โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

แม่นกน้อย ร่ำไห้ รดน้ำศพ จั๊กจั่น ดาวไพร สามีเล่านาทีเฝ้ารอปาฏิหาริย์ ก่อนสูญเสียภรรยาสุดที่รัก

MATICHON ONLINE

อัพเดต 15 ม.ค. เวลา 15.57 น. • เผยแพร่ 15 ม.ค. เวลา 15.56 น.

แม่นกน้อย ร่ำไห้ รดน้ำศพ จั๊กจั่น ดาวไพร สามีเล่านาทีเฝ้ารอปาฏิหาริย์ ก่อนสูญเสียภรรยาสุดที่รัก

จากกรณีแม่เย็น จั๊กจั่น ดาวไพร ดาวร้ายในตำนานของ คณะหมอลำเสียงอิสาน ได้จากไปในวัยเพียง 56 ปี หลังป่วยกะทันหัน เข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียู 9 วัน ท่ามกลางความอาลัยจากแฟนคลับ และเพื่อนร่วมวงการ ที่ต่างยกย่องในความสามารถ และบทบาทอันน่าจดจำของเธอ ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก หมอลำเสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวสุดเศร้าของวงการลูกทุ่งหมอลำ แม่เย็น จั๊กจั่น ดาวไพร หรือ นางบานเย็น มุกดาม่วง ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ โดยระบุว่า “ปิดตำนานดาวร้ายตลอดกาล แม่เย็น จั๊กจั่น ดาวไพร ทีมงานหมอลำเสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอให้แม่เดินทางสู่สัมปรายภพที่ดี”

อ่านข่าว – ดวงใจสลาย! แม่นกน้อย ปล่อยโฮ สูญเสีย จั๊กจั่น ดาวไพร ดาวร้ายคณะเสียงอิสาน

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในบ้านหนองใส 2 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของแม่เย็น จักจั่น ดาวไพร ที่ทางญาติและลูกวงเสียงอีสานบางส่วน กำลังประกอบพิธีรดน้ำศพ โดยนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาประกอบพิธี ก่อนจะนำศพเข้าบรรจุโรงเย็น โดยมีนางอุไร ฉิมหลวง หรือแม่นกน้อย อุไรพร อายุ 68 ปี ผู้ก่อตั้งวงดนตรีหมอลำ“เสียงอิสาน” เป็นประธานรดน้ำศพ“จั๊กจั่น ดาวไพร” ด้วยน้ำตาคลอ เมื่อเสร็จพิธี แม่นกน้อย อุไรพร และนายชาญณรงค์ มุกดาม่วง สามี ได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณ “จักจั่น ดาวไพร” ไม่ต้องเป็นอะไรแล้วในภพนี้ ให้ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ลูกหลานวงเสียงอีสาน แม่นกจะดูแลเอง

ที่ถือว่าเป็นตัวแสดงหลักของวงเสียงอิสาน รองลงมาจากแม่นกน้อย ที่ร่วมแสดงกับวงมา 37 ปี และเพื่อเป็นการแสดงความอาลัยกับการจากไปอย่างกระทันหัน ด้วยโรคประจำตัว คือ หอบหืด และความดันสูงกำเริบ เวลา 21.40 น. วันที่ 6 มกราคม 2568 และเสียชีวิตอย่างสงบ เวลา 15.45 น. วันที่ 14 มกราคม 2568 รวมเวลารักษาอาการป่วย 9 วัน ขณะที่ทางเทศบาลตำบลหนองบัว และอบต.หนองนาคำ ได้นำเต้นท์ และห้องน้ำเคลื่อนที่มาเตรียมรองรับแขกที่จะมาสวดอภิธรรมคืนแรก รวมทั้งข้าวปลาอาหารที่ครัวชั่วคราวหลังบ้าน

โดยค่ำคืนนี้จะมีพิธีสวดอภิธรรมคืนแรก และมีการสวดอภิธรรมทุกคืน และมีกำหนดการฌาปนกิจศพวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. บนเมรุชั่วคราวที่บริเวณกลางทุ่งนาข้างบ้านนาตองสี่ ที่มีเนื้อที่กว่า 16 ไร่ และคาดว่าจะมีแฟนคลับวงดนตรีเสียงอิสาน และเพื่อนร่วมอาชีพ มาร่วมส่งดวงวิญญาณ “จั๊กจั่น ดาวไพร” ขึ้นสู่สวรรค์กันจำนวนมาก

นายชาญณรงค์ มุกดาม่วง อายุ 51 ปี สามี เล่าว่า ภรรยาตนเป็นโรคหอบหืด ต้องใช้ยาพ่นตลอดเวลาหายใจไม่ออก เวลานั่งรถไปทำการแสดง เวลาจะขึ้นเวที และเป็นโรคนี้มานานแล้ว พาไปรักษาจนอาการดีขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าภรรยาจะมาจากไปเร็วขนาดนี้ และไม่ลางสังหรณ์ใจอะไรเลย เพราะภรรยาก็จะมีอาการแบบนี้มาตลอด พอพ่นยาแล้วก็หาย แต่เขาจากไปแบบไม่ทรมาน ไม่ให้คนอยู่ข้างหลังเดือดร้อน ต้องมาคอยปรนนิบัตินอนติดเตียง คนอีสานถือว่าเป็นคนมีบุญ

วันเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงวงไม่มีงานคือวันที่ 6 และ 7 ที่ผ่านมา ลูกหลานในวงก็พากันมาตกปลา มาทำอาหารกินกัน และตำส้มตำกันที่บ้านนาตองสี่ตามปกติ และกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวกัน ส่วนภรรยาไปอาบน้ำให้หลาน และมีอาการโรคหอบหืดกำเริบ ลูกสาวในวงก็มาบอกว่าแม่หายใจไม่ออกแล้ว ตนก็บอกเอาแม่ขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล โดยเปิดไฟกะพริบกดแตรขอทางไปตลอด และให้ลูกๆปั๊มหัวใจ แต่ภรรยาก็ไม่ฟื้นและหายใจเลย จนไปถึงโรงพยาบาลหมอปั๊มหัวใจกลับคืนมาได้ตามปกติ และรอให้เลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงสมอง เพราะสมองขาดเลือดนาน 10 กว่านาที จากนั้นตนก็รอปาฏิหาริย์จนกระทั่งบ่ายวันที่ 14 มกราคม 2568 หมอจะเจาะคอ แต่ภรรยาเคยสั่งไว้ไม่ให้เจาะ หากจะหมดลมหายใจก็ให้หมดไปอย่างสงบเลย

”แม่เย็น หรือภรรยาของตน เป็นเสาหลักของครอบครัว และวงเสียงอิสานด้วย พบรักกันตอนตนมาร่วมงานเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ตอนนั้นภรรยาเป็นหางเครื่อง ก่อนจะมาเป็นนักร้องนักแสดง ส่วนตนตีกลอง โดยให้แม่นกน้อย กับพ่อหลอดไปสู่ขอตามประเพณี ท่าน 2 คน เหมือนเป็นพ่อแม่ของพวกตนก็ว่าได้ จนมีลูกชายวัย 30 ปี ก็ตีกลองอยู่กับวงเสียงอิสาน และตอนนี้ตนและภรรยาก็มีหลานชายน้อย 1 คน หากตนและภรรยาออกจากวง ก็คงไม่ไปอยู่กับวงอื่น หรือหากขัดไม่ได้ก็ขอไปเล่นให้ชั่วคราว เพราะบุญคุณพ่อหลอดกับแม่นกน้อย ที่ให้ชีวิตที่ดีกับครอบครัวของตนมาตลอด และจะอยู่กับวงเสียงอิสานไปจนถึงวันตาย หากดวงวิญญาณภรรยารับรู้ ก็อยากบอกว่าให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีสมสุข และสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว”

ด้านแม่นกน้อย อุไรพร เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวร้าย มันจุกในอกจนพูดไม่ออก หลังจากมีเรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้นกับบ้านตองห้า ที่สูญเสียพ่อหลอด และมาเกิดไฟไหม้ 2 ครั้ง และบานเย็นเขาก็มาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน บานเย็นมาอยู่กับตนได้ 37 ปี รักเหมือนลูก หรือสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง เริ่มจากเป็นหางเครื่อง แล้วตนก็มาฝึกร้องหมอลำ และขณะนั้นในวงขาดตัวโกง หรือนางร้ายในเรื่องที่จะแสดง จึงเป็นโอกาสของเขา และตนก็สอนการแสดงแบบดิบๆเลย เริ่มจากศูนย์

เขาก็มีปฏิภาณไหวพริบพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นศิลปินต้นแบบของวงเสียงอิสานรุ่นบุกเบิกก็ว่าได้ และเป็นแบบอย่างที่ดีอีกด้วย แถมยังเป็นคู่คิดอยู่เคียงข้างกับตนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยย้ายวงหนีจากตนไปเลย และจะขอตายอยู่กับวงเสียงอิสาน และมันก็เป็นความจริงที่เขาเคยพูดเอาไว้ เขาเป็นโรคหอบมานานแล้ว แต่ก็ไม่ไปรักษาอย่างจริงจัง เพราะต้องตระเวนแสดงไปทั่วประเทศ ประกอบกับความรับผิดชอบขอเขา แม้กระทั่งป่วยต้องให้น้ำเกลืออยู่หลังเวที พอถึงคิวแสดงเขาก็ถอดสายน้ำเกลือออกกระโดดขึ้นเวทีแสดงให้แฟนเพลงได้ชม

”แม่นกอยากบอกดวงวิญญาณบานเย็นว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว เหนื่อยมานานแล้ว ถึงตอนนี้ก็ได้พักสักที แม่นกและลูกๆในวงเสียงอิสานก็ทำดีที่สุดแล้ว และอยากฝากบอกแฟนเพลงเอฟซี ของเสียงอิสาน และแม่บานเย็น ว่าแม่นกขอขอบคุณจากใจจริง และน้อมรับทุกคำคอมเมนต์ เพราะตอนนี้วงเสียงอีสานกำลังเสียใจที่ต้องสูญเสียบุคลากรสำคัญของวงไป เวลาไปทำการแสดงในช่วงนี้ก็กราบขออภัยไว้ที่นี่ด้วย และจะพยายามมอบความสุขให้ท่านผู้ชมอย่างสุดความสามารถ ที่ตกลงกันวันฌาปนกิจศพบานเย็นในวันที่ 20 มกราคม 2568 นั้น เพราะเป็นวันที่วงไม่มีงานแสดง หลังจากไปแสดงที่ จ.สมุทรสาคร ในวันที่ 19 มกราคม”

ค่ำคืนนี้ก็มีงานแสดงที่ จ.อุบลราชธานี เสร็จพิธีวันนี้ตนก็จะเดินทางไปร่วมการแสดง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกๆในวง ตั้งแต่พ่อหลอดจากไป ก็มาเข้าฝันตนตลอดแทบทุกคืน บอกว่าได้ตั้งวงดนตรีใหม่แล้ว และอยากได้นางเอกหมอลำไปแสดงด้วย จนต้องนอนไหลร้องไห้ทุกครั้ง เพราะพ่อหลอดจะมาคุมเอาตัวแม่ไปอยู่ด้วย และก่อนบานเย็นจะเสียชีวิต พ่อหลอดก็มาเข้าฝันแบบเดิม อยากได้นางเอกหมอลำไปอยู่ด้วย และสงสารตนที่ทำวงดนตรีหมอลำเหนื่อยมากแล้ว ให้ไปอยู่กับพ่อหลอดจะดีกว่า และตนก็อยากบอกพ่อหลอดและมัจจุราชว่า ให้เลิกมาวนกับครอบครัววงเสียงอีสานได้แล้ว ให้อยู่กันอย่างสงบ และตัดขาดกันกับแม่นก อย่าได้มาวนเวียนกันอีกเลย ตนจะได้อยู่กับลูกหลานไปนานๆ เพราะอยู่กันละภพแล้ว

ขณะที่นายก้องภพ บุญยืน หรือแสตมป์ อายุ 31 ปี หัวหน้าแดนเซอร์วงเสียงอิสาน เล่าว่า ตนร่วมงานกับแม่เย็นมา 13 ปี เคารพรักแม่เย็นเหมือนแม่แท้ๆ รองลงมาจากแม่นกน้อย อุไรพร เพราะแม่เย็นแสดงอยู่กับวงเสียงอิสานมา 37 ปี เป็นนักแสดงตัวหลักและอาวุโส ไม่เคยไปอยู่กับวงอื่นเลย แม่เย็นเป็นคนใจดี รักเอ็นดูคนในวงเหมือนลูก เหมือนญาติพี่น้อง มีอะไรเดือดร้อนใจก็จะเข้ามาช่วยเหลือ และให้คำปรึกษา เพราะแกเป็นคนเข้าหาง่าย ไม่ถือตัว ถึงแม้ว่าแกจะเป็นศิลปินหมอลำดังก็ตาม รวมทั้งเวลาไม่มีงานแสดง ก็จะเรียกคนในวงมาร่วมวงกินข้าวกันที่บ้านนาตองสี่ ซึ่งเป็นบ้านของแก ต่างกับเวลาแกแสดงรับบทเป็นดาวร้ายตลอดกาล แต่ชีวิตจริงเหมือนกับนางฟ้า และถือว่าแกเป็นโลโก้ของวงเสียงอิสานก็ว่าได้

”เมื่อวานรู้ข่าวว่าแกจากไปแล้ว ทุกคนในวงก็ต่างพากันร้องไห้เสียใจกันอย่างมาก ไม่เป็นอันทำงานแสดงหน้าเวทีกันเลย เพระไม่คิดว่าแกจะจากไปเร็วขนาดนี้ แต่ก็จะทำตามคำสอนที่แกบอกเอาไว้ว่า ให้ทำงานในสิ่งที่ตนรักให้ดี อย่าให้แกต้องเป็นห่วง อยากบอกดวงวิญญาณแม่เย็น ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ลูกๆในวงจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่แม่เย็นรักและห่วงวงเสียงอิสาน และจะเดินหน้าทำงานต่อไปกับวงเสียงอิสานไปจนสุด เหมือนกับแม่เย็นอยู่กับวงมาจนสุดชีวิตเหมือนกัน”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แม่นกน้อย ร่ำไห้ รดน้ำศพ จั๊กจั่น ดาวไพร สามีเล่านาทีเฝ้ารอปาฏิหาริย์ ก่อนสูญเสียภรรยาสุดที่รัก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...