โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

รู้จัก ‘ด่านรถไฟผิงเสียง’ ทางด่วนส่งตรง ‘ผลไม้ไทย’ ข้ามพรมแดนสู่จีน

The Bangkok Insight

อัพเดต 03 ธ.ค. 2563 เวลา 12.06 น. • เผยแพร่ 03 ธ.ค. 2563 เวลา 07.29 น. • The Bangkok Insight

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลไม้เมืองร้อนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง ผลไม้ไทย และเวียดนาม ถูกขนส่งขึ้นรถไฟในระบบห่วงโซ่ความเย็นเข้าสู่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งมีพรมแดนเชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียนทั้งทางบกและทางน้ำ ผ่านความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน

เมืองผิงเสียง ภายในเขตปกครองตนเองกว่างซี มีสมญานามว่า "ประตูทิศใต้ของจีน" เป็นเมืองด่านหน้าบนพรมแดนจีน-เวียดนาม และท่าเรือบกใหญ่ที่สุดของจีนที่นำเข้า-ส่งออกผลไม้ร่วมกับอาเซียน ปัจจุบัน ผลไม้เมืองร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเข้าผ่านด่านผิงเสียงมีมากเกือบ 3 ใน 4 ของปริมาณนำเข้าผลไม้ประเภทเดียวกันทั้งหมด

ด่านรถไฟผิงเสียง ผลไม้ไทย

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ขบวนตู้คอนเทนเนอร์เย็นขนาด 45 ฟุต จำนวน 7 ตู้ ขนส่งแก้วมังกรของเวียดนามเข้าสู่สถานีผิงเสียงเป็นขบวนแรกนับตั้งแต่เปิดด่านนำเข้าผลไม้ในผิงเสียง หลังจากมาถึงสถานี สินค้าจะถูกขนส่งเป็นกลุ่มตามลำดับความสำคัญแบบจุดต่อจุดไปยังเซี่ยงไฮ้และที่อื่นๆ ต่อไป

เดือนเมษายน 2563 กว่างซีเพิ่ม ด่านรถไฟผิงเสียง และด่านตงซิง เพื่อนำเข้า ผลไม้ไทย ที่ส่งออกไปจีนผ่านประเทศที่ 3 นอกจากด่านมิตรภาพเดิมแล้ว ปัจจุบันยังมีด่านอีก 3 แห่งในกว่างซีที่สามารถขยายการค้าผลไม้ไทยได้

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ผลไม้ไทยเข้าสู่จีนเป็นครั้งแรกผ่านรถไฟระบบห่วงโซ่ความเย็นข้ามพรมแดน บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เย็นขนาด 40 ฟุต จำนวน 6 ตู้ ที่บรรจุมังคุดและทุเรียน 156 ตัน เมื่อผ่านการตรวจสอบที่ศูนย์โลจิสติกส์ด่านรถไฟผิงเสียงระหว่างประเทศแล้วก็ถูกกระจายต่อไปยังที่ต่างๆ ของจีนอย่างรวดเร็ว

ด่านรถไฟผิงเสียง

เนื่องจากมังคุดและทุเรียนจำเป็นต้องมีการดูแลเรื่องอุณหภูมิเป็นอย่างดี บริษัทการรถไฟหนานหนิงจึงจัดสรรตู้คอนเทนเนอร์เย็นเพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว อุณหภูมิของตู้บรรจุมังคุดและทุเรียนถูกควบคุมอยู่ที่ 2-8 องศาเซลเซียสในระหว่างการขนส่ง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสผลไม้นำเข้าที่สดใหม่

ศูนย์โลจิสติกส์ ด่านรถไฟผิงเสียง ระหว่างประเทศมีหน้าที่ดูแลด้านศุลกากร การตรวจสอบ และการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ผ่านขั้นตอนพิธีการทางศุลกากรแบบ "ครบวงจร" ช่วยให้มั่นใจได้ว่า ผลไม้ไทย สดใหม่จะส่งถึงผู้บริโภคหลายพันครัวเรือน

หลี่จวิ้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายขนส่งสินค้าของการรถไฟหนานหนิงกล่าวว่า "เราเชื่อมต่อกับศุลกากรผิงเสียงเพื่อให้การขนส่งสินค้าทางรถไฟเย็นข้ามพรมแดนราบรื่น เรายังปรับปรุงแผนการขนส่งและเปิดช่องทางสีเขียว ซึ่งทั้งช่วยลดการติดต่อระหว่างผู้คน ควบคุมการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน และยังทำให้สินค้าส่งไปทั่วประเทศโดยเร็วที่สุด"

บริษัทโลจิสติกส์เป่าเซิงจงเหิง ในกว่างซีอาศัยข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ติดกับเวียดนาม และความต้องการผลไม้ระหว่าง 2 ประเทศที่มีปริมาณมาก หันมาตั้งฐานในผิงเสียง คว้าโอกาสในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือการค้าผักและผลไม้ร่วมกับเวียดนามและไทย และส่งเสริมการดำเนินงานของรถไฟระบบห่วงโซ่เย็นข้ามพรมแดน

ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงสิ้นตุลาคม บริษัทได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์บรรจุผลไม้จำนวน 520 ตู้จากเวียดนามและไทยไปยังผิงเสียง มีมูลค่ามากกว่า 120 ล้านหยวน หรือประมาณ 553 ล้านบาท และยังมีแผนที่จะนำเข้าผลไม้ เช่น แก้วมังกร ขนุน ทุเรียน มังคุด อีกกว่า 500 ตู้ก่อนสิ้นปี

นับตั้งแต่เปิดด่านนำเข้าผลไม้ทางรถไฟผิงเสียง ศักยภาพในการขนส่งผลไม้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบหมุนเวียนห่วงโซ่ความเย็นข้ามพรมแดนระหว่างจีน-อาเซียน

นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม มีการนำเข้าผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านด่านผิงเสียงทั้งหมด 57 ล็อต รวม 641 คัน ในจำนวนนั้นเป็น ผลไม้ไทย 24 ล็อต รวม 269 คัน รถไฟห่วงโซ่ความเย็นข้ามพรมแดนทั้งหมด 65 ขบวน บรรทุกผลไม้มากกว่า 16,000 ตันจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉลี่ย 2 ขบวนต่อสัปดาห์

เจ้าหน้าที่การรถไฟหนานหนิงกล่าวว่า ในอนาคตจะยังคงสนับสนุนจุดเด่นของด่านแห่งนี้ในเรื่องการขนส่งปริมาณมากและพิธีการศุลกากรที่รวดเร็ว เปิดเส้นทางรถไฟตู้คอนเทนเนอร์เย็นบรรจุผลไม้ ขยายการค้าระหว่างจีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กว้างขึ้น

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...