โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

โรงแรม 3 ดาว แข่งดุแย่งลูกค้า ทัวร์จีนน้อย ห้องพักล้น หวั่นขึ้นค่าแรง 400 บาท ซ้ำเติมต้นทุน

Thairath Money

อัพเดต 10 ก.ย 2567 เวลา 06.46 น. • เผยแพร่ 10 ก.ย 2567 เวลา 06.46 น.
ภาพไฮไลต์

แม้เศรษฐกิจไทยจะโตต่ำ แต่เดอะแบกทางเศรษฐกิจอย่าง “ภาคการท่องเที่ยว” ครึ่งแรกของปี 2567 นับว่าโตแรงเกินคาด จากมาตรการฟรีวีซ่า เทศกาลสงกรานต์และบิ๊กอีเวนต์ต่างๆ แม้นักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่ฟื้นกลับมาเท่าระดับก่อนโควิดก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 แม้ความร้อนแรงจะชะลอลงเพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่แรงส่งยังแข็งแกร่ง ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 1 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 23 ล้านคน กวาดรายได้ไปแล้ว 1.1 ล้านล้านบาท หากแรงส่งยังดีอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้มีลุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะเป้าหมายที่ 36 ล้านคน เช่นเดียวกับธุรกิจโรงแรมที่ได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ ในช่วงครึ่งปีแรก และมีลุ้นรายได้ปี 2567 ฟื้นตัวกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด

Krungthai COMPASS ประเมินว่า รายได้ของธุรกิจโรงแรมในปี 2567-2568 จะมีมูลค่า 9 แสนล้านบาท และ 9.6 แสนล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่อัตราการเข้าพัก (OR) และราคาห้องพัก (ADR) ที่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงปี 2562 แล้ว ส่งผลให้รายได้รวมของธุรกิจโรงแรมในปี 2567 มีแนวโน้มกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด

ต่างชาติแห่พักโรงแรมหรู ดันราคาห้องพักพุ่ง

แม้ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 จะฟื้นตัวได้เพียง 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 แต่อัตราเข้าพัก (OR) ฟื้นตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยมีค่าเฉลี่ยในระดับ 72.6% ขณะที่ราคาห้องพักที่ขายได้เฉลี่ย (ADR) ก็สูงขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 9% ที่ระดับราคาเฉลี่ย 1,920 บาทต่อห้อง สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวหลังโควิด ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาวเป็นหลัก และมีค่าใช้จ่ายค่าที่พักสูงขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปที่เดินทางเข้าพักเพิ่มขึ้น และพำนักในไทยนานกว่านักท่องเที่ยวจีนถึง 2 เท่า เมื่อเทียบจากช่วงปี 2562 ส่งผลให้ OR และ ADR ของโรงแรมในภาคใต้มีการฟื้นตัวที่โดดเด่น และเป็นภูมิภาคเดียวที่ OR กลับมาสูงกว่าช่วงก่อนโควิดแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่ของการปรับขึ้นราคาห้องพักและรายได้จากค่าที่พัก โรงแรมในกลุ่ม 3 ดาวลงไป ยังฟื้นตัวได้ช้ากว่าโรงแรมระดับบน เนื่องจากยังต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากจำนวนห้องพักที่ค่อนข้างล้นตลาด อีกทั้งกลุ่มลูกค้าหลักอย่างกลุ่ม Backpacker และกรุ๊ปทัวร์ ยังฟื้นตัวได้จำกัด รวมถึงปัจจุบันผู้บริโภคยังมีทางเลือกใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น Airbnb

3 ปัจจัยกดดันการฟื้นตัวธุรกิจโรงแรม

1. ห้องพักล้นตลาด

ปัจจุบันจำนวนห้องพักของธุรกิจโรงแรมยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุด ณ ก.ค. 2567 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนห้องพักในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตมากถึง 6.9 แสนห้อง ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด ประมาณ 20.2% สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในธุรกิจโรงแรมที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเพชรบุรี ที่จำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นถึง 26%-36% เมื่อเทียบกับปี 2562 และซึ่งจะทำให้การแข่งขันของโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ในช่วง 1-2 ปีนี้จะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

เมื่อเทียบกับอาเซียน พบว่า การแข่งขันของธุรกิจโรงแรมในไทยค่อนข้างสูง สะท้อนจากดัชนี The Travel & Tourism Development Index 2024 ที่ระบุว่าไทยมีจำนวนห้องพักเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอาเซียนถึง 52% สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน และอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมโอเชียเนีย) เป็นรองเพียงประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์เท่านั้น โดยสัดส่วนห้องพักของไทยอยู่ที่ 1.12 ห้อง/จำนวนประชากร 100 คน ขณะที่สัดส่วนห้องพักเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 0.60 ห้อง/จำนวนประชากร 100 คน เท่านั้น

2. นักท่องเที่ยวจีนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

Krungthai COMPASS ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังไทยในปี 2567-2568 จะอยู่ที่ 7.5 และ 9.7 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นการฟื้นตัวราว 68% และ 87% เท่านั้น เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศจีนที่ขยายตัวต่ำ ส่งผลให้ชาวจีนระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้รัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นให้ชาวจีนท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก

ประกอบหลังโควิด นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยยุค ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางด้วยตนเองเป็นหลัก ทำให้นักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จีนซึ่งถือเป็นตลาดหลักของโรงแรมในระดับไม่เกิน 3 ดาว ลดลง ดังนั้นในช่วง 1-2 ปีนี้ การฟื้นตัวของลูกค้าชาวจีนในโรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาว จะยังช้ากว่าโรงแรมระดับบนอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศคู่แข่งที่ต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวจีน ผ่านมาตรการฟรีวีซ่า โดยปัจจุบันมีประเทศที่ให้วีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีนรวมกว่า 40 ประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ มัลดีฟส์

3. แบกต้นทุนสูงรอบด้าน

ต้นทุนของผู้ประกอบการโรงแรมในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กดดันความสามารถในการทำกำไรช่วง 1-2 ปีนี้ โดยปัจจุบันโครงสร้างต้นทุนธุรกิจโรงแรมไทยค่าแรงมีสัดส่วนสูงถึง 30% และยังถูกซ้ำเติมจากต้นทุนค่าไฟฟ้าและต้นทุนทางการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีต ขณะที่ภาครัฐเตรียมปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน ทั่วประเทศ เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. 2567 ซึ่งปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนผู้ประกอบการที่จ่ายค่าแรงงานต่ำกว่า 400 บาท/วัน สูงถึง 71% แต่การส่งผ่านต้นทุนยังทำได้จำกัดเนื่องจากภาวะการแข่งขันในธุรกิจที่รุนแรง

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โรงแรม 3 ดาว แข่งดุแย่งลูกค้า ทัวร์จีนน้อย ห้องพักล้น หวั่นขึ้นค่าแรง 400 บาท ซ้ำเติมต้นทุน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...