โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ส.อ.ท.-หอการค้าประสานเสียง ขอรัฐบาลใหม่อำนาจเต็ม

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พจน์ อร่ามวัฒนานนท์-เกรียงไกร เธียรนุกูล

หอการค้าฯ-ส.อ.ท.ประสานเสียงรัฐบาลใหม่ในฝัน ขอแบบเสียงข้างมาก บริหารอำนาจเต็ม มี รมว.คนนอกร่วมทีม เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสการค้า การส่งออก รื้อทิ้ง กม.ล้าสมัย ด้านพลังงานวอนรัฐทำแผน PDP เสร็จให้ทันปี 2026 ชี้ล่าช้าเสียเวลามา 7 ปีแล้ว หวั่นเอกชนปรับตัวรับพลังงานสีเขียวไม่ทันการณ์

หอการค้าฯขอรัฐบาลเสียงข้างมาก

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการเห็นภาพของรัฐบาลชุดใหม่ในปี 2569 ภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งแล้ว คือรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม มีเสถียรภาพในกรอบของการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่มีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลและนโยบายสำคัญ โดยเฉพาะในการผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยเดินหน้าและเติบโตไปได้ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทยและต่างชาติ รวมไปถึงการเจรจากรอบการค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสการค้า การส่งออกให้กับประเทศไทย

“ความชัดเจนเรื่องของการยุบสภาเป็นสิ่งที่เอกชนให้ความสนใจอย่างมาก ว่าจะมีการดำเนินการเมื่อไหร่ และให้กรอบการจัดการเลือกตั้งที่ชัดเจน และต้องการให้ได้รัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก เพราะการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยย่อมมีความสุ่มเสี่ยงในการทำงาน”

ทั้งนี้ เมื่อได้รัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าและสร้างความชัดเจน คือเรื่องของการเจรจาภาษีสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันการเดินหน้ามีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี ก็ต้องการให้เกิดข้อสรุปด้านต่าง ๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อียู เพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขัน เพราะปัจจุบันเราสูญเสียตลาดส่งออกยุโรปไปมาก

หากเป็นไปได้ก็ต้องการให้มีการเร่งเจรจาให้เกิดเป็นข้อตกลงโดยเร็ว และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย-ญี่ปุ่น หรือ เจเทปป้า (JTEPA) ก็อยากให้มีการทบทวนข้อตกลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตลาดญี่ปุ่นเองก็เป็นตลาดสำคัญของไทย อีกทั้งการสร้างสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน ประกอบกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น

ขณะที่ปัญหาการค้าชายแดนแม้จะเสียหายเยอะ โดยเฉพาะไทย-กัมพูชา แต่เอกชนก็ยังให้ความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ต้องเร่งสร้างโอกาสการค้า การส่งออกให้กลับมา ส่วนภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2569 ก็ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กกร.ที่ประเมินไว้ จีดีพีไทยโต 1.6-2% ส่งออกลดลง 1.5-0.5%

อยากให้มี รมว.คนนอก

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เอกชนคาดหวังว่าจะเห็นรัฐบาลใหม่ที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการบริหารจัดการ แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหนักทุกครั้ง นอกจากนี้ อยากเห็นรัฐบาลที่มีรัฐมนตรีคนนอกร่วมอยู่ด้วยอีกครั้ง อยากให้สร้างบรรยากาศการลงทุนด้วยการปรับปรุง แก้ไข และตัดกฎหมายที่ล้าสมัย ที่เป็นอุปสรรคการลงทุน เช่น กรณีการอนุมัติ อนุญาตประกอบธุรกิจ Ease of Doing Business

เร่งแผน PDP ให้เสร็จปีหน้า

นายอาทิตย์ เวชกิจ นายกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (RE 100) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ ภาคพลังงานมีความคาดหวังอย่างยิ่งให้แผนพลังงานชาติ (National Energy Plan : NEP) ซึ่งประกอบด้วย 5 แผนย่อย ได้แก่ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) แผนก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) และแผนน้ำมัน (Oil Plan) จัดทำแล้วเสร็จและประกาศใช้อย่างเป็นทางการโดยเร็ว

โดยเฉพาะ PDP ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบไฟฟ้าประเทศ จำเป็นต้องเดินหน้าควบคู่กันไป เนื่องจากประเทศไทยไม่มีแผนพลังงานฉบับใหม่มานานกว่า 7 ปี ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งรัดจัดทำอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบระยะเวลาที่ค่อนข้างเร่งด่วน ทั้งนี้ คาดว่าแผน PDP ฉบับใหม่จะแล้วเสร็จภายในปลายเดือนมกราคม 2569 จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป

อย่างไรก็ดี ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองก่อนที่แผนพลังงานชาติฉบับสมบูรณ์จะประกาศใช้ รัฐบาลรักษาการและรัฐบาลชุดใหม่ควรสานต่อกระบวนการจัดทำแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดการชะลอหรือสะดุด แม้แผนพลังงานชาติจะไม่ต้องใช้งบประมาณจากภาครัฐ แต่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และความเร่งด่วนสูงมากต่อทิศทางพลังงานของประเทศ

นอกจากนี้ รัฐบาลควรเร่งผลักดันการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสีเขียว (Green Energy) ให้มากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบข้อตกลงตามเวทีการประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (COP30) ที่ผ่านมา รวมถึงเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ควบคู่กับการรักษาระดับราคาที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด

“ความกรีน ความมั่นคง และราคาที่เหมาะสม ตอนนี้เราชั่งน้ำหนักแล้วว่ามันพอ ๆ กัน เทคโนโลยีในวันนี้เราสามารถทำทั้งความมั่นคง แต่ราคาไม่แพง ควบคู่กันได้” นายอาทิตย์กล่าว

ห่วงพลังงานสีเขียวล่าช้า

แหล่งข่าววงการพลังงานเปิดเผยว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ ภาคพลังงานยังไม่เห็นทิศทางความคาดหวังที่ชัดเจน เนื่องจากแผนพลังงานระดับชาติ ซึ่งเป็นกรอบสำคัญต่อการกำหนดทิศทางพลังงานไทยในอนาคตยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แม้จะมีการเริ่มต้นจัดทำมาตั้งแต่ปี 2024 แต่จนจะก้าวเข้าสู่ปี 2026 ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าที่นำไปสู่ประกาศใช้จริง

ขณะนี้แผนพลังงานชาติ (NEP) ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยความคืบหน้าล่าสุดคือ การตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ โดยมีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธาน ซึ่งกลไกการจัดตั้งบอร์ดชุดนี้จะไม่ล้มเลิก แม้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงหวังว่าหากมีการยุบสภาและมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศยังสามารถเดินหน้าจัดทำแผน PDP ได้ต่อเนื่องไม่สะดุด

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ประกาศเร่งเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) เร็วขึ้นอีก 15 ปี จากเดิมปี 2065 เหลือปี 2050 ทำให้ทุกกระบวนการด้านพลังงานจำเป็นต้องเร่งรัดและ “Fast Track” มากขึ้น ทั้งการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน (RE Plan) การเปิดเสรีไฟฟ้าผ่านระบบ Third Party Access และการเดินหน้า Direct PPA เพื่อให้ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดสามารถขายไฟโดยตรงให้ผู้ใช้ไฟรายใหญ่ได้โดยเร็ว หากไทยไม่เร่งดำเนินการก็จะกระทบภาพรวมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในระยะยาว

“กลุ่มพลังงานเดิมกำลังมุ่งเข้าสู่พลังงานสีเขียวมากขึ้น แต่ก็ยังคงต้องรักษาพลังงานพื้นฐานเอาไว้ เพราะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่าง ท่าเรือ ท่อส่งแก๊ส เรือบรรทุก โรงไฟฟ้าเก่า ๆ ไว้แล้ว กลุ่มเหล่านี้ก็ยังต้องการคืนทุน ดังนั้น เราต้องดูนโยบายบริหารจัดการในระยะยาวด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส.อ.ท.-หอการค้าประสานเสียง ขอรัฐบาลใหม่อำนาจเต็ม

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...