10 สถานที่ในกรุงเทพฯ ที่ทำให้รู้สึกว่า “ปีนี้ก็ยังสวยดีนะ”
ปลายปีคือช่วงที่กรุงเทพฯ เปลี่ยนบรรยากาศอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้เย็นเท่าต่างประเทศ แต่อะไรหลายอย่างในเมืองจะนุ่มลงเล็กน้อย โดยเฉพาะในยามเย็นที่ลมเริ่มอ่อนลง ไฟตามถนนเริ่มติด และผู้คนเหมือนเดินช้ากว่าปกตินิดหนึ่ง
บทความนี้ชวนผู้อ่านออกไปเดินดู “ความสวยเล็ก ๆ” ของกรุงเทพฯ ในปลายปี สถานที่ที่ไม่ต้องหรู ไม่ต้องไกล แต่ทำให้รู้สึกว่า… ต่อให้ปีจะหนักแค่ไหน เมืองนี้ก็ยังมีมุมดี ๆ ให้ใจเราหายเหนื่อยอยู่เสมอ
1. ริมน้ำเจ้าพระยา – สะพานพุทธถึงเอเชียทีค
ยามเย็นริมเจ้าพระยาเป็นช่วงเวลาที่กรุงเทพฯ แสดงด้านที่ซื่อที่สุด ลมจากน้ำเย็นกว่าในเมือง ความวุ่นวายเหมือนถูกตัดทอนลงครึ่งหนึ่ง แสงสีทองตอนพระอาทิตย์ตกสะท้อนน้ำแบบไม่มีปีไหนซ้ำกัน มุมนี้ทำให้รู้สึกว่าเมืองที่เราวิ่งตามทั้งปี จริง ๆ แล้วอบอุ่นกว่าที่คิด
2. Central World และราชประสงค์
ถึงจะเป็นจุดที่คนเยอะ แต่ในยุคที่หลายอย่างเปลี่ยนไป ความคุ้นตาของไฟประดับราชประสงค์กลับทำให้รู้สึกเหมือนกลับมาบ้าน ความเป็น “ปลายปีแบบกรุงเทพฯ” อยู่ตรงนี้เสมอ บรรยากาศมันไม่ใช่แค่สวย แต่มันคือความทรงจำหมุนกลับมาเจอกันทุกปี
3. สวนเบญจกิติ – เส้นทางรอบทะเลสาบ
วิวตึกสะท้อนน้ำยามพลบค่ำเป็นภาพที่ปลายปีชอบนำเสนอแบบไม่ต้องขอ ตอนลมเย็นนิด ๆ วิ่งหรือเดินรอบทะเลสาบจะรู้สึกว่าใจสงบลงแบบที่ไม่ต้องพยายามอะไร มันเป็นสวยงามแบบเรียบ ๆ ที่ทำให้รู้ว่าเรายังจัดการชีวิตได้อยู่
4. สวนลุมพินี – เช้าที่เงียบของปลายปี
ปลายปีในสวนลุมช่วงเช้าเป็นอีกโลกหนึ่ง แสงอ่อน เสียงรองเท้าวิ่งจังหวะสม่ำเสมอ เสียงนกที่ดังชัดเพราะเมืองยังไม่ตื่นดี เป็นบรรยากาศที่ทำให้คนรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นใหม่ก่อนที่ปีจะจบลงจริง ๆ
5. สามย่าน – ถนนที่อบอุ่นกว่าแสงไฟ
บางพื้นที่ในกรุงเทพฯ อบอุ่นไม่ใช่เพราะไฟ แต่เพราะคน สามย่านคือแบบนั้น ร้านกาแฟเปิดไฟสีเหลืองอ่อน กลิ่นอาหารตามสั่ง ร้านข้าวฟืน ๆ กับนักศึกษาเดินข้ามถนน มันหลอมรวมกันเป็นความสวยที่ดูธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วจับใจมากกว่าที่คิด
6. เกาะรัตนโกสินทร์ – ความเก่าที่ไม่เคยจาง
ช่วงปลายปีถ้าเดินแถวสนามหลวง ถนนราชดำเนิน เสาชิงช้า หรือวัดพระแก้วในยามเย็น จะพบว่าแสงไฟและสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ทำให้เมืองดูนิ่งกว่าเดิม เหมือนเรายืนอยู่ในกรุงเทพฯ เวอร์ชันที่ใจดีขึ้นเล็กน้อย
7. ท่ามหาราช – ร้านเล็ก ๆ และลมแม่น้ำ
ความพิเศษของท่ามหาราชไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่อยู่ที่ความรู้สึกเวลานั่งมองแม่น้ำไหลแบบไม่รีบ พร้อมเสียงคนหัวเราะเบา ๆ รอบตัว มันเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการนั่งสรุปปีของตัวเองแบบไม่ต้องเขียนอะไร แม่น้ำจะเล่าแทนให้ทั้งหมด
8. ลานห้าง EmQuartier – ช่วงพลบค่ำปลายปี
เอมควอเทียร์มีความเป็นกรุงเทพฯ ยุคใหม่ที่ชัดที่สุด และพอถึงปลายปี แสงไฟอุ่น ๆ ที่สะท้อนกระจกทำให้ที่นี่ดูหรูขึ้นโดยไม่ต้องพยายาม เป็นจุดที่ถ่ายรูปสวย แต่ก็เหมาะกับการนั่งพักใจเงียบ ๆ เหมือนกัน
9. ตลาดนัดจตุจักร – ความวุ่นวายที่ทำให้รู้สึกมีชีวิต
ปลายปีที่จตุจักรอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่เป็นความเหนื่อยที่ดีกว่าที่คิด เสียงคนเดิน กลิ่นอาหาร เสื้อผ้าสีสด ๆ และอากาศปลายปีที่ไม่ร้อนเท่าเดิม ทำให้ความวุ่นวายดู “น่ารัก” ขึ้น เป็นมุมที่เตือนว่า การมีผู้คนรอบตัวคือหลักฐานว่าเรายังไม่โดดเดี่ยว
10. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ – สายลมอ่อนของฤดูเปลี่ยนผ่าน
ต้นไม้ใหญ่ เงาอาคารสีขาว และเสียงลมพัดจากแม่น้ำใกล้ ๆ ทำให้ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์เป็นสถานที่ที่เหมาะกับปลายปีที่สุด มันเหมือนพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ความรู้สึกทั้งหมดของปี—ดีและไม่ดี—ได้หล่นเบา ๆ ลงบนพื้นหญ้าโดยไม่ต้องเก็บไว้เองทั้งหมด
สรุปเล็ก ๆ
กรุงเทพฯ อาจไม่ได้สวยทุกวัน แต่พอถึงปลายปี เมืองจะเผยอีกด้านหนึ่งที่นิ่งกว่า นุ่มกว่า และจริงใจกว่าปกติ เป็นด้านที่ไม่ต้องมีพลุ ไม่ต้องมีบิ๊กอีเวนต์ แค่ลมเย็นสั้น ๆ แสงไฟอุ่น ๆ และผู้คนที่เดินช้าลงนิดเดียว ก็พอทำให้เราคิดได้ว่า
ปีนี้… ก็ยังมีความสวยของมันอยู่เหมือนกัน
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #ท่องเที่ยว #กรุงเทพ