โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

(อ่านฟรี) เกิดใหม่ทั้งทีได้สามีเป็นอ๋องทรราช

นิยาย Dek-D

อัพเดต 09 ม.ค. 2567 เวลา 01.09 น. • เผยแพร่ 09 ม.ค. 2567 เวลา 01.09 น. • 小哥哥 เสี่ยวเกอเกอ
อยากได้ท่านอ๋องเป็นสามี งานนี้ก็เหนื่อยหน่อยจ้า

ข้อมูลเบื้องต้น

เกิดใหม่ทั้งทีได้สามีเป็นอ๋องทรราช

(โปรย)

ใครบางคนตบใบหน้าหลี่ชิงอี้เต็มแรง ดวงวิญญาณอย่างนางมีคนมาทำร้ายให้เจ็บปวดตั้งแต่เมื่อใดกัน ใช่ว่านางเฝ้ามองคนพวกนั้นด้วยความแค้นมาตลอด วันนี้ผีเร่ร่อนอย่างหลี่ชิงอี้กลับฟื้นคืนมากลางหอนางโลมชั้นต่ำ

“มาลากนางไปแต่งตัวสิ!! ยืนบื้อรออะไร รีบส่งตัวไปให้ไห่อ๋อง”

ไห่อ๋องผู้นั้นคืออ๋องปีศาจ นึกไม่ถึงชาติก่อนนางตายไป หนึ่งในคนที่เกลียดชังนางก็คือไห่อ๋อง เกิดใหม่ชาตินี้ยังต้องไปพบหน้าเขา

“หม่อมฉันอยู่ในกำมือท่านอ๋อง ทรงรู้ชะตาชีวิตหม่อมฉันล่วงหน้าแล้ว”

“คำสัญญาหนึ่งข้อสำหรับเจ้า ขอได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่เจ้าไม่ควรขอ”

ร่างสูงใหญ่อุ้มสตรีในอ้อมแขนนอนราบลง ดวงตาหงส์ชำเลืองมองกลีบบุปผาอวบอูม

“…ท่าน….ท่านอ๋อง…”

--------------------------------------------------

สวัสดีค่ะเสี่ยวน่วยกลับมาอัพงานแล้วค่า

สไตล์เรื่องนี้เป็นแนวแก้แค้น แต่ยังอิงโซนโรแมนติก

มีฉากน่ากลัวเลือดอาบนิดหน่อย

ความรักพระนางฟินโบ๊ะบ๊ะเหมือนเดิมค่ะ

อย่าลืมกดเข้าชั้น + กดติดตาม + เพิ่มหัวใจ

คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้กันนะคะ

จุ้ฟๆ

กลายเป็นกัวชิงอี้

หลี่ชิงอี้รับรู้ถึงฝ่ามือใครบางคนปะทะใบหน้า

ดวงวิญญาณอย่างนางมีคนมาทำร้ายให้เจ็บปวดตั้งแต่เมื่อใดกัน ใช่ว่านางเฝ้ามองคนพวกนั้นด้วยความแค้นมาตลอด ผีเร่ร่อนอย่างหลี่ชิงอี้เคยลงมือทำร้ายผู้ใดก็หาไม่

หลังจากของหมั้นตำหนักบูรพาส่งมาถึงจวนสกุลหลี่ วิญญาณหลี่ชิงอี้ติดตามคนสกุลหลี่มาถึงวัดไท่อัน โดยเฉพาะหนึ่งบุรุษสตรีงามยืนเคียงคู่กัน หลี่ชิวหลันน้องสาวต่างมารดาของนาง ฉากหน้าคุณหนูรองสกุลหลี่ผู้อ่อนโยนดั่งดอกบัวขาว

ผู้ใดจะไม่ชื่นชอบสตรีท่าทางบอบบาง น่าทะนุถนอมเช่นหลี่ชิวหลันบ้าง ขนาดรัชทายาทเยี่ยหรงชงได้เห็นใบหน้าอบอุ่นของหลี่ชิวหลันครั้งเดียว เทียบหมั้นหมายทองคำแทบจะลอยมาติดหน้าประตูจวนหลี่

ช่างน่าขันนัก หลี่ชิงอี้สตรีไร้ค่าไร้ตัวตนอย่างนาง เพราะมารดาผู้ล่วงลับมีสัญญาใจกับเจิ้งฮองเฮา นางถึงได้ไปบังอาจขวางทางบุบเพด้ายแดงของหลี่ชิวหลัน

สุดท้ายถูกคนลอบทำร้ายโยนลงจากกำแพงเมือง สกุลหลี่ไม่แม้แต่จะร้องขอความเป็นธรรมให้นาง ไม่มีแม้กระทั่งพิธีศพอย่างที่คุณหนูใหญ่ควรมี

วันนี้หนึ่งบุรุษสตรีคู่ยวนยางแห่งยุคได้หมั้นหมายกันแล้ว เหลือก็แต่รอพิธีการวังหลวง รับหลี่ชิวหลันเข้าเป็นไท่เฟยตำหนักบูรพา

เงาร่างโปร่งบางเฝ้ามองดูควันธูปสีขุ่น สลับกับใบหน้าอันเปี่ยมด้วยเมตตาของพระพุทธองค์อยู่นาน ในใจร่ำร้องขอชีวิตใหม่อีกสักครั้ง นางอยากกระชากหน้ากากจอมปลอมของหลี่ชิวหลัน ยิ่งเป็นหน้ากากรัชทายาทผู้ใจดีมีเมตตาของเยี่ยหรงชง ยิ่งสมควรถูกกระชากออกมาตีแผ่นัก

ยิ่งคิดหลี่ชิงอี้ยิ่งเจ็บใจ นึกไม่ถึงพอนางกะพริบตา กลับรู้สึกเจ็บแปลบที่ใบหน้าเสียได้

“อย่ามาทำอ่อนแอต่อหน้าข้านะ เด็กสกปรกอย่างเจ้ามีโอกาสรับแขกแล้วยังแกล้งป่วย มันน่าโมโหนัก”

เสียงด่าทอกรีดแหลมดังอยู่ข้างหูหลี่ชิงอี้ “อีกเดี๋ยวไห่อ๋องจะ มาถึงแล้ว เด็กสารเลวอย่างเจ้าอยากตายนักก็ไปตายต่อหน้าไห่อ๋องโน่น อย่ามาทำให้กิจการของข้าเดือดร้อนไปด้วย”

พูดไม่พูดเปล่า สตรีใบหน้าโบกแป้งชาดหนาผู้นั้น ยังดึงเอาเส้น ผมบนหัวหลี่ชิงอี้หลุดติดมือไม่น้อย

“มาลากนางไปแต่งตัวสิ!! ยืนบื้อรออะไรกัน หรืออยากให้ข้าจับพวกเจ้าถลกหนังอีกคน”

กว่าหลี่ชิงอี้จะได้สติว่าเรื่องราวตรงหน้ามีที่มาที่ไปอย่างไร เส้น ผมบนหัวนางรวมถึงเสื้อผ้า ผลัดเปลี่ยนเป็นชุดเนื้อบางแต่งแต้มให้เหมาะสมกับฐานะนางบำเรอเรียบร้อยแล้ว

ที่นี่คือหอโคมเขียวหนึ่งเดียวในตำบลหลงกัว ติดเมืองชายแดน ฟู่โจวอันห่างไกล หลี่ชิงอี้หาใช่หลี่ชิงอี้คุณหนูใหญ่สกุลหลี่คนเดิม นางสวมร่างคืนวิญญาณมาเป็น กัวชิงอี้ บุตรสาวชาวนายากจน

บิดาเลี้ยงเอานางมาขายให้หอโคมเขียวเมื่อหลายวันก่อน ส่วนมารดาได้แต่ยืนหลั่งน้ำตามองดู ชิงอี้เข้ามาที่นี่ไม่นานก็มีเรื่องกับดาวเด่นเจ้าถิ่น เด็กน้อยถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืนหลายวัน อดข้าวอดน้ำทั้งยังทนหนาวเย็น มีหรือจะไม่ล้มป่วย

วันนี้หากไม่เพราะคนของไห่อ๋อง ต้องการบุปผาแรกแย้มไปให้ ผู้เป็นนาย มีหรือชิงอี้จะได้โผล่ออกมาจากขุมนรกหนาวเย็นเช่นนั้น

น่าเสียดายชีวิตสตรีผู้หนึ่งต้องมาถูกคนกลั่นแกล้งจนตายไป ในเมื่อพุทธองค์ตอบรับคำขอมีชีวิตใหม่ของหลี่ชิงอี้ นางจะใช้ชีวิตใหม่ที่ได้มาให้ดี

“…เหอะ!!….หญิงชาวบ้านอย่างเจ้า มีค่าก็แค่เป็นบุปผาแรกแย้มเท่านั้น ไห่อ๋องสูงศักดิ์เย่อหยิ่งที่สำคัญโหดร้ายบ้าคลั่ง ผู้ใดบ้างไม่รู้เรื่องรอดูเอาเถอะวันพรุ่งนี้เจ้าคงเหลือกลับมาแต่ร่างไร้วิญญาณแล้ว”

น้ำเสียงเย้ยหยันของดาวเด่นอย่างอวิ๋นฮวา หากเป็นชิงอี้คนเดิมคงเบิกตาถลนเข้าไปทวงถามกันไปข้าง ส่วนหลี่ชิงอี้คุณหนูใหญ่จวนหลี่อย่างนาง ลำพังบ่าวรับใช้ข้างกายยังมากฝีมือกว่าอวิ๋นฮวาเป็นไหนๆ

“ข้าก็นึกว่าเสียงคุณหนูสูงส่งมาจากที่ใด ที่แท้ก็อวิ๋นฮวาคนไร้พรหมจรรย์นี่เอง”

“นี่เจ้า!! กล้าด่าข้าเรอะ”

ไม่ทันที่อวิ๋นฮวาจะถลาเข้าใส่ชิงอี้เหมือนเคยทำ ปลายเท้าบอบ บางกระแทกเข้าช่วงหัวเข่าแม่นางอวิ๋นฮวาเต็มแรง เงาร่างดาวเด่นร่วงลงไปกองกับพื้น

“เตือนเจ้าเอาไว้ก่อน ข้าเป็นคนที่ไห่อ๋องต้องการตัว จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตราบใดที่ข้างนอกคนของไห่อ๋องยังรอข้าอยู่ สตรีมีค่าแค่ราคาแป้งชาดบนหน้าอย่างเจ้า จะมาหาเรื่องข้าก็จงคิดให้ดีเถอะ”

“…เหอะ!!…คำก็ไห่อ๋อง สองคำก็ไห่อ๋อง ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าไห่อ๋องเป็นทรราชฆ่าคนตาไม่กะพริบ น้ำหน้าคนชั้นต่ำอย่างเจ้าหวังจะบินขึ้นฟ้าฝันไปเถอะ” อวิ๋นฮวาเงื้อมือเตรียมกระชากชายเสื้อชิงอี้ ปลายเท้าบอบบางง้างท่ารอเหยียบอยู่เช่นกัน

“พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกัน ชิงอี้เจ้ายังไม่รีบไปอีก อยากให้ข้าถลกหนังเจ้าอีกรอบหรือ”

“ถามนางสิว่ามีเรื่องอะไร” หลี่ชิงอี้เชิดหน้า “อีกอย่างคนของหอโคมเขียวดูหมิ่นไห่อ๋อง คิดเหรอว่าข้าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปทูลไห่อ๋องเพื่อเอาหน้า จะอย่างไรไห่อ๋องเป็นโอรสอดีตฮ่องเต้ ใช่คนที่สตรีหอโคมเขียวจะดูหมิ่นได้เช่นนี้”

“ชิงอี้เจ้าพูดอะไรของเจ้า” สตรีพอกแป้งชาดเหลืองเริ่มสีหน้าไม่สู้ดีบ้างแล้ว

ไห่อ๋องเป็นชนชั้นสูงเป็นโอรสอดีตฮ่องเต้ อีกทั้งยังมีฐานะเป็นแม่ทัพแดนประจิม ฆ่าคนเป็นผักปลา ทัพเหลียวเมื่อหลายปีก่อนถึงขนาดยอมแพ้ มอบเมืองหน้าด่านกับองค์หญิงให้เป็นบรรณาการแล้ว ยังถูกไห่อ๋องตามล่าสังหารลบชื่อจากแผ่นดิน

“นางกล้าข่มขู่เหนียงเหนียง ต้องสั่งสอนนางนะเจ้าคะ”

“เอาสิหากข้ามีแผลอีก แล้วไห่อ๋องถามขึ้นมาข้าจะพูดให้หมด”

“นังเด็กสารเลว”

ไม่ทันที่เหนียงเหนียงจะลงมือกับชิงอี้เพิ่ม เสียงกระแทกด้ามกระบี่เข้ากับพื้นดังกังวาน ดวงหน้าองครักษ์ฉาบไว้ด้วยความเย็นชาหนาสามชั้นจ้องมอง

“ผู้ใดคือสตรีที่เตรียมไว้ให้ท่านอ๋อง”

“…เอ่อ….เรียนใต้เท้า เป็นนางเจ้าค่ะ” เหนียงเหนียงหอโคมเขียวไม่อาจทนกลิ่นอายฆ่าฟันของทหารเจนศึกเช่นนี้ สองขานางคล้ายจะสิ้นเรี่ยวแรง

“ตามมา”

หลี่ชิงอี้ปรายหางตามองดูสีหน้าเจ็บแค้นของเหนียงเหนียงกับ อวิ๋นฮวา จิตใจด้านชาของนางเบิกบานไม่น้อย สีหน้าเจ็บแค้นจนอยากไปตายเช่นนี้ นางอยากเห็นจากหลี่ชิวหลันเช่นกัน

“ปิดตาเจ้าไว้ ไม่อนุญาตให้มองข้างทาง”

สิ้นเสียงเยือกเย็นขององครักษ์คนเมื่อครู่ ผ้าม่านหนาหนักด้านหน้าปิดลงทันที รถม้าธรรมดาเตรียมออกเดินทาง หลี่ชิงอี้กลับเปิดม่านยื่นมือออกไปจิ้มหัวไหล่กำยำ ดวงหน้าเครียดเขม็งหันหน้ามาถลึงตาใส่นาง คมกระบี่ชักออกจากฝักห่างจากปลายนิ้วหลี่ชิงอี้ชุ่นเดียว

“อยากตายเรอะ”

“ข้าไม่มีผ้าปิดตาเจ้าค่ะ”

อู้หลินพ่นลมหายใจอย่างแรง ก่อนจะโยนผ้าเนื้อหยาบผืนหนึ่งเข้าไปในรถม้า

“อย่าได้เอามือเจ้าแตะต้องมั่วซั่ว”

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

เมื่อครู่เขามองดูสตรีผู้นี้ตบตีผู้อื่น ทั้งยังกล้าเอาท่านอ๋องมาข่มคน ชั่วขณะที่ปลายกระบี่ชักออกจากฝัก นางไม่แม้แต่จะกะพริบตา นับว่าใจกล้าไม่น้อย รอยนิ้วมือบนหัวไหล่คล้ายร้อนวูบขึ้นมา

………………………………………………………..

อย่าลืมกดติดตาม กดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น

เป็นกำลังใจให้กันนะคะ จุ้ฟๆ ❤️

เอ่ยวาจายกให้

หลังจากหลี่ชิงอี้ปิดตาตนเองเสร็จ ล้อรถม้าเคลื่อนออกจากที่ทันที องครักษ์คนเมื่อครู่นับว่าเป็นคนใช้ได้ อย่างน้อยเขายังมีใจเข้าไปรับตัวนาง ก่อนที่สองคนนั่นจะลงมือ

เมื่อครู่หลี่ชิงอี้ทำใจดีสู้เสือ หยั่งเชิงยื่นปลายนิ้วออกไป นางมั่นใจว่าฐานะบำเรอของไห่อ๋อง ทั้งร่างนางจะไม่บุบสลายก่อนถึงมือไห่อ๋องเป็นแน่ หากนางรอดชีวิตจากเงื้อมมืออ๋องทมิฬผู้นั้นได้ บุรุษผู้นี้อาจเห็นใจช่วยเหลือนางบ้าง

เพราะดวงตามองไม่เห็น หลี่ชิงอี้นั่งนับเวลาที่ผ่านไปจนรู้สึกเบื่อ ยามเป็นวิญญาณเร่ร่อนนางทำเช่นนี้จนเบื่อหน่าย ได้กลับมามีลมหายใจอีกครั้งยังต้องมาทำเช่นเดิม

นึกถึงเรื่องของไห่อ๋องเยี่ยหรงจี้ สกุลหลี่ของนางมีส่วนสร้างคลื่น ใต้น้ำในราชสำนักไม่น้อย อันที่จริงเรื่องที่ไห่อ๋องล่าสังหารฮ่องเต้แคว้นเหลียว ก็เพราะฝ่ายนั้นสังหารคนสนิทข้างกายไห่อ๋อง

พอเรื่องไปถึงราชสำนัก กลับกลายเป็นชื่อเสียงความป่าเถื่อนของไห่อ๋องตีแผ่จนรู้กันทั่วใต้หล้า ส่วนเรื่องที่พระองค์เป็นคนบ้าเลือด อารมณ์ไม่คงที่สังหารคนเป็นผักปลา นั่นกลับไม่เกินจริง

ขั้วอำนาจแคว้นเยี่ยยามนี้แบ่งออกเป็นสองฝ่าย รัชทายาทเยี่ยหรงชงกับองค์ชายสี่เยี่ยหรงอิง เดิมทีเยี่ยหรงเทียนฮ่องเต้มีพระโอรสมากกว่านี้ หากแต่พระชนม์ไม่ยาวนัก ตายตกไปตั้งแต่ยังเด็กจนเหลืออยู่ก็คือรัชทายาทเยี่ยหรงชง องค์สายสี่เยี่ยหรงอิง กับองค์หญิงอีกสองสามคน

องค์ชายสี่หากไม่มีเสด็จอาอย่างไห่อ๋องเยี่ยหรงจี้ มีหรือจะยังเติบใหญ่มาจนป่านนี้ ขั้วอำนาจใหญ่ในราชสำนักแม้จะเอนเอียงไปทางรัชทายาท หากแต่อาศัยแค่ความจิตใจดีมีเมตตา ไม่อาจงอกเงยผลงานบริหารบ้านเมืองได้

เปรียบเทียบกับองค์ชายสี่ที่มีผลงานบรรเทาภัยพิบัติราชฏร ทั้งยังมีเสด็จอาเป็นแม่ทัพแห่งแคว้นหนุนหลัง ไม่แน่ว่าปลายทางบัลลังก์มังกรอาจเปลี่ยนมือเป็นของเยี่ยหรงอิง

ที่ผ่านมาสกุลหลี่เลือกข้างรัชทายาทชัดเจน เสนาบดีหลี่ยามนี้เป็นว่าที่พ่อตารัชทายาท หากนางในวันนี้ยังเป็นหลี่ชิงอี้บุตรีสกุลหลี่ ไม่แน่ว่าไห่อ๋องอาจจะประทานความตายให้นางตั้งแต่ที่หอโคมเขียวแล้ว

“ลงมาได้แล้ว”

“ข้าเปิดตาได้แล้วหรือเจ้าคะ”

“อืม”

สิ้นเสียงทุ้มต่ำเยือกเย็น หลี่ชิงอี้แกะผ้าปิดตาออก ก่อนจะเก็บไว้กับตัวไม่คืนให้อู้หลิน ด้านนอกฟ้าใกล้มืดแล้ว เงาร่างสวมชุดโปร่งบางเดินลงจากรถม้า สองมือนางยกประสานไว้ระดับสายตา

“ไปเอาเสื้อคลุมมาสวมให้นาง”

อู้หลินหันไปสั่งบ่าวรับใช้ด้านข้าง ไม่นานนักเสื้อคลุมผืนหนึ่งยื่นส่งมาให้หลี่ชิงอี้ ดวงตากลมหลุบสายตามองต่ำ บุรุษกองทัพจูงจมูกง่ายเสียจริง

“พานางไป”

“เจ้าค่ะ”

บ่าวรับใช้พาหลี่ชิงอี้มาถึงห้องพักห้องหนึ่ง เมื่อครู่รถม้ามาส่งนางทางประตูเล็ก คงเป็นประตูสัญจรบ่าวรับใช้ ไม่รู้ไห่อ๋องต้องการบุปผาแรกแย้มมาทำอะไร หรือท่านอ๋องอยากร่วมวสันต์

ไม่นานนักเสียงฝีเท้าหนักแน่นเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องพัก หลี่ชิงอี้หัวใจเต้นแรง หากต้องร่วมคืนวสันต์กับเยี่ยหรงจี้จริง นางยังไม่ได้ทำใจ ร่างผอมบางถอดเสื้อคลุมวางไว้ก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะกลาง

“บ่าวคารวะไห่อ๋องเจ้าค่ะ” หลี่ชิงอี้มองดูปลายเท้าที่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้า ร่างผอมบางคุกเข่าหมอบลงกับพื้น ถ้อยคำเยี่ยงหญิงชาวบ้านเอ่ยออกมาไม่ติดขัด ไห่อ๋องกลับยืนนิ่ง

“ท่านอ๋อง” หลี่ชิงอี้ไม่กล้าเงยหน้า

“เงยหน้าขึ้นมา” น้ำเสียงเยือกเย็นทรงอำนาจเอ่ยวาจา หลี่ชิงอี้ดวงตาวูบไหวก่อนจะทำท่าทีหวาดวิตก ขณะเงยใบหน้าขึ้นมา

ดวงตาหงส์ยาวรีจ้องมองนางอยู่ก่อนแล้ว ในดวงตาหงส์คู่นั้นมีบางอย่างที่หลี่ชิงอี้ดูไม่ออก คล้ายกำแพงหนาหรือไม่ก็ห้วงทะเลสาบลึก หลี่ชิงอี้ได้แต่ก้มหน้า

“ลุกขึ้นมา” เยี่ยหรงจี้ออกคำสั่งอีกครั้ง เงาร่างบอบบางลุกขึ้นมาจากพื้น แข้งขานางอ่อนแรงอยู่แล้ว คุกเข่าไม่ทันไร ปุ๊บปั๊บลุกขึ้นมาก็ล้มลง สาบเสื้อตัวบางเผยออ้า เยี่ยหรงจี้หรี่สายตา

“ขออภัยท่านอ๋องเจ้าค่ะ” ยิ่งเขาจ้องมองนาน หลี่ชิงอี้ยิ่งรู้สึกหายใจติดขัด ไม่รู้ว่าอากาศหนาวเกินไปหรือนางใส่เสื้อผ้าบางเอง ขนอ่อนทั่วร่างพากันลุกชัน มือผอมแห้งเอื้อมไปหยิบเสื้อคลุม

“หึ!”

เยี่ยหรงจี้ทิ้งไว้แต่คำสบถในลำคอ เงาร่างคนหายลับออกไปพ้นห้องพักนานแล้ว หลี่ชิงอี้สูดลมหายใจเข้าลึก ทั้งร่างหมดแรงนั่งลงไปริมเตียงนอน ฉายาอ๋องปีศาจ(ไห่อ๋อง)สมคำร่ำลือเสียจริง

“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” อู้หลินเห็นผู้เป็นนายเดินกลับมาห้องหนังสือ องครักษ์คู่ใจรีบรินชาสงบใจส่งให้

“วันนี้เหตุใดกลับมาช้า”

อู้หลินก้าวมาข้างหน้า โค้งกายเล็กน้อยเอ่ยรายงานเรื่องที่ตนพบ เห็นในหอโคมเขียวทั้งหมดให้ผู้เป็นนายทราบ รวมถึงเรื่องที่เขาส่งผ้าให้สตรีนางนั้น เยี่ยหรงจี้จิบชาฟังไปเงียบเชียบ

“เรื่องทั้งหมดมีเท่านี้พ่ะย่ะค่ะ”

“นางกล้าเอาข้าไปอ้างข่มขู่คน เจ้าก็ปล่อยนางทำ เสื้อคลุมผืนนั้นเป็นฝีมือเจ้าด้วยใช่หรือไม่”

“ขอท่านอ๋องเมตตา กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ”

“อู้หลินเจ้าอยู่กับข้ามานาน ลำพังสตรีคนเดียวต่อให้เจ้าไม่เอ่ย ข้าก็ไม่ติดขัดหรอก”

“กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เป็นความผิดกระหม่อมทำโดยพลการ” คมกระบี่ในมือชักออกจากฝักอีกครั้ง เป้าหมายคือมือข้างขวา ปราณยุทธสูงส่งจากเยี่ยหรงจี้ กดข่มคมกระบี่ทันที

“สตรีชั้นต่ำคนเดียว หาได้มีค่ามากกว่าแขนของเจ้า ข้าพูดชัดเจนแล้วหรือไม่” ปราณยุทธทรงพลังยังคงกดดันทั่วร่างอู้หลินต่อไป

“…กระหม่อม…กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“สตรีในห้องนั้นข้าพูดไปแล้ว หากเจ้าอยากเก็บนางไว้ข้าก็ไม่ก้าวก่าย”

“ท่านอ๋อง” เยี่ยหรงจี้จิบชาสงบใจในมือ

“โรคของข้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน รอสักหน่อยก็ย่อมได้ ว่าแต่ซือหลิงติดต่อมาหรือยัง”

“ทูลท่านอ๋องกุนซือเผยยังไม่ติดต่อมาพ่ะย่ะค่ะ ให้คนของเราตามหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

กุนซือเผย หรือก็คือเผยซือหลิง คุณชายสามสกุลเผยเป็นสหายลึกลับของเยี่ยหรงจี้ ทั้งยังเป็นหมอประจำตัว เวลานี้ลอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าซีเซี่ยยังไม่ติดต่อมา

“ไม่ต้องหรอก เรื่องของเขาไม่น่าสนใจเท่าเรื่องของเจ้า สตรีนางนั้นเจ้าสืบประวัตินางมาแล้วหรือไม่ แน่ใจว่าขาวสะอาด”

“สืบมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ครอบครัวเป็นชาวนา บิดาพาตัวมาขายให้หอโคมเขียวไม่กี่วันก่อน ทูลท่านอ๋องตามตรง ต่อให้พระองค์บังคับกระหม่อมไม่ขอรับตัวนางเด็ดขาด ขอท่านอ๋องเมตตาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

อู้หลินคุกเข่าลงพื้นเสียงดังตึง จอกชาในมือเยี่ยหรงจี้วางลงเช่นกัน

“เจ้าเป็นคนสนิทของข้าไห่อ๋อง วันหน้าหากไม่ได้ทำผิดสมควรต้องคุกเข่าให้ผู้ใดหรือไม่” แรงปะทะจากจอกชาที่วางบนโต๊ะสะท้อนเข้ากลางอกอู้หลิน องครักษ์อู้ได้กลิ่นคาวโลหิตปะทุขึ้นมาตามลำคอ

“ท่านอ๋องสั่งสอนถูกต้อง กระหม่อมจะจดจำให้ขึ้นใจพ่ะย่ะค่ะ”

“ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าไม่สนใจนางเช่นนั้นก็ปล่อยตัวไป ว่าแต่นางชื่อแซ่อะไร”

“ทูลท่านอ๋อง นางแซ่กัว ชื่อชิงอี้พ่ะย่ะค่ะ”

จบถ้อยคำขององครักษ์คนสนิท จองชาในมือเยี่ยหรงจี้แตกละเอียด ดวงตาไห่อ๋องจอมปีศาจลุกวาว สีหน้าฉาบกลิ่นอายสังหารคน เงาร่างสวมชุดคลุมลายพยัคฆ์หายออกไปไม่เห็นเงา

อู้หลินได้แต่มองตาม ยอมรับว่าชื่อบุตรีคนโตสกุลหลี่ เป็นของแสลงผู้เป็นนาย เช่นนี้เองถึงได้ไม่เอ่ยชื่อให้ท่านอ๋องฟังแต่แรก หลี่ชิงอี้เลือกที่ตายอย่างไรไม่เลือก จำเพาะเอาท่านอ๋องไปข้องเกี่ยวด้วย

………………………………………………………..

อย่าลืมกดติดตาม กดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น

เป็นกำลังใจให้กันนะคะ จุ้ฟๆ ❤️

(NC25++) คืนวสันต์ถอนพิษ

ที่ห้องพัก

วิญญาณอดีตคุณหนูใหญ่หลี่ชิงอี้ กำลังพิจารณาใบหน้ากัวชิงอี้อยู่เช่นกัน สตรีบ้านป่าหน้าตาไม่โดดเด่น อาจเพราะอาหารการกินไม่ดีนัก โชคดีหน่อยนางมีผิวกายขาวละเอียด โดยรวมแล้วยังพองดงามอยู่บ้าง

“หลี่ชิงอี้!!!”

ได้ยินเสียงของหนักกระแทกบานประตู พร้อมกับน้ำเสียงดุดันเรียกชื่อนาง หลี่ชิงอี้ตระหนกจนหน้าซีด ไม่ทันริมฝีปากเล็กบางเอ่ยวาจาออกมา ฝ่ามือใหญ่รวบต้นคอบอบบางไว้แน่น ใบหน้าเยือกเย็นของไห่อ๋อง ยิ่งดูดุดันเพิ่มไปอีกสามส่วน

“ชิงอี้”

แรงมือที่เค้นลำคอหลี่ชิงอี้หนักหน่วงนัก ไม่รู้ว่าเพราะดวงหน้านางยามนี้ดูน่าเวทนา หรือเพราะรอยเล็บฝากไว้บนหลังมือเยี่ยหรงจี้มากพอ ปีศาจจอมวิปริตตนนี้ถึงได้ยอมปล่อยนาง หลี่ชิงอี้หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดทุลักทุเล

“หึ!”

เยี่ยหรงจี้ลากร่างบอบบางโยนไปบนเตียง หลี่ชิงอี้มีหรือจะยังกล้าไม่กลัวตาย ร่างสั่นเทาขยับหนีซุกเข้าไปอยู่มุมเตียงด้านหนึ่ง สองตาจับจ้องเงาร่างไห่อ๋องเดินไปรินน้ำชาเย็นชืดใส่จอก

จอกชาทำจากหยกมันแพะสีใส ยามเม็ดยาละลายลงไปในน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจโลหิต หลี่ชิงอี้ขนอ่อนทั้งร่างลุกชัน กลัวว่าไห่อ๋องจะเอายาพิษสีโลหิตกรอกปากนาง กลับกลายเป็นเขาดื่มลงท้องแทน

ดวงหน้าเย็นชาหันหน้ากลับมา ยามนี้ไม่เพียงใบหน้าไห่อ๋องดูวิปริต เรียวปากเขาเคลือบตัวยาสีแดงไม่ต่างอะไรกับมารร้าย หลี่ชิงอี้คว้าปิ่นปักผมถือเอาไว้

“…เหอะ….คิดทำร้ายข้าเหรอ”

หลี่ชิงอี้ต่อให้หวาดกลัวความตาย ก็ไม่มากไปกว่าปีศาจวิปริตตรงหน้า มือน้อยของนางจะยังกล้าหันปลายปิ่นแหลมคมเข้าใส่ไห่อ๋องได้อย่างไร

ร่างผอมบางกลั้นหายใจ หันปลายปิ่นเข้าหาลำคอขาวเนียน ปลายแหลมทิ่มเข้าผิวเนื้อไปเพียงปลายเล็บ ปราณยุทธแข็งแกร่งจาก ฝ่ามือเยี่ยหรงจี้ปัดนางวูบไปทั้งร่าง

“เจ้าเป็นสตรีใจกล้า ไยต้องหวาดกลัวเรื่องแค่นี้” ดวงตาหงส์ยาวรีหรี่สายตาอันตราย มองดูเงาร่างผอมบางที่นอนแผ่หราบนเตียง

“อยากตายหนีข้า ก็ต้องดูก่อนว่าข้าไห่อ๋องยินยอมแล้วหรือไม่”

เอ่ยจบเสื้อคลุมปักลายพยัคฆ์น่าเกรงขาม หล่นร่วงลงไปกองกับพื้น เงาร่างเต็มไปด้วยมัดกล้ามเหลือเพียงเสื้อตัวใน เยี่ยหรงจี้สลัดรองเท้าขึ้นมานั่งชันเข่าบนเตียงอีกด้าน ดวงตาหงส์ทรงอำนาจยังคงจับจ้องใบหน้าหลี่ชิงอี้

“ปรนนิบัติข้าไห่อ๋องผู้นี้ วันพรุ่งหากเจ้ายังมีชีวิต ข้าจะปล่อยเจ้าไป”

“หม่อมฉันไม่ใช่หลี่ชิงอี้” ดวงหน้าขาวซีดจ้องตาเยี่ยหรงจี้เช่นกัน รอยยิ้มหยันประดับบนเรียวปากหยัก

“ไม่กลัวข้าแล้วหรือ ชิงอี้เจ้าทำข้าไห่อ๋องผู้นี้หมดสนุกเสียจริง”

“หม่อมฉันแซ่กัว ชื่อต่ำต้อยว่าชิงอี้ หากท่านอ๋องไม่พอใจชื่อนี้จะตั้งให้ใหม่อย่างไรก็ตามแต่ท่านอ๋อง”

“ตกลงจะปรนนิบัติข้าหรือไม่” ปราณยุทธกลางฝ่ามือรั้งปลายคางหลี่ชิงอี้เข้ามาใกล้

“ท่านอ๋องจะให้อะไรหม่อมฉัน”

“บังอาจ!!”

“หม่อมฉันอยู่ในกำมือท่านอ๋อง ทรงรู้ชะตาชีวิตหม่อมฉันล่วงหน้าแล้ว คำขอของหม่อมฉันหากท่านอ๋องไม่พอใจลงมือฆ่าแกง คนเสียเปรียบก็คือหม่อมฉัน”

“คำสัญญาหนึ่งข้อสำหรับเจ้า ขอได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่เจ้าไม่ควรขอ” เยี่ยหรงจี้ปล่อยปลายคางหลี่ชิงอี้ ร่างบางแววตาวูบไหวชั่วครู่ก่อนพยักหน้ายินยอม

“หม่อมฉันจะไม่ทำให้ท่านอ๋องลำบากใจ”

ดวงตาหงส์ทรงอำนาจหลับตาลงเป็นเชิงอนุญาต หลี่ชิงอี้สูดลมหายใจเข้าลึก ค่ำคืนวสันต์บุรุษสตรีนางเคยเรียนรู้มาบ้าง ผิวกายบุรุษคือของต้องห้าม หากเผลอลูบไล้อาจปลุกสัตว์ร้ายมาขย้ำเหล่าสตรีราบคาบ

กับเยี่ยหรงจี้กลับต่างกัน หลี่ชิงอี้ต้องการปลุกไม่ใช่แค่สัตว์ร้าย แต่เป็นปีศาจมารร้าย สองมือคลายเชือกรัดเอวตนเองออก ดึงสาบเสื้อลงมากองเผยเนินเนื้อขาวผ่อง

ร่างบางทำใจดีเข้าสู้ คลานเข้าไปใกล้เรือนร่างสูงส่งล้ำค่า ไห่อ๋องคือบุรุษเจนศึก ผิวเนื้อคล้ำแดดเต็มไปด้วยมัดกล้ามน่าดูชม หากเขาไม่ลืมตาหรือเปิดปากด่าคน ร่างกายล้ำค่านี้งามไม่ต่างอะไรกับเทพเซียน นางมอบพรหมจรรย์ให้เยี่ยหรงจี้ ก็ไม่ถึงกับย่ำแย่

“ท่านอ๋อง”

ปลายนิ้วหลี่ชิงอี้เอื้อมไปปลดเชือกรัดเอวเยี่ยหรงจี้ จงใจทิ้งสัมผัสแผ่วเบาไล่ตาตามต้นขาตึงแน่น ของลับบุรุษของไห่อ๋องยังโผล่ไม่พ้นสาบเสื้อตัวใน

หลี่ชิงอี้หลับตาก่อนโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ปลายจมูกนางได้กลิ่นกายบุรุษชัดเจน เป็นกลิ่นหอมสะอาดราวกับใบไม้กลางฤดูวสันต์ นิ้วมือน้อยไล้ลงมาตามท่อนลำชูชัน

“…อื้อ….”

คนตัวโตหมดสิ้นความอดทน มือใหญ่บีบปลายคางหลี่ชิงอี้ก่อนกดท่อนลำเข้าโพรงปากบอบบาง ดวงหน้าน้อยหลับตาแน่น

“ดูดสิ”

ได้ยินคำสั่งอาญาสิทธิ์ เรียวลิ้นหลี่ชิงอี้ดูดดึงส่วนหัวปลายท่อนเนื้อในโพรงปากตนเองทันที เยี่ยหรงจี้แค่นยิ้มเย็นชา ฤทธิ์ยาโลหิตมังกรในร่างเริ่มส่งผล ผิวเนื้อไห่อ๋องร้อนราวกับมีกองไฟสุม

“ดูดลงไปให้ลึกกว่านั้น” น้ำเสียงเย็นชาติดจะแหบพร่าแว่วเข้าหู หลี่ชิงอี้ตัดสินใจใช้สองมือกำรอบท่อนเอ็นชูชัน เรียวลิ้นนุ่มดูดดึงสิ่งของในปากหนักหน่วง

“…ดี…..เจ้าทำได้ดีมาก”

เยี่ยหรงจี้หรี่สายตาจ้องมองดวงหน้าที่เอาแต่หลับตา การกระทำของนางบุรุษใดบ้างไม่พึงพอใจ ยามปลายลิ้นอุ่นนุ่มเกี่ยวกระกวัดลำแท่งใหญ่โต ฤทธิ์ยาโลหิตมังกรในร่างยิ่งพรั่งพรู มือใหญ่เอื้อมไปสำรวจกึ่งกลางกลีบบุปผาปิดสนิท พลันชะงักชั่วขณะ

“มอบร่างกายเจ้าให้ข้า” น้ำเสียงดุดันออกคำสั่งต่อไป หลี่ชิงอี้ยามนี้ความเหนียมอายบนหน้าไม่รู้เตลิดหายไปอยู่ที่ใด ร่างบางช้อนสายตามองสบดวงตาหงส์ ก่อนคลานขึ้นมานั่งคร่อมเรือนร่างกำยำล้ำค่า

“ปรนนิบัติข้าชิงอี้”

“…กรี้ด!!..”

ไม่รอให้นางเป็นฝ่ายกระทำ เยี่ยหรงจี้จ่อส่วนหัวบานเข้ากับร่องบุปผาเปียกแฉะ สองมือกดสะโพกเล็กบางสอดใส่แก่นกายเข้าไป หลี่ชิงอี้ร้องเสียงหลง ทรวงอกไหวกระเพื่อม

กลิ่นโลหิตพรหมจรรย์บางเบาลอยเข้าจมูก เยี่ยหรงจี้ดวงตาลุกโชนสวนทะลวงแก่นกายที่เหลือเข้าไปในร่างหลี่ชิงอี้จนมิด ร่างบางหวีดร้องลั่น ทรุดร่างซบอยู่ในอ้อมอกกำยำ เยี่ยหรงจี้ใบหน้าแหงนหงาย

“ทำให้ข้าพึงพอใจ…ชิงอี้….ทำให้สมกับที่เจ้าป้ายสีข้าไว้หลี่ชิงอี้”

เยี่ยหรงจี้จับสองมือผอมบางพาดบ่า ก่อนตะบี้ตะบันตอกอัดกลีบบุปผาฉ่ำแฉะถี่รัว หลี่ชิงอี้ทั้งร่างกระเด้งกระดอนอยู่บนหน้าตักไห่อ๋อง โชคดีตรงที่กลีบบุปผาของนาง มารดาร่างเก่าให้มามากมายพอดู เอามาปรนเปรอบุรุษครั้งแรก ถึงล่อลวงเยี่ยหรงจี้สติกระเจิง

“….อา……ชิงอี้…….” เยี่ยหรงจี้ส่งเสียงครางในลำคอ บุรุษเท่า นั้นถึงจะรู้ ผิวเนื้อตนเองยามถูกโพรงสวาทสตรีตอดรัด ให้ความรู้สึกกระสันซ่านเพียงใด

ร่างสูงใหญ่อุ้มสตรีในอ้อมแขนนอนราบลง ดวงตาหงส์ชำเลืองมองกลีบบุปผาอวบอูมผลุบเข้าออกไปตามแรงโยก โลหิตพรหมจรรย์ของนาง ร่างพระองค์ซึมซับเอาไว้แล้ว

ยาโลหิตมังกรมีกระสายยาสำคัญคือโลหิตพรหมจรรย์ เช่นนี้เองคืนนี้เยี่ยหรงจี้ถึงได้ต้องการสตรีพรหมจรรย์มาปรนนิบัติ

“…อ๊า!!!….อ๊า!!!….” หลี่ชิงอี้ทั้งร่างบิดเร่าซ่านกระสันใกล้ถึงฝั่งปรารถนา สองมือจิกผ้าห่มแน่น เรียวขาบอบบางเกี่ยวกระหวัดช่วงเอวสอบ แอ่นอ้าให้จอมปีศาจตอกอัดแก่นกายใหญ่ถนัด

“เจ้ากล้าสู้กับข้าหรือชิงอี้ ไม่กลัวตายแล้วหรือ”

เยี่ยหรงจี้หรี่สายตา ก่อนกดบั้นเอวเสยกระทุ้งจุดสวาทด้านในจนหลี่ชิงอี้สะโพกแอ่นโค้ง ร่างบางสั่นกระตุกน้ำสวาทมากมายล้นทะลักเปรอะเปื้อน

“เจ้ากล้าสุขสมก่อนข้าหรือชิงอี้”

“…กรี้ด!!!!!….”

ร่างใหญ่จับตรึงสะโพกที่ยังแอ่นค้าง เพิ่มจังหวะกระแทกกระทั้นดุดัน ร่างหลี่ชิงอี้เพิ่งจะแตะประตูสวรรค์ถึงกับหลั่งน้ำสวาทสุขสมอีกรอบ พร้อมกันกับเยี่ยหรงจี้จมดิ่งเข้าสู่ห้วงอารมณ์สุขสมปลายทาง

หยาดน้ำกามสีขุ่นไหลทะลักมาตามเรียวขาบอบบาง ทั้งที่สองร่างยังเชื่อมประสาน เยี่ยหรงจี้คำรามในลำคอ

“ข้าบอกไว้แล้ว หากคืนนี้เจ้ารอดไปได้”

บั้นเอวสอบถอนตัวตนดุดันออกจากร่างบอบบาง คราบน้ำสวาทสองร่างไหลย้อยมาตามร่องบุปผาบวมแดง กลายเป็นภาพเย้ายวนชวนให้อารมณ์ล้ำลึกปะทุขึ้นมาอีก

“…ท่าน….ท่านอ๋อง…..ซี้ดส์!!!…..”

เยี่ยหรงจี้จับร่างบางพลิกคว่ำ ทั้งยังยกสะโพกหลี่ชิงอี้ขึ้นสูง กลิ่นหอมหวานประหลาดลอยเข้าจมูก กลีบบุปผาอวบอูมเต้นระริกเชื้อเชิญอยู่เบื้องหน้า สติเยี่ยหรงจี้ราวกับถูกปีศาจราคะครอบงำ

เรียวลิ้นซอกซอนสำรวจไปทั่วจุดอ่อนไหว กลิ่นหอมจากเรือนร่างบอบบางดึงดูดตัณหาราคะโหมทะยาน จวบจนร่องสวาทหลี่ชิงอี้หลั่งน้ำหวานล้นทะลัก เยี่ยหรงจี้ถึงได้จรดท่อนเนื้อชูชันเคี่ยวกรำบทสวาทเร่าร้อนอีกครั้ง

“ชิงอี้เรือนร่างเจ้าถึงใจข้านัก!!”

ปีศาจเดินดินที่กลายมาเป็นปีศาจบนเตียง จวนจะถึงปลายทางไม่กี่อึดใจ เขากลับถอนท่อนเนื้อดุดันออกมาจ่อเข้าไปในโพรงปากหลี่ชิงอี้ น้ำรักหอมหวานพวยพุ่งไหลลงสู่ลำคอ เรียวปากบอบบางดูดกลืนราว กับเป็นของหวาน

………………………………………………………..

อย่าลืมกดติดตาม กดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น

เป็นกำลังใจให้กันนะคะ จุ้ฟๆ ❤️

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...