โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มไรเดอร์ ชีวิตมืดแปดด้าน พ้อรอวันตาย จยย.ถูกยึด บ้านถูกไล่ที่ ไฟถูกตัด เมียถูกโกงจนป่วย

Khaosod

อัพเดต 26 มิ.ย. เวลา 10.08 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. เวลา 10.08 น.
หนุ่มไรเดอร์ ชีวิตมืดแปดด้าน พ้อรอวันตาย จยย.ถูกยึด บ้านถูกไล่ที่ ไฟถูกตัด เมียถูกโกงจนป่วย ต้องดูแลน้องพิการทางสมองอีก

หนุ่มไรเดอร์ ชีวิตมืดแปดด้าน พ้อรอวันตาย จยย.ถูกยึด บ้านถูกไล่ที่ ไฟถูกตัด เมียถูกโกงจนป่วย ต้องดูแลน้องพิการทางสมองอีก

วันที่ 26 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายนนทรานุวัตร พรหมจันทร์ ประธานคณะติดตามงานจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของหนุ่มไรเดอร์คนหนึ่งที่พยายามต่อสู้ชีวิต แต่ถูกชีวิตสู้กลับจนหมดหนทางดูแลครอบครัว เนื่องจากรถ จยย.คู่ชีพ ที่ใช้ทำมาหากิน ด้วยการเป็นไรเดอร์ ถูกไฟแนนซ์ตามยึดรถถึงบ้าน ไม่พอยังถูกพนักงานการไฟฟ้ามาตัดไฟซ้ำ แถมบ้านเช่าที่อยู่อาศัย ถูกเจ้าของที่ยกเลิกสัญญาอีก ทำให้ต้องหาที่อยู่ใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้ ทำให้ครอบครัวไรเดอร์คนดังกล่าวไร้หนทางไปต่อในชีวิต

ผู้สื่อเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านพัก ภายในซอยชุมชนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อติดตามข้อเท็จจริงของไรเดอร์คนดังกล่าว พบกับนายธีรยุทธ เอี่ยมยิ้ม อายุ 34 ปี ไรเดอร์หนุ่มสู้ชีวิต แต่ถูกชีวิตสู้กลับ

นายธีรยุทธ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาเป็นแม่ค้าขายของผ่อนในโลกออนไลน์ และตั้งวงแชร์ในกลุ่มเพื่อน แต่ต่อมาถูกลูกแชร์ในกลุ่มเบี้ยวส่งเงินค่าแชร์ ทำให้ภรรยาเป็นเท้าแชร์ต้องนำเงินจากธุรกิจขายของมาให้กับลูกแชร์ที่หนีไป จนเริ่มเป็นหนี้สินจากการไปกู้เงินนายทุนมาหมุน เมื่อภรรยาทวงถามกับลูกหนี้ที่เล่นแชร์แล้วไม่จ่ายเงิน ทำให้เกิดเรื่องบาดหมางตามมา จากนั้นเพจขายสินค้าเงินผ่อนของภรรยาก็ถูกกลุ่มลูกหนี้ที่ติดเงิน เข้ามาโจมตีใส่ร้ายต่างๆ นานา ทำให้บริษัทคลังสินค้าที่เคยปล่อยเครดิตให้นำของไปขายได้ก่อนยกเลิกสัญญากับภรรยา ทำให้ภรรยาหมดหนทางทำมาหากิน หลังจากนั้นภรรยาเริ่มมีอาการป่วย กลายคนวิตกจริตไปทุกเรื่อง จนเกิดมีปัญหามีปากเสียงกับตนตามมาไม่เว้นแต่ละวัน จนไปรบกวนเพื่อนบ้าน

นายธีรยุทธ เปิดเผยอีกว่า หลังภรรยาเป็นคนวิตกจริตไปแล้ว มักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง ทำให้มีปัญหาปากเสียงกับตนตามมาในแต่ละวัน จนนำไปสู่เรื่องที่เจ้าของที่ที่เช่าปลูกเป็นห้องพักอยู่อาศัยมาตั้งแต่รุ่นพ่อ บอกเลิกสัญญากะทันหัน เพราะตนกับภรรยามีปากเสียงทะเลาะกันทุกวัน โดยเจ้าของที่ให้ครอบครัวตนขนของย้ายออกภายในสิ้นเดือนมิ.ย. ซึ่งตนกับครอบครัวทั้ง 6 ชีวิตยังไม่มีที่ไป ยังไม่รู้จะย้ายออกไปอยู่ไหน เพราะทุกวันนี้แทบจะไม่มีเงินติดตัวกันเลย ขนาดหาค่าข้าวกินในแต่ละมื้อแต่ละวันยังแทบไม่มีเลย ต้องอาศันกินน้ำแทน

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าชีวิตทำไมถึงมืดแปดด้านไปหมด กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาขณะตนจะพาภรรยาไปพบพนักงานสอบสวนที่โรงพัก คดีที่ภรรยาแจ้งความเรื่องถูกลูกหนี้ดูหมิ่นด่าทอในเฟซบุ๊ก ปรากฎว่าก่อนที่จะออกจากบ้านมาเอารถจยย.ที่จอดไว้ มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทไฟแนนซ์ตามมายึดรถที่ใช้เป็นพาหนะทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ไฟแนนซ์มายึดเอาไป ทำให้ไม่มีรถจยย.ไปวิ่งรับงาน เพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว ยังไม่พอต่อมาเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาตัดไฟที่บ้านอีกเนื่องจากครอบครัวค้างชำระค่าไฟมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว หากวันนี้ตนไม่มีเงินไปจ่าย เพื่อต่อไฟฟ้า ครอบครัวคงอยู่ในความมืดของคืนนี้ ตนก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไปจ่ายค่าไฟที่ติดอยู่ เพราะขนาดจะกินข้าวจะซื้อน้ำยังแทบไม่มีเงินเลย

ไรเดอร์หนุ่มรายนี้ เปิดเผยอีกว่า ในบ้านที่ตนอยู่อาศัยมีอยู่ด้วยกัน 6 ชีวิต คือตนกับภรรยาและลูกอีก 2 คน ซึ่งยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถม และตนยังต้องดูแลน้องชายแท้ๆ ของตนที่ป่วยมีอาการทางสมองอีกคนด้วย ส่วนอีกคนเป็นพี่ชายของภรรยาที่ทำงานเป็นไรเดอร์เหมือนกัน แต่เขาก็ต้องส่งเงินกลับไปดูแลครอบครัวที่ต่างจังหวัดอีก ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของครอบครัวไร้ทางออก มืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปในชีวิต หากยังมีรถจยย.อยู่ อย่างน้อยตนออกไปวิ่งงานตั้งแต่เช้าจนมืดก็ยังพอมีรายได้มาซื้อข้าวกินมีเงินให้ลูกๆ ไปโรงเรียน ตอนนี้ตนอับจนหนทางมาก ได้แต่คิดว่าจะประคองชีวิตครอบครัวอย่างไรต่อไป

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หนุ่มไรเดอร์ ชีวิตมืดแปดด้าน พ้อรอวันตาย จยย.ถูกยึด บ้านถูกไล่ที่ ไฟถูกตัด เมียถูกโกงจนป่วย

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...