โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ทบ. พบ UAV กัมพูชาล้ำชายแดน 250 ลำ ทบทวนปล่อย 18 เชลย

ไทยโพสต์

อัพเดต 29 ธันวาคม 2568 เวลา 23.30 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทบ. ระบุตรวจพบอากาศยานไร้คนขับจากกัมพูชาล้ำอธิปไตยไทยกว่า 250 ลำ เข้าข่ายละเมิดมาตราการลดระดับตามข้อตกลง GBC ทบทวนปล่อย 18 เชลยศึก

29 ธันวาคม 2568 - พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 ธันวาคม 2568 ว่า ได้มีการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) บินจากฝั่งกัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของประเทศไทยเป็นจำนวนมากกว่า 250 ลำ โดยพบการเคลื่อนไหวอย่างหนาแน่นในพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า เขาสัตตะโสม ซำแต โดนตวล ช่องกร่าง ปราสาทตาเมือนธม และช่องสายตะกู

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการยั่วยุและละเมิดมาตรการลดระดับความตึงเครียด อันเป็นการไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) จากผลการประชุม GBC เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้

โฆษกกองทัพบกย้ำว่า พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการกระทำในลักษณะยั่วยุ และมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพล รวมถึงประชาชนในพื้นที่แนวชายแดน

กองทัพบกอาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนการดำเนินการเกี่ยวกับการปล่อยตัวกำลังพลฝ่ายกัมพูชาจำนวน 18 นาย ตามสถานการณ์และพฤติกรรมที่เกิดขึ้น

กองทัพบกขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางสันติ และให้ความสำคัญกับการลดความตึงเครียดผ่านกลไกที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม หากยังพบมีการละเมิดข้อตกลงและอธิปไตยของประเทศอย่างต่อเนื่อง กองทัพบกมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามหน้าที่ เพื่อปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...