โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

10 หนังสือ Non-Fiction ที่หยิบ ‘เรื่องจริง’ มาปรุงใหม่เป็น ‘สารคดี’ อ่านสนุกและได้ความรู้

becommon.co

อัพเดต 11 พ.ค. 2564 เวลา 01.19 น. • เผยแพร่ 27 เม.ย. 2564 เวลา 13.00 น. • common: Knowledge, Attitude, make it Simple

การอ่านทำให้พื้นที่ของความรู้และความคิดขยับจากคับแคบเป็นขยายกว้าง จากตื้นเขินเป็นลุ่มลึก

โดยเฉพาะในโลกใบใหญ่ของ Non-Fiction หรือหนังสือสารคดีที่บอกเล่าความจริงไว้หลายแง่มุม ทุกครั้งที่เปิดหนังสืออ่าน จึงเท่ากับการออกสำรวจไปในเขตแดนใหม่ๆ ที่ไม่เคยท่องมาก่อน หรือต่อให้ท่องมาแล้วย่อมไม่ใช่เส้นทางเดิมที่เคยก้าวเดิน

เพื่ออุ่นเครื่องการอ่านก่อนถึงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 49 becommon ตั้งใจคัดสรรหนังสือ Non-Fiction 10 เล่มจาก 10 สำนักพิมพ์ที่น่าสนใจ เพราะแต่ละเล่มนำเสนอเรื่องจริงไว้อย่างสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่ของความรู้คู่ความสุข รอต้อนรับทุกคนมาเปิดโลกทางความคิดและความเข้าใจ

1เมื่อโลกไม่มีเรา(The World Without Us) 

การเปลี่ยนแปลงคือคุณลักษณ์ของธรรมชาติไม่มีอะไรคงอยู่เหมือนเดิมตลอดไป

หน้าตาของโลกทั้งใบจะเป็นอย่างไร หากเราทุกคนหายไปตลอดกาล

จากคำถามชวนคิด สู่การค้นหาสารพัดคำตอบที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน โดยอาศัยมุมมองและองค์ความรู้วิทยาศาสตร์เข้ามาอธิบายการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับธรรมชาติและสรรพสิ่งบนโลกในวันที่ทุกอย่างเป็นอิสรภาพจากการควบคุมและครอบครองของมนุษย์

ภายใน 2 วัน ทางรถไฟใต้ดินในมหานครนิวยอร์คจะจมน้ำ ภายใน 1 สัปดาห์ เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะระเบิด ภายใน 3 ปี แมลงสาบจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศที่มีอากาศหนาว ภายใน 10 ปี บ้านจะเริ่มผุ ภายใน 100 ปี แมวจะกลายเป็นนักล่า ภายใน 300 ปี สะพานและเขื่อนจะทรุดพัง ภายใน 500 ปี เมืองใหญ่จะกลายเป็นป่ารก ยิ่งผ่านไปนาน โลกยิ่งเปลี่ยน

เมื่อโลกไม่มีเรา จึงเป็นสารคดีในรูปแบบหนังสือที่ตั้งใจฉายภาพความต่างให้ผู้อ่านเห็นโลกในแบบที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน เพื่อกระตุ้นทุกคนตระหนักถึงการกระทำของตัวเอง เพราะทุกสิ่งที่มนุษย์สร้าง ย่อมทิ้งร่องรอยและส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้เสมอ

ผู้เขียนแอลัน ไวส์แมน (Alan Weisman)
ผู้แปลสรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์
สำนักพิมพ์Salt Publishing
จำนวนหน้า448 หน้า
ราคา440 บาท (ปกอ่อน)

2

จากดับสูญสู่นิรันดร์ส่องวิถีหลังความตายจากหลากหลายวัฒนธรรม(From Here to Eternity: Travelling the World to Find the Good Death)

ทำไมวัฒนธรรมของฉันเองถึงขยะแขยงความตายนัก
ทำไมเราถึงปฏิเสธที่จะสนทนากันเรื่องนี้
เราไม่ถามครอบครัวและเพื่อนๆ ว่าพวกเขาอยากให้จัดการศพอย่างไรตอนตาย

ความตายคือฉากสุดท้ายของชีวิต แต่คนจำนวนมากกลับทำไขสือไม่อยากพูดถึง

ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป ทั้งคนที่ตายไปแล้วและคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อจัดการร่างไร้ลมหายใจให้ไปสู่สุคติ ผู้เขียนซึ่งประกอบอาชีพสัปเหร่อหญิง จึงเปิดช่อง Ask A Mortician ในยูทูบ เพื่อรณรงค์ให้คนเปิดใจกว้างรับรู้ความตายอย่างที่ควรจะเป็น นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้น

จากดับสูญสู่นิรันดร์ ชวนผู้อ่านไปสำรวจโลกแห่งความตายในวัฒนธรรมและความเชื่อที่หลากหลาย เช่น หัวกะโหลกศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวโบลิเวียนับถือและขอพร อาคารเก็บอัฐิกลางกรุงโตเกียวที่ทำให้ความตายไฮเทคขึ้นถนัดตา และชุมชนอินโดนีเซียที่ใช้ชีวิตร่วมกับร่างผู้ล่วงลับนานนับปี

นี่คือการออกเดินทางที่ไม่เหมือนครั้งไหน เพราะคือเส้นทางเปี่ยมความเป็นมนุษย์ ทั้งให้เกียรติผู้ล่วงลับ และเยียวยาใจให้ผู้สูญเสีย ส่วนจุดหมายนั้นไม่ใช่ร่างกายที่ดับสูญ หากแต่เป็นความเข้าใจหลังได้พินิจความตายในแง่มุมใหม่

ผู้เขียน: เคทลิน โดดี้ (Caitlin Doughty)ผู้แปล: กัญญ์ชลา นาวานุเคราะห์สำนักพิมพ์: Bookacapeจำนวนหน้า240 หน้าราคาปก: 285 บาท (ปกอ่อน)

3ความจริงไม่ใช่อย่างที่เห็น(Reality is not What It Seems)

เรากำลังนับเม็ดของอวกาศที่ประกอบเป็นเอกภพ แต่ก็มีขนาดจำกัด
ที่เป็นอนันต์อย่างจริงแท้แน่หนอ คือความโง่งมงายของเรา

ยิ่งมนุษย์มีความรู้มากขึ้นเท่าไหร่ กลับยิ่งรู้ว่า รู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองน้อยลงเท่านั้น

และองค์ความรู้เดียวที่ถอนรากถอนโคนความจริงได้ถึงแก่นที่สุด คือฟิสิกส์ควอนตัม หรือเม็ดเล็กจิ๋วที่หายวับได้ ไม่อาจทำนาย ในเวลาเดียวกันบางครั้งอยู่ได้สองสถานที่ บางครั้งก็ไม่อยู่ที่ไหนเลย เป็นองค์ประกอบของทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์รู้จัก รวมถึงตัวมนุษย์เอง เป็นความจริงที่สุดเท่าที่ปัญญาของมนุษย์จะเข้าใจได้ในตอนนี้ และจะมีอยู่จริงก็ต่อเมื่อมีความสัมพันธ์กับสิ่งอื่นเท่านั้น

มนุษย์มักจะคิดว่าตัวเองอธิบายทุกอย่างได้หมดแล้ว จนกระทั่งมีเม็ดเล็กจิ๋วโผล่เข้ามาในความรู้ของมนุษย์ ความจริงของโลกย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ความจริงไม่ใช่อย่างที่เห็น จะตีแผ่เม็ดเล็กจิ๋วเหล่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่ความสงสัยแรกของมนุษย์สมัยโบราณ การตั้งคำถามถึงสรรพสิ่งบนท้องฟ้า สู่จุดกำเนิดสมการที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดแห่งศตวรรษ แล้วความอัศจรรย์มากมายในเอกภพที่ปรากฏในเล่มจะกลายมาเป็นความเข้าใจของทุกคน

ผู้เขียนคาร์โล โรเวลลี (Carlo Rovelli)ผู้แปลปิยบุตร บุรีคำสำนักพิมพ์Sophia Publishingจำนวนหน้า: 236 หน้าราคาปก: 265 บาท (ปกอ่อน)

4หลุดกรอบบุคลิกภาพ(Personality Isn’t Permanent)

เหล็กจะอยู่ในรูปร่างไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ ถ้าคุณมีทักษะมากพอและจะอยู่ในรูปร่างไหนก็ได้แต่ไม่ใช่แบบที่คุณต้องการ หากคุณมีทักษะไม่มากพอ 

บุคลิกภาพไม่ใช่สิ่งคงทนที่เป็นเหมือนเดิมตั้งแต่เกิดจนตาย

หากเคยทำแบบทดสอบบุคลิกภาพในช่วงเวลาหนึ่ง ต่อมาอาจเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิต แล้วกลับมาทำซ้ำอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป ผลลัพธ์ย่อมมีแนวโน้มว่าไม่เหมือนเดิม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกเพลิดเพลินกับการค้นหาลักษณะบุคลิกภาพของตนจากแบบทดสอบต่างๆ แล้วยึดผลลัพธ์ที่ได้เป็นสรณะ ทั้งๆ ที่บุคลิกภาพเป็นสิ่งลื่นไหล และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

การรู้จักตัวเองมากขึ้นจึงเป็นที่ถูกที่ควร ส่วนการหยุดตัวเองไว้กับคำตอบบุคลิกภาพ เช่น ใช้เป็นข้ออ้างว่า ‘ทำไม่ได้หรอก มันขัดกับบุคลิก’ หรือ ‘นี่ไม่ใช่ตัวฉันเลย’ อาจเป็นดาบสองคมที่ขัดขวางโอกาสพัฒนาทักษะอื่นๆ ซึ่งเป็นโยชน์ต่อชีวิตและการทำงาน เพราะบุคลิกภาพเกิดขึ้นทั้งจากประสบการณ์ที่สั่งสมไว้และการรู้จักปรับแต่งด้วยตัวเองผ่านการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

เรื่องควรรู้และแง่คิดเกี่ยวกับบุคลิกใน หลุดกรอบบุคลิกภาพ จะทำให้ผู้อ่านเปิดกว้างตัวเองไปสู่พื้นที่แห่งการแสดงออกตัวตนใหม่ ซึ่งอาจอยู่เหนือความคาดหมายของใครหลายคน

ผู้เขียนเบนจามิน ฮาร์ดี (Benjamin Hardy)ผู้แปลสาริศา กนกวรกิตต์สำนักพิมพ์Cactus Publishingจำนวนหน้า279 หน้าราคาปก270 บาท (ปกอ่อน)

5

ถ้อยแถลงเพื่อเรา 99%
(Feminism for the 99%)

ความหลากหลายคืออาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่เราต้องใช้เพื่อต่อสู้ในขบวนการ
หากมุ่งหวังจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้สำเร็จ

การปลดแอกของขบวนการสตรีนิยมหรือเฟมินิสต์ที่ชูธงอัตลักษณ์และการแสดงออกของผู้หญิง มักติดหล่มอยู่ตรงอภิสิทธิ์ของชนชั้น รวมถึงเป็นการต่อต้านที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เท่าเทียมกันตั้งแต่แรก 

ถ้อยแถลงเพื่อเรา 99% ต้องการบอกว่า ขบวนการเฟมินิสม์ต้องมีลักษณะต่อต้านทุนนิยม มุ่งเน้นแนวคิดเชิงสังคมนิยม และต่อต้านการเหยียดผิว ใจความหลักของ F99 (Feminism of the 99%) จึงเป็นการขับเคลื่อนขบวนการความเท่าเทียมทางเพศที่ดับเครื่องชนปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งกดทับบรรดาผู้หญิงและคนชายขอบส่วนมาก (99%) บนโลก (ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้หญิงเก่งที่ถือการแสดงออกบนอภิสิทธิ์บางอย่าง) 

หนังสือเล่มนี้คือสุ้มเสียงในรูปแบบถ้อยแถลงที่พูดถึงบรรดาแรงงาน ณ ฐานล่างของโครงสร้างทางสังคมอย่างตรงไปตรงมา และชวนให้ขบคิดถึงรากว่า เมื่อพูดถึงเฟมินิสม์ในปัจจุบัน เท่ากับกำลังพูดถึงขบวนการเพื่อใครอยู่บ้าง 

ทางสำนักพิมพ์ยังแผยแพร่เนื้อหาฉบับเต็มภายใต้ขอบเขตของข้อตกลงครีเอทีฟคอมมอนส์ สามารถเข้าอ่านได้ที่ ถ้อยแถลงเพื่อเรา 99% | Feminism for the 99% 

ผู้เขียนชินเซีย อารุซซา (Cinzia Arruzza), ติถี ภัฏฏาจารย์ (Tithi Bhattacharya), แนนซี่ เฟรเซอร์ (Nancy Fraser)ผู้แปลอรชร ดำรงจิตติ, พริม มณีโชติสำนักพิมพ์: ซอย | soiจำนวนหน้า96 หน้าราคาปก270 บาท (ปกอ่อน)

6

หลังบ้านคณะราษฎร : ความรัก ปฏิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง

บางครั้งผู้หญิงและการกระทำของผู้หญิงถูกมองไม่เห็น
ทั้งๆ ที่พวกเธออยู่แนวหน้าด้วยซ้ำ

ใครก็ตามที่คิดว่า พื้นที่การเมืองไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง หรือผู้หญิงไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง นอกจากเจ้าของความคิดจะตกเป็นทาสให้ระบอบปิตาธิปไตยแล้ว ยังบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ด้วยตาที่มืดบอดเพราะอคติเหยียดเพศด้วย

ในหน้าประวัติศาสตร์การปฏิวัติ พ.ศ. 2475 ตามการรับรู้ทั่วไป ตัวตนของคณะราษฎรได้รับการบันทึกและจดจำผ่านบทบาทผู้ชาย ทั้งในฐานะผู้ก่อการล้มสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่นั่นเป็นเพียงหน้าฉากเท่านั้น

เพราะการเคลื่อนไหวของคณะราษฎรที่เป็นทั้งผู้ชายและสามีจะไม่สำเร็จเลยหากไร้ผู้หญิงที่เป็นภรรยา ซึ่งถูกซ่อนบทบาทไว้เป็นเงาตามหลัง คอยให้คำปรึกษา สร้างเครือข่ายการเมือง ทำธุรกิจหารายได้เลี้ยงครอบครัว เจรจาต่อรอง รวมถึงช่วยเหลือสามีในยามต้องเผชิญภัยทางการเมือง

หลังบ้านคณะราษฎร เป็นหนังสือที่ต้องการยืนยันพื้นที่ให้ผู้หญิงประกาศตัวตนเพื่อพิสูจน์ว่า หลังบ้านที่คณะราษฎรอาศัยหลับนอนร่วมชายคากับภรรยานั้น สัมพันธ์กับการปฏิวัติ การสร้างชาติ และการสร้างประชาธิปไตย

ผู้เขียนชานันท์ ยอดหงษ์สำนักพิมพ์มติชนจำนวนหน้า384 หน้าราคาปก330 บาท (ปกอ่อน)

7

อย่ายอม
(Untamed)

ชีวิตนี้เป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว
ฉันจึงเลิกถามหาหนทางชีวิตจากคนอื่น เพราะพวกเขาไม่เคยมาที่นี่

คนดังอย่างแอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) และอะเดล (Adele) เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วทั้งคู่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่อยู่ใน อย่ายอม สร้างแรงสั่นสะเทือนในใจ ทำให้พวกเธอเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง

เพราะคนเรามักไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขัง จนกว่าจะใช้ใจมองไปรอบๆ จึงจะเห็นคุกและโซ่ตรวนแห่งความสมบูรณ์พร้อม คอยกักขังผู้คนให้เป็นทุกสิ่งที่ใฝ่ฝัน ยกเว้นอย่างเดียวคือเป็นตัวเอง

นี่คือเรื่องราวการแหกกรงขังของผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกเล่าความลื่นไหลทางเพศได้อย่างลึกซึ้งและกลมกล่อม ทำลายมายาคติทางเพศที่ล้าสมัย  และมอบความหมายใหม่ให้คำว่าครอบครัว เพื่อกลับคืนสู่ป่าบริสุทธิ์ของใจ ไร้กรอบ ไร้เพศ ไร้การตัดสิน

แม้จะเป็นเรื่องราวของผู้หญิง แต่คนอ่านทุกเพศย่อมได้ประโยชน์จากวิธีการสื่อสารกับตัวเอง รับฟังตัวเอง และปลดปล่อยตัวเอง โดยใช้สิ่งเดียวที่จำเป็นและสำคัญที่สุดคือ ความรู้สึก

ผู้เขียนเกลนน็อน ดอยล์ (Glennon Doyle)
ผู้แปลK.D.
สำนักพิมพ์Amarin HOW-TOจำนวนหน้า: 326 หน้า
ราคาปก345 บาท (ปกอ่อน)

8

Accidentally Wes Anderson

ดินแดนแห่งมนตร์ขลังซึ่งสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลับเป็นไปได้
วามชรากลับอ่อนวัย ขนาดเล็กกลายเป็นใหญ่
บนกลายเป็นล่าง ล่างกลายเป็นบน

จากภาพถ่ายในอินสตาแกรม @accidentallywesanderson ที่เริ่มต้นด้วยความคลั่งไคล้ของแฟนหนังช่างเที่ยว กลายเป็นจุดสนใจให้คนจำนวนมากกว่าล้าน ซึ่งชอบสิ่งเดียวกันมากดติดตาม สู่หนังสือเล่มพิเศษที่ไม่ใช่แค่การรวบรวมภาพถ่าย

เพราะเบื้องหลังภาพสุดประทับใจคือเรื่องราวของสถานที่และผู้คนที่มีอยู่ในโลกความเป็นจริง เสมือนหลุดมาจากโลกในภาพยนตร์ของเวส แอนเดอร์สัน ซึ่งเป็นสุนทรียะแบบเดียวกับที่ฉากและการออกแบบองค์ประกอบศิลป์ในภาพยนตร์ตั้งใจมอบให้เป็นอาหารตากับผู้ชม

แต่แตกต่างกันตรงที่ Accidentally Wes Anderson ทำหน้าที่เพิ่มเติมเป็นหนังสือนำเที่ยว พร้อมพาผู้อ่านเดินทางลัดเลาะไปทั่วทุกมุมโลก เพื่อชื่นชมสิ่งปลูกสร้างที่บังเอิญพบเจออย่างไม่ตั้งใจ แต่กลับทำให้คิดถึงภาพภาพยนตร์ของแอนเดอร์สันได้ทุกครั้งที่มอง ตั้งแต่แผงขายแพนเค้กในอุทยานแห่งชาติเคอร์คา โครเอเชีย ไปจนถึงความงามที่ชวนขนหัวลุกของแกรนด์ โอเปราเฮาส์ในรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา

ช่างเป็นความบังเอิญที่มีสไตล์โดดเด่นเสียจริง

ผู้เขียน: วอลลี โควัล (Wally Koval)
ผู้แปล: ปิยบุตร หล่อไกรเลิศ
สำนักพิมพ์broccoliจำนวนหน้า368 หน้า
ราคาปก800 บาท (ปกแข็ง)

9THE PEOPLEเรื่องเล่า ‘คน’ เปลี่ยนโลก

คนทุกคนต่างมีเรื่องเล่าเรื่องราวเป็นของตัวเองอาจจะสนุก เศร้า รันทด เป็นโศกนาฏกรรม หรือสุขนาฏกรรมสุดแท้แต่รอยทางที่แต่ละคนได้พบเจอ

ที่ชีวิตและโลกดีขึ้น ส่วนสำคัญเป็นเพราะว่าใครบางคนมุ่งมั่น เพียรพยายาม และอุทิศตนทำสิ่งเล็กๆ จนกลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ แล้วผลความสำเร็จก็ได้ผลิกฟื้นชีวิตของใครหลายคน และทำให้โลกใบนี้น่าอยู่กว่าเดิม

บทความคัดสรรทั้ง 20 เรื่องภายใน THE PEOPLE เรื่องเล่า ‘คน’ เปลี่ยนโลก จึงเป็นมากกว่าประวัติหรือการบอกเล่าจุดเปลี่ยนชีวิตของใครบางคน เพราะเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้คนตัวเล็กๆ ลงมือทำบางสิ่งบางอย่างซึ่งเปลี่ยนแปลงโลกได้เสมอ และเป็นอนุสรณ์ว่าทุกเรื่องราวของพวกเขาควรค่าแก่การบันทึกและจดจำ 

เช่น ‘วิลเลียม คัมแควมบา’ เด็กชายผู้สร้างกันหันลมจากขยะให้น้องสาวได้อ่านหนังสือตอนกลางคืน ‘โจเซฟีน ค็อกแรน’ ปาร์ตี้เกิร์ลผู้เบื่อหน่ายงานบ้าน สู่การประดิษฐ์เครื่องล้างจานเครื่องแรกของโลก ‘มารี โคลวิน’ ตำนานนักข่าวหญิงแกร่ง ผู้ฉายแสงแด่เหยื่อสงครามทั่วโลก ‘หวง หย่ง ฟู่’ ทหารผ่านศึก ผู้ใช้สีและพู่กันปกป้องหมู่บ้านที่กำลังจะถูกทำลาย

ทุกเรื่องเล่าโดยทีมนักเขียนจากเว็บไซต์ The People ผู้เชื่อว่าทุกคนบนโลกมีเรื่องราวที่น่าสนใจ 

ผู้เขียนทีมนักเขียน The Peopleสำนักพิมพ์Loupe Editionsจำนวนหน้า176 หน้า
ราคาปก: 215 บาท (ปกอ่อน)

10

เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก เล่ม 1
(Sapiens: A Graphic History: The Birth of Humankind Vol. 1)

ความจริงก็คือพวกมนุษย์ยุคแรกๆ ไม่มีอะไรพิเศษเลย ยังเป็นเหมือนสัตว์ทั่วๆ ไป
ที่ไม่ได้ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมากไปกว่าบาบูน หิ่งห้อย หรือแมงกะพรุน
ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าวันหนึ่งมนุษย์จะยึดครองและเปลี่ยนแปลงโลก

แสนปีที่แล้ว เคยมีมนุษย์ถึง 6 สายพันธุ์อาศัยอยู่รวมกับบนโลก แต่ทุกวันนี้กลับเหลือเพียงสายพันธุ์โฮโมเซเปียนส์ แล้วมนุษย์สายพันธุ์อื่นหายไปไหน

เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก นำเสนอภาพการ์ตูนประกอบเนื้อหาที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ ‘เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ’ โดยเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปยังจุดกำเนิดของวานรที่ไม่สลักสำคัญ และวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ เรื่อยมาจนเป็นมนุษย์

ผู้เขียนสวมบทบาทมัคคุเทศก์ เพื่อพาผู้อ่านย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นที่ดิบเถื่อน และเพื่อไม่ให้กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อชวนหลับ แต่ละบทตอนจึงถ่ายทอดเนื้อหาผ่านรูปแบบรายการเกมโชว์ ผลงานชิ้นเอกของศิลปะสมัยใหม่ หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์เหตุฆาตกรรมด้วยอารมณ์ขันและตลกอย่างร้ายกาจ

ทั้งหมดนี้หวังท้าทายมนุษย์ปัจจุบันให้ทบทวนความคิดใหม่ เชื่อมโยงพัฒนาการในอดีตเข้ากับปัญหาต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เป็นข้อคิดที่มนุษย์ต้องเรียนรู้จากเส้นทางอันยาวนานของตัวเอง

ผู้เขียนยูวัล โนอาห์ แฮรารี (Yuval Noah Harari)ผู้แปล: ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์สำนักพิมพ์ยิปซีจำนวนหน้า256 หน้าราคาปก395 บาท (ปกอ่อน) 

 

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 49 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 19

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ทำให้คณะผู้จัดตัดสินใจเลื่อนงานฯ ออกไปก่อน
ติดตามกำหนดการใหม่ได้ทาง Thai Book Fair

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก becommon.co

อินเดียมีดีมากกว่า Street Food ปักหมุด 3 คาเฟ่เก่าแก่แห่งมุมไบที่เปิดร้านมานานเกินร้อยปี

20 พ.ค. เวลา 08.45 น.

100% Doraemon & Friends Tour in Thailand

06 พ.ค. เวลา 14.38 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

วิ่งๆ ซอมบีกำลังจะมางับแล้ว เฮ้ย! พี่ฟังก่อน ผมแค่อยากบอกว่าผมเป็นใคร

a day magazine

“กอล์ฟ” กีฬาที่อยู่ในเหตุการณ์สำคัญแห่งพระชนมชีพ รัชกาลที่ 7

ศิลปวัฒนธรรม

เปิด 5 ปัจจัยเสี่ยง ที่ไม่ควรกินปลาทอดทุกวัน เพราะอะไรวันนี้มีคำตอบ

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

วธ.ประกาศรางวัล เพชรในเพลง- ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นปี68 ยกย่อง ‘จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ’ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย

MATICHON ONLINE

7 สิ่งสำคัญที่ทำให้ Upbit กลายเป็นแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก

Capital

'ไทย' คว้าอันดับ 3 ประเทศสนุกที่สุดในโลก ท็อป 10 หนึ่งเดียวในเอเชีย

กรุงเทพธุรกิจ

Whal & Dolph ปล่อยซิงเกิลล่าสุด จะร้องเพลงนี้ให้ใครฟัง (SONG FOR) บทเพลงจากฉันเป็นของขวัญให้เธอ

THE STANDARD

แม่เห็นยัง?!: ฝาขวดน้ำอย่าทิ้ง! บริจาคให้โครงการกรีนโรด (Green Road) เพื่อนำไปทำโต๊ะและเก้าอี้ให้นักเรียน

Mood of the Motherhood

ข่าวและบทความยอดนิยม

แนะนำ 10 เล่มน่าอ่าน หมวดวรรณกรรม นวนิยาย และเรื่องแต่ง ที่หนอนหนังสือไม่ควรพลาด

becommon.co

อ่านใหม่ก็ดี อ่านอีกทีก็ได้ คัดสรรหนังสือ 10 เล่มที่กลับมาพิมพ์ซ้ำให้ผู้อ่านหายคิดถึง

becommon.co

หมาในเมืองกับวิธีคลายหนาวในวันที่อากาศเย็น

becommon.co
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...