โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แม่และเด็ก

4 พฤติกรรม ที่อาจบ่งบอกได้ว่าลูกเป็นเด็กพัฒนาการล่าช้า

Mood of the Motherhood

เผยแพร่ 21 ม.ค. 2564 เวลา 01.48 น. • Features

นอกจากอายุและลักษณะทางกายภาพแล้ว อีกสิ่งที่แสดงถึงเจริญเติบโตของเด็กได้เป็นอย่างดี ก็คือพัฒนาการ

คุณพ่อคุณแม่ย่อมคาดหวังว่าจะได้เห็นลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีและเป็นไปตามช่วงวัย แต่การเฝ้าคอยดูพัฒนาการของลูกนี่แหละ ที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวล เพราะกลัวว่าลูกของเราจะเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่งไปหรือเปล่า

ความหมายของเด็กที่มีพัฒนาการช้าก็คือ เด็กที่มีพัฒนาการไม่สมวัย ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน หรือเมื่อเทียบกับเด็กทั่วไป โดยเด็กอาจมีพัฒนาการช้าในหลายด้านหรืออาจจะมีพัฒนาการช้าในด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

ความผิดปกติที่ส่งผลทำให้ลูกพัฒนาการช้านั้น เกิดขึ้นได้จากทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรมที่ได้รับพ่อและแม่, สุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ของแม่ขณะตั้งครรภ์ หรือปัจจัยภายนอก เช่น การคลอดที่ไม่ราบรื่น ปัญหาสุขภาพของลูกในช่วงหลังคลอด ปัจจัยแทรกซ้อนระหว่างคลอด รวมถึงการดูแลและภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งปัจจัยทางร่างกายของลูก เพราะหากลูกมีร่างกายผิดปกติ ก็สามารถส่งผลถึงพัฒนาการองลูกได้อีกด้วย

ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตพัฒนการของลูกได้จากพฤติกรรมด้านต่างๆ ดังนี้

1. ลูกไม่หันตามเสียงหรือมักใช้เสียงดังผิดปกติ

เมื่อลูกอายุได้ประมาณ 6 เดือน ลองสังเกตว่า ลูกสามารถหันหน้าตามทิศทางของเสียงเรียกของคุณพ่อคุณแม่ได้หรือไม่ หรือเมื่อส่งเสียงเรียกแล้ว ลูกมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร และหากลูกไม่ตอบสนองกับเสียงที่ได้ยินรอบข้าง เช่น ไม่หัน ไม่สะดุ้งหรือตกใจเมื่อมีเสียงดัง

หรือลูกสามารถส่งเสียงโต้ตอบได้ แต่มักใช้เสียงที่ดังผิดปกติ หรือตอบสนองช้า ไม่ค่อยเข้าใจคำสั่ง และไม่สามารถออกเสียงง่ายๆ ตามคุณพ่อคุณแม่ได้ ลักษณะเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลูกมีถึงความผิดปกติเกี่ยวกับพัฒนาการทางการได้ยินเสียง

2. ลูกไม่สบตาหรือมีลักษณะของการมองผิดปกติ

หากลูกมีอาการลูกตาเหล่เข้าหรือเหล่ออก หรือคุณพ่อคุณแม่สามารถมองเห็นแสงสะท้อนสีขาวจากรูม่านตาของลูก อาจเป็นไปได้ว่า ลูกมีความผิดปกติที่รูม่านตา และส่งผลต่อพัฒนาการด้านการมองเห็น ทำให้ลูกมองไม่ชัด ไม่สามารถโฟกัสวัตุได้ และอาจสังเกตได้จากการที่ลูกขยี้ตาบ่อย ไม่มองตามผู้คนหรือสิ่งของ และไม่สามารถมองจับจ้องที่วัตถุได้

พฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้า เช่น ไม่สามารถเขียนและอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาได้เท่ากับเด็กคนอื่น

3. ลูกใช้ร่างกายด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าอีกด้าน

วิธีสังเกตการเคลื่อนไหวร่างกายของลูก ดูได้จากลูกสามารถ ลุก ยืน เดิน ได้คงที่หรือไม่ ถ้ามีอาการอ่อนปวกเปียกผิดปกติ แขนขาเกร็ง หรือดูเหมือนเคลื่อนไหวลำบาก อาการเช่นนี้ จะทำให้ลูกใช้ร่างกายด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าอีกด้าน รู้สึกเหนื่อยที่ต้องเคลื่อนไหว เซื่องซึม ขาดความกระตือรือร้น และไม่สามารถควบคุมการทรงตัวให้มีความสมดุลขณะถูกอุ้มได้

4. ลูกมีพฤติกรรมและการแสดงออกก้าวร้าว หรือซนผิดปกติ

เมื่อเริ่มรู้สึกว่าลูกกำลังมีพฤติกรรมก้าวร้าว ซนมากผิดปกติ ไม่ชอบสบตากับใคร ไม่มีสมาธิ มักจะสนใจสิ่งของหรือวัตถุมากกว่าการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น อาการเหล่านี้เริ่มบ่งบอกถึงความผิดปกติทางพัฒนาการของลูกได้

แต่ทั้งนี้ พัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกและสงสัยว่าลูกอาจเข้าข่ายเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า อย่าเก็บความสงสัยนั้นไว้คนเดียวค่ะ แนะนำให้รีบปรึกษากุมารแพทย์เพื่อตรวจประเมินพัฒนาการ และวางแผนรักษาแก้ไขให้ทันเวลานะคะ

อ้างอิง

phyathai

gj.mahidol

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...