ไมตรี ชัยมงคลานนท์ นำ "มีดี8" ส่ง "ทองม้วน" 250 ล.ไปสหรัฐ
สัมภาษณ์
ขนมไทยหลากหลายชนิดขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้ชาวต่างประเทศที่ได้ลิ้มลองถึงกับติดใจ โดยเฉพาะ “ทองม้วน” ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้จากการ
ส่งออกกว่า 250 ล้านบาทต่อปี “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์ “ไมตรี ชัยมงคลานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีดี8 จำกัด ผู้ประกอบการร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรี ที่มีการทำธุรกิจร้านขายของฝากมานานกว่า 10 ปี และยังขยายธุรกิจส่งออกไปหลายประเทศ ทั้งสหรัฐ ออสเตรเลีย แคนาดา เป็นต้น
ตั้งโรงงานผลิตมาตรฐาน BRC
“ไมตรี” กล่าวว่า ธุรกิจของเราเติบโตจากการทำร้านขายของฝาก ภายใต้ชื่อ “ร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรี” ถือว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงโด่งดังมากว่า 10 ปี ยอดขายเติบโตเรื่อยมาจนมาตั้งโรงงาน 2 แห่งผลิตสินค้าขายเอง คือ บริษัท มีดี8 จำกัด และบริษัท มีเดียฟู้ด จำกัด ปัจจุบันทางร้านมีสินค้าที่ผลิตขายเองกว่า 10 รายการ เช่น ทองม้วนกรอบ มะขามแก้ว เบเกอรี่ ขนมเค้กฝอยทอง ขนมเปี๊ยะ มะขามกวนกระทิสด มะขามรสเปรี้ยวเยลลี่ มะขาม (รสบ๊วย) บ๊วยมะขาม ฯลฯ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยกว่า 7-8 ล้านต่อเดือน
โดยสินค้าที่ขายดีที่สุด คือ “ทองม้วนกรอบ” มีอยู่ถึง 6 รสชาติ ได้แก่ รสกระเทียมพริกไทยดำ, รสทุเรียน, รสเผือก, รสข้าวโพดย่าง, รสใบเตย และรสมะพร้าว นอกจากนี้ มีขนมชั้น เค้กฝอยทอง ทองม้วนสด ขนมหม้อแกง เป็นต้น
สำหรับการผลิตทองม้วน ทางบริษัทผลิตภายใต้โรงงาน “บริษัท มีดี8 จำกัด” เพื่อผลิตทองม้วนกรอบโดยเฉพาะ เป็นการผลิตภายใต้มาตรฐาน BRC ถือเป็นมาตรฐานสากลทางด้านอาหารของยุโรปที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก
“ทองม้วนกรอบ” ถือเป็นสินค้าหลักที่ทางบริษัทมีการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา ส่งออกกว่า 90% รองลงมา คือ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน และอาเซียน โดยมีรายได้จากการ ส่งออกประมาณ 250 ล้านต่อปี ทั้งนี้ การส่งออกทองม้วนกรอบ บริษัทจะทำในลักษณะเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ให้กับบริษัทต่างประเทศที่ได้มีการสั่งออรฺเดอร์เข้ามา ไม่ได้ทำแบรนด์ของตัวเอง มีกำลังการผลิตประมาณ 5 ตันต่อวัน จะมีการส่งออกวันละ 1 ตู้คอนเทนเนอร์
สำหรับรสชาติที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ คือ รสมะพร้าว (หวานดั้งเดิม) เพราะมีรสชาติที่ดี เนื้อของตัวทองม้วนมีคุณภาพกลิ่นหอม ซึ่งได้รับคำชมจากบริษัทต่างชาติเป็นจำนวนมาก
รุก “ทองม้วนออร์แกนิก” ไปสหรัฐ
เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น ทางบริษัทเตรียมวางแผนการผลิตสินค้าตัวใหม่ คือ “ทองม้วนออร์แกนิก”โดยจะเปิดตัวและวางจำหน่ายบนห้างคอสต์โก้ สหรัฐเป็นแห่งแรกในช่วงปลายปี 2562 เนื่องจากว่าประชากรส่วนใหญ่ของสหรัฐ เริ่มหันมาสนใจการบริโภคขนมหรืออาหารที่เป็นออร์แกนิก ซึ่งทางบริษัทเชื่อว่าจะได้ผลตอบรับที่ดี โดยปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 จะเริ่มการผลิต
“สำหรับยอดขายทองม้วนออร์แกนิก ซึ่งเป็นสินค้าตัวใหม่ เราไม่ได้ตั้งเป้าไว้ เพราะไม่อยากจะคาดหวังมากเกินไป แต่คาดว่าจะทำให้มีการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ต้องขอดูจากผลตอบรับหลังจากที่มีการเปิดตัวก่อน”
ในการผลิตทองม้วน บริษัทต้องใช้มะพร้าว 3-4 ตันต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทรับซื้อมะพร้าวจากล้งในจังหวัดนครปฐม เป็นพ่อค้าคนกลางที่รวบรวมวัตถุดิบจากเกษตรกรมาจากหลายจังหวัด ซึ่งมีปัญหาในการจัดหาวัตถุดิบพอสมควร ปัจจุบันมะพร้าวมีราคาที่สูงขึ้น และไม่คงที่ เพราะว่ารัฐบาลห้ามนำเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อบริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์ส่งออก ในเรื่องของต้นทุนการผลิตเป็นอย่างมาก
ลุยแตกไลน์-ขยายสาขา
นอกจากการผลิตทองม้วนกรอบแล้ว โรงงานอีกแห่งภายใต้บริษัท มีเดียฟู้ด จำกัด เป็นผู้ผลิตน้ำมะขามบรรจุขวดเจ้าแรกของประเทศไทย และทำการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมะขามรูปแบบต่าง ๆ เช่น มะขามแก้ว มะขามกวนกระทิสด มะขามรสเปรี้ยวจัด เยลลี่ มะขาม(รสบ๊วย) บ๊วยมะขาม ฯลฯ รวมถึงผลิตเบเกอรี่ เช่น ขนมเค้กฝอยทอง ขนมเปี๊ยะ
โดยบริษัท มีเดียฟู้ด จำกัด ตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตสินค้าสำหรับขายตลาดภายในประเทศ และส่งขายให้กับลูกค้ารายย่อย โดยมีรายได้ 10 กว่าล้านต่อปี สำหรับวัตถุดิบในการผลิตน้ำมะขาม ทางบริษัทได้มีการรับซื้อจากเกษตรกร ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นมะขามเปรี้ยวพันธุ์ที่ดีที่่สุด
ปัจจุบันร้านแก้วฝากเมืองกาญจนบุรี ถือว่ากำลังบูม เนื่องจากทางบริษัทได้มีการพัฒนาเรื่องของผลิตภัณฑ์สินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อการดึงดูดลูกค้า จึงได้มีการจัดสถานที่เป็นจุดถ่ายภาพเช็กอิน ถือเป็นการโปรโมตร้านอีกหนึ่งรูปแบบ ทั้งนี้ยังมีสินค้าตัวเด่นขนาดลูกค้าต้องต่อคิวรอซื้อ โดยเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์ คือ ขนมชั้น และทองม้วนกรอบ ปัจจุบันร้านแก้วของฝากฯ มีเพียง 1 สาขา คือ สาขาท่าม่วง ซึ่งในอนาคตปี 2565 จะมีการขยายสาขาเพิ่มที่ทางด่วนมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลใจมากที่สุด คือ การปรับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับสูงขึ้น ตามที่นักการเมืองได้ไปหาเสียงไว้ ถ้ามีการปรับขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอย่างมหาศาล ทางบริษัทคงต้องมีการเจรจาให้ทางต่างประเทศเข้าใจ อาจมีการขอขยับราคาสินค้าขึ้น และเราต้องรับในส่วนที่ขาดหายไป