โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“เสวกามาตย์” คำเรียกขุนนางสมัยก่อน คืออะไร ต่างจาก “อำมาตย์” อย่างไร?

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 06 ม.ค. เวลา 03.12 น. • เผยแพร่ 03 ม.ค. เวลา 06.17 น.
ภาพประกอบเนื้อหา - ข้าราชการสยาม ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

ยศและคำเรียกข้าราชการฝ่ายพลเรือนสมัยก่อนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ดังมีชื่อยศต่าง ๆ มากมายที่บ่อยครั้งเจาะจงยุคสมัย หรือมีใช้เฉพาะบางรัชกาล จนชวนให้สงสัยว่า แต่ละยศควรเทียบกับยศสมัยใหม่ยศใด หนึ่งในนั้นคือ “เสวกามาตย์”

ทั้งนี้ จริง ๆ แล้ว เสวกามาตย์(เส-วะ-กา-มาด) เป็นการสมาสของ 2 คำ คือ เสวกกับ อำมาตย์

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลความหมายของ เสวกว่า[-วก] น. ข้าราชการในราชสำนัก คำเดิมในภาษาบาลี-สันสกฤต หมายถึง อยู่ใกล้, อยู่รวม, นับถือ, นอบน้อม, คนใช้, บริวาร, คนสนิท, คนนับถือ(อ่านว่า เส-วก)

ส่วน อำมาตย์หรือ อำมาตย- หมายถึง [อำ-หมาด, อำ-หมาด-ตะ-ยะ] น. ข้าราชการ, ข้าทูลละอองธุลีพระบาท (แผลงมาจาก อมาตย์)และ น. ลูกขุน, ขุนนาง, ข้าราชการฝ่ายพลเรือน

ดังนั้น เสวกามาตย์จึงไม่ใช่ชื่อยศเฉพาะ แต่ใช้เรียกเสวกและอำมาตย์ร่วมกัน แม้หนังสือเก่า ๆ จะนิยมใช้คำนี้เพื่อความกระชับ แต่จากลักษณะยศข้าราชการ ทั้งคู่แยกจากกันค่อนข้างชัดเจน

เรื่องนี้ ส. พลายน้อย อธิบายไว้ในหนังสือ ขุนนางสยาม ประวัติศาสตร์ “ข้าราชการ” ทหารและพลเรือน (พิมพ์ครั้งที่ 3, 2559 : มติชน) ว่า

“ยศ เสวก เป็นยศฝ่ายราชสำนักซึ่งขึ้นตรงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ยศ อำมาตย์ เป็นยศทางฝ่ายข้าราชการพลเรือนซึ่งขึ้นตรงต่อกระทรวงต่าง ๆ อันเป็นต้นสังกัด”

ยศข้าราชการฝ่ายราชสำนักในกรมมหาดเล็กในอดีตจะมีตำแหน่ง “จางวาง” เป็นหัวหน้า รองลงมาเป็น หัวหมื่น รองหัวหมื่น และจ่า ภายหลังมีการปรับเปลี่ยนทำให้ จางวาง เทียบได้กับ มหาเสวกตำแหน่งอื่น ๆ ถัดลงมาจึงเป็น เสวกเอก -โท -ตรีตามลำดับ รวมถึง รองอำมาตย์เอก -โท -ตรี ฯลฯ

ยศเสวกเป็นยศแสดงให้รู้ว่าเป็นข้าราชการที่ขึ้นตรงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะอยู่กระทรวงใดก็ตาม จะไม่ใช้ อำมาตย์

ส่วนยศ อำมาตย์ จะเริ่มตั้งแต่ รองอำมาตย์ตรี -โท -เอก ขึ้นไปเป็น อำมาตย์ตรี -โท -เอก และ มหาอำมาตย์ตรี -โท -เอก ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม บางครั้งยังมียศที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้อำมาตย์บางท่านเป็นกรณีพิเศษ นั่นคือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)เสนาบดีกระทรวงนครบาล ที่ได้รับพระราชทานยศ “มหาอำมาตย์นายก” อันเป็นยศสูงสุดของข้าราชการฝ่ายพลเรือน และมีเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 6 เท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 3 มกราคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “เสวกามาตย์” คำเรียกขุนนางสมัยก่อน คืออะไร ต่างจาก “อำมาตย์” อย่างไร?

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...