เซเลนสกีหวังปิดดีลสันติภาพยูเครนในกำหนดการพบทรัมป์ครั้งใหม่

ผู้นำยูเครนจะเข้าพบกับโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อขอความเห็นชอบจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับข้อเสนอใหม่ที่จะยุติความขัดแย้งกับรัสเซียที่ยืดเยื้อมาเกือบสี่ปี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน (Photo by Jim WATSON and Tetiana DZHAFAROVA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนมีกำหนดเข้าพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อขอความเห็นชอบจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับข้อเสนอใหม่ที่จะยุติความขัดแย้งกับรัสเซียที่ยืดเยื้อมาเกือบสี่ปี

แผน 20 ข้อซึ่งเกิดขึ้นจากการเจรจาอย่างเข้มข้นระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัสเซีย และการพบปะแบบตัวต่อตัวในฟลอริดาจะเกิดขึ้นหลังจากรัสเซียโจมตีเคียฟด้วยขีปนาวุธและโดรนครั้งใหญ่

การประชุมซึ่งทรัมป์จะเป็นเจ้าภาพ ณ ที่พักสุดหรูของเขาที่มาร์-อา-ลาโก ในเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ จะเป็นการพบปะแบบตัวต่อตัวครั้งแรกของทั้งคู่ตั้งแต่เดือนตุลาคมซึ่งครั้งนั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะอนุมัติคำขอของเซเลนสกีสำหรับขีปนาวุธโทมาฮอว์กพิสัยไกล

ระหว่างการแวะพักที่แคนาดาเมื่อวันเสาร์ เซเลนสกีกล่าวว่าเขาหวังว่าการเจรจาจะเป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์มาก และกล่าวว่าผู้นำรัสเซียได้แสดงเจตนารมณ์ของตนแล้วด้วยการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนครั้งล่าสุด

"การโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้ของรัสเซียต่อความพยายามสร้างสันติภาพของเราอีกครั้ง และนี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าปูตินไม่ต้องการสันติภาพ" เขากล่าว

ขณะที่อยู่ในแคนาดา เซเลนสกีได้ประชุมทางโทรศัพท์กับผู้นำยุโรป ซึ่งตามคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี พวกเขาให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนความพยายามสร้างสันติภาพอย่างเต็มที่

รัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนและผู้สนับสนุนจากยุโรปพยายามทำลายแผนการยุติการสู้รบที่สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยก่อนหน้านี้

ผู้นำสหภาพยุโรปซึ่งเข้าร่วมการประชุมทางโทรศัพท์กล่าวว่าการสนับสนุนของสหภาพยุโรปต่อยูเครนจะไม่สั่นคลอน และให้คำมั่นว่าจะกดดันรัสเซียต่อไปเพื่อให้ตกลงกันได้

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าว TASS ของรัฐบาลว่ามอสโกจะยังคงมีส่วนร่วมกับผู้เจรจาชาวอเมริกันต่อไป แต่วิจารณ์ว่าสหภาพยุโรปเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างสันติภาพ

"พวกเขาไม่ได้ปิดบังแผนการเตรียมพร้อมทำสงครามกับรัสเซีย ความทะเยอทะยานของนักการเมืองยุโรปกำลังทำให้พวกเขาตาบอดอย่างแท้จริง พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่สนใจชาวยูเครนเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะไม่สนใจประชากรของตนเองด้วย" ลาฟรอฟกล่าวเสริม

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อข้อเสนอสันติภาพใหม่นี้

ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ว่า "เซเลนสกีไม่มีอะไรเลยจนกว่าผมจะอนุมัติ ดังนั้นเราจะรอดูว่าเขามีอะไร"

ทั้งนี้ การเจรจาจะกล่าวถึงแผนการยุติสงครามตามแนวรบปัจจุบัน และอาจกำหนดให้ยูเครนถอนกำลังทหารจากทางตะวันออกเพื่อสร้างเขตกันชนปลอดทหาร

ดังนั้น ยูเครนอาจยอมรับแนวทางนี้ได้หากต้องยอมเสียดินแดน แต่คาดการณ์ว่ายูเครนอาจจจะถอนกำลังแค่ 20 % จากภูมิภาคโดเนตสก์ตะวันออกที่ยังคงควบคุมอยู่ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องทางดินแดนหลักของรัสเซีย

ทรัมป์ได้กำหนดให้การยุติสงครามในยูเครนและฉนวนกาซาเป็นหัวใจสำคัญของวาระที่สองที่เขาประกาศตนเองว่าเป็น "ประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ"

แต่สงครามในยูเครนนั้นยากลำบากกว่าที่เขาคาดไว้มาก และประธานาธิบดีได้แสดงความไม่พอใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อทั้งสองฝ่ายที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้เสียที

ในแคนาดา เซเลนสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าการรับประกันความมั่นคงจะเป็นประเด็นสำคัญของการเจรจาในฟลอริดา

"การรับประกันความมั่นคงต้องเกิดขึ้นพร้อมกับการยุติสงคราม เพราะเราต้องมั่นใจว่ารัสเซียจะไม่เริ่มการรุกรานอีก"

"เราต้องการการรับประกันความมั่นคงที่แข็งแกร่ง เราจะหารือเรื่องนี้และเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้อง" ผู้นำยูเครนระบุ

ยูเครนยืนยันว่าต้องการการสนับสนุนจากยุโรปและสหรัฐฯ มากขึ้นในแง่ของเงินทุนและอาวุธ โดยเฉพาะโดรน

นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดา ซึ่งได้พบกับเซเลนสกีระหว่างการเยือนเมื่อวันเสาร์ ประกาศให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 2,500 ล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อการฟื้นฟูหลังสงครามสิ้นสุดลง

การโจมตีครั้งล่าสุดของรัสเซียซึ่งใช้โดรน 500 ลำและขีปนาวุธ 40 ลูกถล่มเมืองหลวงของยูเครนและโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ไฟฟ้าและเครื่องทำความร้อนดับในหลายแสนครัวเรือนในเขตเคียฟท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวจัด

เช่นเดียวกับทางใต้ของเมืองหลวง ฝ่ายบริหารทางทหารของเคอร์ซอนกล่าวว่า รัสเซียได้เปิดฉากโจมตี ทำให้บางส่วนของเมืองไม่มีไฟฟ้าใช้.