โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Grab เพิ่มคาดการณ์รายได้ 2567 เผยกำไรแกร่ง ดีมานด์พุ่งทั้งบริการเรียกรถ-ส่งอาหาร

การเงินธนาคาร

อัพเดต 12 พ.ย. 2567 เวลา 15.46 น. • เผยแพร่ 12 พ.ย. 2567 เวลา 08.46 น.

Grab ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดปี 2567 หลังผลกำไรแข็งแกร่ง และอุปสงค์เติบโตต่อเนื่อง ทั้งบริการเรียกรถและบริการส่งอาหาร พร้อมอัปเดตการซื้อหุ้นคืน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า *แกร็บ โฮลดิ้งส์ (Grab Holdings) ของสิงคโปร์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรประจำปี 2567 โดยคาดว่ากำไรประจำปีที่ปรับแล้วจะสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากอุปสงค์บริการเรียกรถและส่งอาหารที่เพิ่มขึ้น*

Grab เป็นแพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารและสั่งอาหารเดลิเวอรีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา

Grab ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ EBITDA ที่ปรับแล้วขึ้นเป็นระหว่าง 308 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 313 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หลังการประกาศดังกล่าว ราคาหุ้นของ Grab พุ่งขึ้น 15% แตะที่ระดับ 5.04 ดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายหลังนอกเวลาทำการ หลังจากปิดที่ระดับ 4.38 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับรายได้ตลอดทั้งปีนั้น แกร็บ คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ระหว่าง 2.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 2.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 2.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 2.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายแอนโทนี ตัน ซีอีโอของGrab แสดงความมั่นใจในโอกาสการเติบโตของ แกร็บ โดยเน้นย้ำถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัท และเชื่อว่าอยู่ในตำแหน่งที่มีศักยภาพที่จะคว้าโอกาสจากการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมมูลค่าสูงและยกระดับอุปสงค์ในประเทศ

การเปลี่ยนแปลงของ แกร็บ จากการใช้จ่ายเชิงรุกไปสู่การเน้นผลกำไรและประสิทธิภาพด้านต้นทุนนั้นได้ผลตอบแทน หลังจากที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตและส่วนแบ่งการตลาดมาหลายปี

นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อเกือบ 3 ปีก่อน บริษัทต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมด้านการเงินที่ตึงตัวขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ แกร็บ มักลดการจ่ายเงินจูงใจให้กับผู้ใช้และคนขับ โดยมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าประจำและมีธุรกรรมสูงแทน นอกจากนี้แล้ว แกร็บ ยังได้ขยายข้อเสนอระดับพรีเมียม เช่น การเรียกรถลีมูซีนและฟีเจอร์การจองขั้นสูง ซึ่งช่วยเพิ่มอัตรากำไรให้สูงขึ้น

ด้านนายอเล็กซ์ ฮังเกต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า แนวโน้มของแรงจูงใจเป็นไปในทางบวก แม้ว่าการใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละไตรมาส เนื่องจากมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้

สำหรับไตรมาสที่ 3 นั้น แกร็บ รายงานว่ามีผู้ใช้งานรายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41.9 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ฐานลูกค้าที่ขยายตัวและปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นของ แกร็บ ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสล่าสุด ซึ่งถือเป็นการพลิกฟื้น หลังจากที่ขาดทุน 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้เพิ่มขึ้น 17% สู่ระดับ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเติบโต 2 หลักที่แข็งแกร่งจากทั้งกลุ่มบริการเรียกรถและกลุ่มบริการจัดส่งอาหาร

นายฮังเกต คาดว่าพลวัตการเติบโตนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จะได้รับแรงกระตุ้นจากอุปสงค์การเดินทางช่วงวันหยุด

นอกจากนี้แล้ว แกร็บ ยังให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนก.พ. โดยเมื่อสิ้นเดือนก.ย. บริษัทได้ซื้อหุ้นคืนและขายหุ้นออกไปแล้ว 57 ล้านหุ้น รวมเป็นมูลค่า 189 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิง : asia.nikkei.com

อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...