“สกพอ.” วางเดิมพันยุทธศาสตร์ “อีอีซี” ปักธง 5 ปี ผลิตแรงงานทักษะฝีมือสูงป้อนนักลงทุน
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะผลักดันให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่เน้นเรื่องความทันสมัย ใช้เทคโนโลยียุคใหม่ ที่เป็นมิตรกับแวดล้อม นอกจากการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ เรื่องที่ดิน ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจัยสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ บุคลากร โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะฝีมือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เพราะในโลกที่เทคโนโลยีอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง การพัฒนาคนให้พร้อมทำงานจริง ไม่ใช่เพียงนโยบายเชิงการศึกษาอีกต่อไป แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ที่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของไทยในทศวรรษหน้า และอีอีซี คือพื้นที่ที่กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าการสร้างคนให้ตรงความต้องการของภาคอุตสาหกรรม สามารถดึงการลงทุน สร้างงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนได้จริง
.5 ปี ผลิตแรงงาน 1.5 แสนคน
นายจุฬา กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลสัมฤทธิ์จากการพัฒนาทักษะบุคลากร รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หลังจากที่ได้ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และโรงเรียนเมืองพัทยา 11 (มัธยมสาธิตพัทยา) เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการสร้างระบบนิเวศการลงทุน ด้านการยกระดับทักษะบุคลากรและการศึกษา (EEC Model) ในพื้นที่ ตามหลักการ Demand Driven Human Resource Development หรือเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพของแรงงาน ให้สามารถทำงานได้กับเทคโนโลยีสมัยใหม่
ที่สำคัญ โครงการดังกล่าว จะเน้นสร้างบุคลากรตรงกับความต้องการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ช่วยสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในพื้นที่มากขึ้น สามารถเชื่อมโยงการลงทุนไปสู่การพัฒนาพื้นที่และชุมชนอย่างยั่งยืน โดยตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน โมเดลนี้ได้ผลิตบุคลากรไปแล้ว 118,691 คน และตั้งเป้าว่าในปีนี้ จะผลิตเพิ่มอีก 24,000 คน เพื่อรองรับความต้องการบุคลากรใน 5 คลัสเตอร์หลัก ที่มีความต้องการใช้แรงงานรวม 156,000 คน ในระหว่างปี 2568–2572 แบ่งเป็น อาทิ อุตสาหกรรมดิจิทัล รวม 66,600 คน อุตสาหกรรมบริการ 50,600 คน อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต รวม 20,403 คน อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ รวม 10,857 คน
สร้างแรงดึงดูดการลงทุนด้านการบิน
ทั้งนี้ ในส่วนของวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ สถาบันอาชีวศึกษาไทย 1 ใน 5 แห่ง ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ให้เป็นสถาบันฝึกอบรม นายช่างภาคพื้นดิน ได้ร่วมกับ สกพอ. พัฒนาศูนย์เครือข่ายการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมอากาศยาน ภายใต้แนวทาง EEC Model Type A ที่เอกชนสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนทั้งหมด และรับนักศึกษาเข้าฝึกงานในสถานประกอบการ ที่เน้นสร้างบุคลากรสายเทคนิคในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมอากาศยาน โลจิสติกส์ ธุรกิจการบิน เป็นการเตรียมความพร้อมในการเป็นช่างเทคนิคและช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่มีทักษะสูง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบิน และการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่กำลังเติบโตในพื้นที่อู่ตะเภาและอีอีซี
“การที่เอกชนลงทุน 100% เพื่อสร้างบุคลากรของตนเอง สะท้อนชัดว่าคนคือปัจจัยชี้ชะตาความสำเร็จของธุรกิจ และคือแม่เหล็กสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเลือกพื้นที่อีอีซี และที่ผ่านมาวิทยาลัยแห่งนี้ สามารถผลิตบุคลากรด้านการบิน สาขาช่างอากาศยานได้ 28 คนต่อปี สาขาธุรกิจการบิน 20 คนต่อปี สาขาผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน 20 คนต่อปี รวมผลิตบุคลากรจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในสาขาอากาศยาน 143 คน”
ตัวอย่างสำคัญของการพัฒนาคนในมิติใหม่คือ Content Lab ของโรงเรียนเมืองพัทยา 11 ที่กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สกพอ. สนับสนุนงบสำหรับจัดซื้ออุปกรณ์ เพื่อใช้ในการผลิตคอนเทนต์ดิจิทัล รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากเมืองพัทยา ร่วมสมทบงบประมาณ เพื่อให้เยาวชนได้ใช้ห้องปฏิบัติการและสตูดิโอในการเรียนรู้และผลิตผลงานดิจิทัลคอนเทนต์อย่างมืออาชีพ ทั้งการเขียนบท การกำกับ การถ่ายภาพ การตัดต่อ ผลงานของนักเรียน ถูกนำไปเผยแพร่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่อีอีซี โดยหลักสูตรภาพยนตร์ ที่นี่เป็นแบบ Active Learning ที่เน้นการเขียนบท ถ่ายทำ กำกับ และตัดต่อ ทำให้นักเรียนค้นพบพรสวรรค์ของตนเอง
ในส่วนของศูนย์ Tourism Innovation Lab (TIL) ที่มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาแรงงานด้านท่องเที่ยว กลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีเป้าหมายยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน ผ่านการบ่มเพาะบุคลากร และสร้างนวัตกรรมการบริการ ที่มีจุดเด่นของศูนย์คือมีห้องปฏิบัติการ 19 ห้องครอบคลุม 6 กลุ่มอาชีพท่องเที่ยว อาทิ ห้องฝึกทดลองปฏิบัติด้านการโรงแรม ห้องปฏิบัติการสายการบิน หรือ Airline Services ห้อง Streaming Live สด ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกใช้ทักษะในสถานการณ์เสมือนจริง
ผลิตแรงงานตามความต้องการตลาด
หัวใจของการพัฒนาคนในอีอีซี คือ EEC Model หรือระบบผลิตกำลังคน ที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของอุตสาหกรรมจริง (Demand–Driven Education) ที่เปลี่ยนจากการสอนแบบเดิม มาเป็นการร่วมกันออกแบบ ระหว่างสถานศึกษา ภาครัฐ และผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะตรงกับงานที่รออยู่ในตลาดแรงงาน ช่วยลดช่องว่างทักษะ (Skill Gap) ที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ทำให้ทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การบิน หุ่นยนต์ ดิจิทัล รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการท่องเที่ยวคุณภาพสูง สามารถวางแผนกำลังคนได้ล่วงหน้าและมั่นใจว่ามีบุคลากรพร้อมรองรับการขยายกิจการในอนาคต
ปัจจุบัน EEC Model แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ Type A ที่ผู้ประกอบการสนับสนุนค่าใช้จ่าย 100% ร่วมออกแบบหลักสูตรกับสถานศึกษา และรับนักศึกษาที่จบเข้าเป็นพนักงานทันที ทำให้ผู้เรียนเรียนฟรี–มีงานทำ–รายได้สูง ขณะที่ Type B คือหลักสูตรระยะสั้นเพื่อ Reskill–Upskill แรงงานในระบบให้ทันเทคโนโลยีใหม่ โดยรัฐและเอกชนร่วมลงทุน 50:50 ส่วน Type C เป็นการพัฒนาทักษะเฉพาะทางแบบเร่งด่วนสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ที่ต้องการแรงงานจำนวนมากทันที
“ภาพรวมทั้งหมดนี้คือชิ้นส่วนสำคัญของภาพใหญ่ ที่กำลังทำให้อีอีซีกลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของภูมิภาค อีอีซีจึงไม่ใช่แค่พื้นที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่คือพื้นที่ที่สร้างอนาคตของคนไทยอย่างเป็นระบบ จับต้องได้ สะท้อนแนวคิดสำคัญของ สกพอ. คือการพัฒนาคน การพัฒนาธุรกิจ การพัฒนาพื้นที่และชุมชน ที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”
กรอกข้อความใหม่
StepTimeTokenizing0.0000 sChecker Time47.0000 sTotal Time47.0000 s
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “สกพอ.” วางเดิมพันยุทธศาสตร์ “อีอีซี” ปักธง 5 ปี ผลิตแรงงานทักษะฝีมือสูงป้อนนักลงทุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “สกพอ.” วางเดิมพันยุทธศาสตร์ “อีอีซี” ปักธง 5 ปี ผลิตแรงงานทักษะฝีมือสูงป้อนนักลงทุน
- สกพอ. ชวนประกวดวาดภาพ "EECO Cartoon Character Design Contest"
- อีอีซีไม่รู้ไม่เห็น UTA อยากยกเลิกเมืองการบิน
- ผุด 5 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath