละ 11 คน โดยตำแหน่งในช่องปากที่พบเป็นมะเร็งบ่อยที่สุดคือ ลิ้น รองลงมาคือบริเวณใต้ลิ้นและบริเวณเหงือก อาการของโรคมะเร็งช่องปากมีได้หลายอาการขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น ได้แก่ เป็นแผลเรื้อรังในช่องปากซึ่งไม่หายภายใน 2-3 สัปดาห์, เป็นก้อนนูนหรือฝ้าขาวหรือแดงในช่องปาก, ฟันหลุด ฟันโยก, ปวดในช่องปากหรือปวดหู, เคี้ยวหรือกลืนลำบาก และก้อนที่คอ

นายแพทย์เอกภพ แสงอริยวนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาโสต ศอ นาสิก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สาเหตุในการเกิดโรคมะเร็งช่องปากที่สำคัญคือ การสูบบุหรี่ ยาสูบ ยาเส้น, การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเคี้ยวหมากพลู นอกจากนี้สาเหตุอื่นๆที่พบได้ เช่น การเป็นแผลเรื้อรังในช่องปาก, การใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดี, สุขภาพช่องปากไม่ดีหรือมีฟันผุมาก, มีฟันที่แหลมคม, ได้รับแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นประจำ(เสี่ยงต่อมะเร็งริมฝีปาก) สำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งช่องปาก ทำโดยการตัดชิ้นเนื้อรอยโรคที่สงสัยเพื่อตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา และหลังจากได้รับการวินิจฉัยแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อประเมินระยะของโรคเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

การรักษามะเร็งช่องปาก ขึ้นอยู่กับระยะของโรครวมถึงสภาพร่างกาย โรคประจำตัวของผู้ป่วย โดยพิจารณาการผ่าตัดเป็นหลัก และพิจาณาให้รังสีรักษาในผู้ป่วยบางราย สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้จะให้การรักษาด้วยวิธีรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด ซึ่งให้ผลการรักษาที่ใกล้เคียงกับการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การป้องกันการเกิดโรคย่อมดีกว่าการรักษาเมื่อป่วยแล้ว วิธีการป้องกันโรคมะเร็งช่องปาก ได้แก่ งดสูบบุหรี่หรือสูดดมควันบุหรี่, งดการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ไม่เคี้ยวหมาก, ใส่ฟันปลอมที่พอดี และการตรวจเช็คสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน

เนื่องจากช่องปากเป็นตำแหน่งที่สามารถมองเห็นไม่ยาก ดังนั้นประชาชนทั่วไปสามารถตรวจหารอยโรคแผล หรือก้อนในช่องปากด้วยตนเองได้ ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้ หลังจากแปรงฟันแล้ว ให้ส่องกระจกตรวจบริเวณ

1) ริมฝีปาก โดยสังเกตริมฝีปากด้านนอก ดึงริมฝีปากบนและล่างเพื่อตรวจดูเยื่อบุริมฝีปากด้านใน

2) กระพุ้งแก้ม และเหงือก โดยใช้นิ้วดึงกระพุ้งแก้มออกไปด้านข้าง ตรวจดูบริเวณกระพุ้งแก้มและเหงือกบนล่าง

3) ลิ้น ใต้ลิ้น และพื้นช่องปาก โดยอ้าปากแลบลิ้น ยื่นลิ้นหรือดึงลิ้นด้วยผ้ากอซหรือกระดาษทิชชูไปทางซ้ายและขวาเพื่อตรวจดูด้านข้างของลิ้น กระดกลิ้นขึ้น เพื่อตรวจดูบริเวณใต้ลิ้นและพื้นของช่องปาก รวมถึงเหงือกด้านล่าง

4) เพดานปาก โดยอ้าปาก เงยหน้า ตรวจดูเพดานปาก รวมถึงบริเวณเหงือก จะเห็นได้ว่ามะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่ป้องกันและตรวจคัดกรองได้ด้วยตนเองได้ไม่ยาก หากท่านมีอาการผิดปกติ หรือตรวจช่องปากด้วยตนเองแล้ว สงสัยว่ามีความผิดปกติ

ท่านควรไปปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ท่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้เรื่องโรคมะเร็งจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่ได้ที่เว็บไซต์ส่งเสริมความรอบรู้สู้ภัยมะเร็ง http://allaboutcancer.nci.go.th/ เว็บไซต์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็งhttps://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ และ Line : NCI รู้สู้มะเร็ง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...