ส่องเหตุผล 'บิ๊กซี' ไม่ชะลอลงทุนครึ่งปีหลัง ชิงทำเลทองสู่เมืองท่องเที่ยว
นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า แผนของบิ๊กซีในครึ่งปีหลังได้เดินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้กับการขยายสาขาขนาดใหญ่หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 4 สาขา เน้นทำเลทั้งกทม.และต่างจังหวัด รวมถึงรีโนเวทขนาดใหญ่ 14 สาขา และการปรับโฉมสาขาขนาดเล็ก 9 สาขา
สำหรับการเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ได้ขยายตัวในระดับสูง มาจากการที่บริษัทยังมองโอกาสที่ดีระยะยาวในประเทศไทย รวมถึงมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา แม้ว่าภาพรวมบิ๊กซีในเดือน เม.ย.ยอดทราฟฟิกในสาขาท่องเที่ยวกับ บิ๊กซี ราชดำริ มีนักท่องเที่ยวลดลง 10-20% แต่ในเดือน พ.ค.เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว
ทั้งนี้แผนในเดือน มิ.ย.นี้ ได้รุกขยายสาขาใหม่กับ “บิ๊กซี แอท ฟีนิกซ์” (Big C at Phenix) ใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท โดยวางโมเดลนำเสนอสาขา บิ๊กซีราชดำริ ย่อขนาดมาในสาขาแห่งนี้ เป็นสาขารูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต มีขนาดพื้นที่ประมาณ 3,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของ โครงการฟีนิกซ์ ประตูน้ำ เน้นกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมมีจุดเด่นกับการจัดทำ “Tourist Favorites Zone” จำหน่ายสินค้ากลุ่มของฝากยอดนิยม ขนมไทย ผลไม้อบแห้ง รวมถึงสินค้าเอ็กซ์คลูชีฟ ไอเท็ม และสินค้าจากผู้ประกอบการเอ็มอี รวมถึงกลุ่มสินค้าอาหารสดและอาหารแห้งหลายรายการ
สำหรับ “บิ๊กซี แอท ฟีนิกซ์” (Big C at Phenix) เป็นสาขาลำดับที่ 205 ของบริษัท และถือเป็นสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีขนาดใหญ่ ที่เปิดลำดับที่สามในปีนี้ ต่อเนื่องจากสาขาแรกที่บิ๊กซี บลูพอร์ต หัวหิน และบิ๊กซี สวนนงนุช พัทยา เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
"ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล" รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี และ "วัลลภา ไตรโสรัส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ร่วมเปิดสาขาใหม่ บิ๊กซี สาขาฟีนิกซ์ ประตูน้ำ
ขณะที่แผนการขยายสาขาใหม่ไปในต่างประเทศ บริษัทได้ให้น้ำหนักไปในตลาดของประเทศเวียดนามที่มีสาขาอยู่แล้ว ประมาณ 20 สาขา และตลาดของประเทศอินโดนีเซียที่อยู่ระหว่างการศึกษาแผนเข้าไปลงทุน
สำหรับสาขาในกัมพูชาและลาว ยังไม่มีแผนเปิดเพิ่มเติมทั้งในปีนี้และปีหน้า 2569 โดยตลาดกัมพูชา บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันมีธุรกิจในกัมพูชา 20 สาขา แบ่งเป็น โมเดลขนาดใหญ่ 1 สาขา และโมเดลขนาดเล็ก 19 สาขา ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนในกรณีเรื่องระบบไฟฟ้า ทั้งการจัดทำระบบปั่นไฟสำรองไว้ ส่วนในลาว บริษัทมี 1 สาขาใหญ่ และสาขาเล็ก ประมาณ 60 สาขา
ขณะเดียวกันบริษัทได้วางแผนในปี 2569 จะเดินหน้าใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่าปี 2568 ที่ใช้งบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนของ บิ๊กซี และ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนที่เท่ากัน 50% เพื่อขยายธุรกิจต่างๆ ในเครือ