โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

ชีวิติติด TECH – “14 ต.ค.68” ถึงเส้นตาย ยุติสนับสนุน “Windows 10”

เดลินิวส์

อัพเดต 11 ต.ค. เวลา 11.47 น. • เผยแพร่ 11 ต.ค. เวลา 04.47 น. • เดลินิวส์
อย่างที่รู้และเป็นข่าวมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วที่ ทาง ไมโครซอฟท์( Microsoft) ยักษ์ไอทีระดับโลก เจ้าของระบบปฎิบัติการ “Windows” ที่มีผู้ใช้งานในคอมพิวเตอร์ทั่วโลก…

อย่างที่รู้และเป็นข่าวมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วที่ ทาง ไมโครซอฟท์( Microsoft) ยักษ์ไอทีระดับโลก เจ้าของระบบปฎิบัติการ “Windows” ที่มีผู้ใช้งานในคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ได้อออกมาประกาศว่า ในวันที่ 14 ตุลาคม 68 นี้ จะยุติ การสนับสนุน (end of support) ระบบปฎิบัติการ Windows 10

นั้นหมายความว่า ความช่วยเหลือทางเทคนิค การอัปเดตฟีเจอร์ และการอัปเดตด้านความปลอดภัยจะไม่มีให้ใช้งานอีกต่อไป แล้ว ซึ่งอาจจะสุ่มเสี่ยงในการเกิดช่องโหว่ด้านภัยไซเบอร์ได้ และได้แนะนำให้อัปเกรดเป็น Windows 11 สำหเครื่องที่สามารถอัปเดทได้ เพื่อให้มีระบบการประมวลผลที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม

อย่างไรก็ตามจาก ข้อมูล ของ “แคสเปอร์สกี้” ที่ได้ทำการ ทำการศึกษาโดยอ้างอิงจากข้อมูลเมทาดาต้าของระบบปฏิบัติการโดยที่ไม่ระบุตัวตน ซึ่งได้รับจากผู้ใช้ Kaspersky Security Network ที่ยินยอมให้ข้อมูล เพื่อค้นหาว่ามีอุปกรณ์ทั่วโลกกี่เครื่องที่ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 อยู่ในปัจจุบัน

ซึ่งจากการสำรวจ 1 เดือน ก่อนถึงกำหนดเส้นตาย พบว่า มีผู้ใช้จำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 53% ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 อยู่ นอกจากนี้ อุปกรณ์จำนวน 8.5% ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 เวอร์ชันเก่า ซึ่งสิ้นสุดการสนับสนุนไปแล้วตั้งแต่ปี 2020 หรือ ปี 63 ซึ่งจากข้อมูลของ Kaspersky Security Network พบว่ามีผู้ใช้เพียง 33% เท่านั้นที่เปลี่ยนมาใช้ Windows 11 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันล่าสุดแล้ว ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงความยึดมั่นอย่างสูงต่อระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่า

โดยเมื่อ ระบบปฏิบัติการสิ้นสุดอายุการใช้งาน ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขก็จะไม่ได้รับการแก้ไขอีกต่อไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าอาชญากรไซเบอร์อาจมีโอกาสใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านี้ได้ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญแคสเปอร์สกี้ขอแนะนำให้ผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้องค์กรธุรกิจอัปเดตระบบปฏิบัติการเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อเครือข่ายส่วนบุคคลและธุรกิจ

โดยผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้เตือนว่าการใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่าในโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรจะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อธุรกิจ เนื่องจากระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัยไม่เพียงแต่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจไม่สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์และเครื่องมือรักษาความปลอดภัยรุ่นใหม่ๆ ได้ ความไม่เข้ากันนี้สามารถก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจได้

“โอเล็ก โกโรเบ็ตส์” ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย แคสเปอร์สกี้ บอกว่า การย้ายระบบไปยังระบบปฏิบัติการใหม่อาจถูกมองอย่างผิดๆ ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่จำเป็นและก่อกวนระบบ และมีฟีเจอร์ใหม่เพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ทำให้เวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่เดิมมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เฟซ แต่ในมุมมองด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดตความปลอดภัยก็เปรียบเสมือนบ้านที่มีรั้วผุพังซึ่งสามารถพังทลายได้เพียงแค่เตะเพียงครั้งเดียว

ความเสี่ยงสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้องค์กรธุรกิจนั้นมีมากกว่าความไม่สะดวกเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการย้ายระบบไปยังระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ สำหรับฝ่ายไอทีและฝ่ายรักษาความปลอดภัยไอทีขององค์กร การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งเริ่มต้นจากระบบปฏิบัติการ ถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้นๆ การอัปเดตอย่างทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียง ไม่ควรละเลยสิ่งนี้ แม้ว่าจะมีโซลูชันความปลอดภัยที่เชื่อถือได้อยู่แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามสำหรับอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 10 โดยที่เครื่อง พีซีรุ่นเก่าที่ไม่สามารถอัปเกรดไป Windows 11 ได้ หลังผ่านวันที่ 14 ต.ค. 68 ไปแล้ว นั้น Windows 10 ยังคงสามารถใช้งานต่อไปได้ตามปกติทุกอย่าง ทั้งตัวระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมต่าง ๆ ที่อยู่บนเครื่อง เพียงแต่ หลังวันที่ 14 ต.ค. 68 จะไม่มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ ฟีเจอร์ และแพตช์ความปลอดภัยอีกต่อไป

ขณะที่เครื่องที่รองรับ ก็สามารถอัปเกรดไป Windows 11 ได้ สามารถตรวจสอบว่าพีซีของเสามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ โดยให้ดำเนินการต่อไปนี้โดยเลือกปุ่มเริ่ม จากนั้นไปที่การตั้งค่า > การอัปเดตและความปลอดภัย > Windows Update

ด้าน พลอากาศตรีอมรชมเชยเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) บอกว่า ในกรณีผู้ที่ใช้ Windows 10 อยู่ ซึ่งถ้าเครื่องรองรับก็สามารถทำการอัปเกรดได้เลย แต่ควรจะแบล็คอัพ ข้อมูลสำคัญต่างๆไว้ก่อน แต่หากเครื่องมีสเปกที่ไม่รองรับ Windows 11 ก็มี 2 ทางเลือก คือ อาจต้องลงทุนซื้อเครื่องใหม่ ถ้ามีงบประมาณ ซึ่งหากไม่ใช่ซื่อเครื่องประกอบ ก็จะมาพร้อม Windows 11 หรือ อีกทางเลือก หากไม่ซื้อใหม่ ก็ ใช้เครื่องเก่ากับ Windows 10 ต่อไป ซึ่งก็ยังใช้ได้ตามปกติ แต่เมื่อไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านความปลอดภัย อีกแล้ว

ผู้ใช้งานก็ควรต้องตระหนักมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เช่น ไม่ใช่ในงานสำคัญ หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไปดาวน์โหลด หรือเข้าเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงในการที่จะโดนโจมตี หรือ อาจจะต้องหาแอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือมาลงเพื่อลดความเสี่ยงเพิ่ม ซึ่งหากอัปเกรดไม่ได้ต้องรู้ว่าจะมีวีธีลดความเสี่ยงอย่างไร จะมีกลไลตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างไร เป็นต้น”

ขณะเดียวกันทาง “แคสเปอร์สกี้” ก็ได้มี ขอแนะนำเพื่อยกระดับความปลอดภัยส่วนบุคคลและธุรกิจในขอบเขตของระบบปฏิบัติการ ดังนี้

• ตรวจสอบว่าใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด และตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งานฟีเจอร์อัปเดตอัตโนมัติแล้ว

• สำหรับลูกค้าทั่วไปและธุรกิจขนาดเล็กใช้โซลูชันที่มีเทคโนโลยีป้องกันช่องโหว่ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีจากช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งอาจพบได้ในระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัย (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2025 เป็นต้นไป Windows 10 และเวอร์ชันก่อนหน้า)

• สำหรับองค์กรที่กำลังดำเนินการทดสอบการอัปเดตความปลอดภัยก่อนนำไปใช้งานทั่วทั้งบริษัท ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการหยุดชะงักที่เกิดจากแพตช์ที่ผิดพลาดหรือความไม่เข้ากัน แนะนำให้พิจารณาใช้โซลูชันความปลอดภัยที่ครอบคลุม

สุดท้ายแล้วเครื่องคอมพิวเตอร์ของใครสามารถอัพเดทไป Windows 11 ได้ ก็ควรรีบดำเนินการ ส่วนใครเครื่องไม่รองรับแล้วก็ควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น!!

Cyber Daily

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...