โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทภ.2 เผย แฉเล่ห์เขมร! จัดฉากยิงไทย หวังให้ใช้อาวุธหนักตอบโต้ เพื่อร้องนานาชาติ

MATICHON ONLINE

อัพเดต 58 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 58 นาทีที่แล้ว

แฉเล่ห์เขมร! ทภ.2 เผย กัมพูชา จัดฉากยิงไทย หวังให้ใช้อาวุธหนักตอบโต้ เพื่อร้องนานาชาติ ใช้ดาวเทียมจับความร้อน พิสูจน์ โดนไทยรังแก ด้าน ฝ่ายไทย งัด ทหารบาดเจ็บ 2 นายหักล้าง กัมพูชา มีแผนประทุษร้าย

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม แหล่งข่าวกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2 )เปิดเผยหลังกัมพูชาเปิดฉากโจมตีทหารไทยว่า เพื่อหวังเก็บหลักฐาน และภาพไปฟ้องนานาชาติ เพื่อยืนยันว่า ฝ่ายไทยรังแกกัมพูชา แม้ภาพไม่สามารถ บ่งชี้ได้ใครยิงก่อนยิงหลัง แต่จะมีดาวเทียมจับ ความร้อนได้ว่าเกิดขึ้นที่ประเทศไหนมากกว่า ในลักษณะของการปล่อยอาวุธออกมา จะบอกได้ว่าประเทศไหนยิงก่อน หรือ ยิงมากกว่า

โดยกัมพูชาจะไปร้อง นานาชาติ ว่าให้ใช้ดาวเทียมตรวจจับ พิสูจน์ว่า ประเทศไหนยิงก่อน ยิงมากกว่ากัน ด้วยการสร้างสถานการณ์เพื่อให้ไทยตอบโต้กลับ ซึ่งการใช้อาวุธปืนเล็กไม่สามารถจับความร้อนได้ ต้องเป็น ปืน ค ปืนใหญ่ ถึงจะจับความร้อนได้ กัมพูชาจึงใช้อาวุธเล็กยิงเพื่อให้เราใช้อาวุธหนักยิงโต้กลับไป

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยก็ต้องเตรียมหลักฐานก็คือภาพที่ทหารไทยถูกยิง ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 7 ธ.คนำไปหักล้างว่าฝ่ายเราถูกกระทํา โดยกัมพูชา มีแผนประทุษร้ายยิงเราก่อน ไม่ใช่ความบังเอิญที่ว่าฝ่ายไทยยิงก่อน แต่เรามีหลักฐานและในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT เดินทางมาพบทหาร 2 คนถูกยิง

ทั้งนี้ แหล่งข่าว ทภ.2 ชี้ว่า ปัจจัยหนึ่งเพราะกัมพูชาเพลี่ยงพล้ำด้านการทูต กรณีการประชุมรัฐภาคีออตตาวา ทำให้กัมพูชามาเล่นวิธีแบบนี้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทภ.2 เผย แฉเล่ห์เขมร! จัดฉากยิงไทย หวังให้ใช้อาวุธหนักตอบโต้ เพื่อร้องนานาชาติ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...