โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม 2568

สวพ.FM91

อัพเดต 25 พ.ค. เวลา 22.36 น. • เผยแพร่ 25 พ.ค. เวลา 22.36 น.

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม 2568

>> คุณลุงวัย 60 กว่าปีขับรถเก๋งชนกับรถบรรทุก กลางถนนสายสมเด็จ - สกลนคร เสียชีวิตในซากรถ

07.30 น. หน่วยกู้ภัยอโสกสมเด็จ รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนกับรถบรรทุกสิบล้อ และมีผู้บาดเจ็บติดภายในยานพาหนะ บนถนนเส้นทาง สมเด็จ - สกลนคร ก่อนถึงโค้งบ้านกอก ประมาณ 1 กม. ในพื้นที่ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า โซลูน่า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กาฬสินธุ์ สภาพรถด้านฝั่งขวาพังเสียหาย พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายร่างติดค้างภายในยานพาหนะ ไม่มีชีพจรและไม่หายใจ ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จ ร่วมตรวจสอบและยืนยันว่าได้เสียชีวิตแล้ว อาสาสมัครใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถและนำร่างออกมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 60 - 65 ปี

และห่างออกไปรถบรรทุก 10 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน ขอนแก่น สภาพด้านข้างรถฝั่งมีร่องรอยการชนได้รับความเสียหาย และยางล้อรถฝั่งขวาสภาพฉีดขาด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สมเด็จ พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครนำส่งส่งชันสูตร ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> หนุ่มปาระเบิดใส่หน้าบ้านแฟน แต่ระเบิดไม่ทำงาน เดินไปหยิบจะเอามาปาใหม่ กลับบึ้มใส่ตัวเองดับ

07.46 น. สภ.ท่าชนะ รับแจ้งว่า เกิดเหตุหนุ่มตามง้อแฟนสาว มีปากเสียงกันได้หยิบระเบิดมาขว้าง ทำให้ระเบิดมือ เกิดระเบิดขึ้น ภายในบ้าน พื้นที่ ม.1 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เกิดเหตุรับแจ้งเบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

ข้อมูลเบื้องต้น รับแจ้งเป็นกรณี หนุ่มตามง้อแฟนสาว และมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นฝ่ายชาย ได้เดินไปหยิบระเบิดมือ ออกมาจากในรถ แล้วขว้างใส่ แต่ระเบิดมือยังไม่ทำงาน จึงเดินเข้าไปหมายจะปาอีกครั้ง แต่เป็นจังหวะเวลาที่ระเบิดทำงานพอดี จึงทำให้ชายผู้ก่อเหตุ ถูกแรงระเบิดเสียชีวิตทันที และส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด จำนวน 3 คน เป็นหญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน อยู่ในอาการรู้สึกตัวดีทั้ง 3 ราย กู้ภัยนำส่ง ร.พ.ท่าชนะ สารวัตรเวร พ.ต.ต.ชินกฤต สวัสดิ์วงศ์ สารวัตรเวร สภ.ท่าชนะ เจ้าของคดี

>> ไฟไหม้บ้านทาวน์เฮ้าส์ พบเจ้าของบ้านเสียชีวิต ที่หน้าต่างชั้น 2

08.30 น. สภ.บางบัวทอง เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนบ้านกล้วย–ไทรน้อย พื้นที่หมู่ 5 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านพักอาศัย ลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงจากบริเวณชั้นล่าง ก่อนลุกลามขึ้นสู่ชั้นบน ซึ่งเป็นห้องนอน ภายในห้องพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 49 ปี จากการให้ข้อมูลจากชาวบ้านว่าผู้ตายมีอาชีพเป็นข้าราชการและทำงานที่ จ.ชัยนาท สภาพศพอยู่ในท่าห้อยหัวพาดออกทางหน้าต่างระเบียงห้องนอนเหมือนพยายามจะหนีออกมาจากห้องที่เต็มไปด้วยควันและความร้อน แต่ติดเหล็กดัดที่ติดตั้งแน่นหนาทำให้ไม่สามารถหนีออกมาได้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ต.อุรส อายุ 57 ปี ตำรวจสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่พบเห็นเหตุการณ์และได้ปีนบ้านเข้าช่วยเหลือคนในบ้านอย่างกล้าหาญ ก่อนสำลักควันและได้รับบาดเจ็บที่แขนจากเหล็กดัดหน้าต่าง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพิมลราชทันที

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุไฟได้ลุกไหม้จากชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ผู้เสียชีวิตที่อยู่ชั้นบน พยายามจะหลบหนีออกมาทางหน้าต่าง แต่เนื่องจากบ้านติดเหล็กดัดโดยรอบ ทำให้ไม่มีทางออกและไม่สามารถหนีเอาชีวิตรอดได้

>> ครอบครัวรับร่าง 3 นายตำรวจ ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลับบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิด

09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าหลังเกิดอุบัติเหตุ เฮลิคอปเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตก ที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ตำรวจทั้ง 3 นายเสียชีวิต โดยเช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ได้มีการเคลื่อนร่างของผู้ตำรวจทั้ง 3 นาย เสียชีวิตออกจาก โรงพยาบาลหัวหิน

ครอบครัวของตำรวจกล้าทั้ง 3 นาย ที่เสียชีวิต ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยานร่วมภารกิจที่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จว.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลครอบครัวตำรวจกล้า ดูแลด้านสิทธิประโยชน์ สวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่

>> เตือนเกษตรกร 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ระวังโรคไข้ดิน ตั้งแต่ต้นปีพบป่วยแล้ว 147 ราย เสียชีวิต 5 ราย

10.30 น. นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ของโรคเมลิออยด์หรือโรคไข้ดิน ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่างว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 68 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคไข้ดินแล้ว จำนวน 147 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย แยกเป็นรายจังหวัด บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 61 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย สุรินทร์ มีผู้ป่วย 37 ราย ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 16 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และนครราชสีมา มีผู้ป่วย 33 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยกลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 55-64 ปี และกลุ่มอายุ 45-54 ปี ตามลำดับ

กลุ่มอาชีพที่ป่วยมากที่สุด คือ ชาวนาและเกษตรกร เนื่องจากทำงานสัมผัสดินกับน้ำโดยตรง ซึ่ง "โรคไข้ดิน" เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในดินและน้ำ โดยเชื้อสามารถเข้าได้ทางผิวหนังโดยการสัมผัสดินและน้ำเป็นเวลานาน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ มีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่นๆ หลายโรค ทำให้มีอาการไข้ ไอเรื้อรัง มีฝีที่ผิวหนัง ปวดท้อง ปวดข้อ และกระดูก โดยทั่วไปอาการมักปรากฏใน 2-4 สัปดาห์หลังได้รับเชื้อ และหากติดเชื้อในกระแสเลือด แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที มีโอกาสเสียชีวิตได้ใน 1-3 วัน

ดังนั้น เกษตรกร และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือผู้ที่ทำงานสัมผัสดินและน้ำโดยตรง ไม่ควรเดินลุยน้ำด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แต่หากจำเป็นต้องทำงานสัมผัสกับดิน และน้ำที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน ควรสวมรองเท้าบูทเพื่อป้องกัน เมื่อเสร็จภารกิจให้รีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที

>> รถไฟชนกับรถเก๋ง ใกล้วัดศรีบูรณาวาส จ.สมุทรสาคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

11.30 น. รับแจ้งอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว ชนกับรถไฟมหาชัย - วงเวียนใหญ่ ขาเข้ามหาชัย เลขขบวน 1215 ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ดำเนินการช่วยเหลือปฐมพยาบาล และนำส่ง รพ.สมุทรสาคร ทั้ง 2 ราย

เหตุเกิดที่ทางรถไฟมหาชัย - วงเวียนใหญ่ หรือถนนเดิมบาง ปากซอยณรงค์มิตร ซอย 2 พื้นที่ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เขตรับผิดชอบ สภ.เมืองสมุทรสาคร

>> หนุ่มเมียนมา ขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนราวสะพาน ร่างกระเด็นร่วงลงมากระแทกพื้นด้านล่างเสียชีวิตในเวลาต่อมา

16.06 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนราวสะพานต่างระดับ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่สะพานต่างระดับทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีแดง ป้ายทะเบียน ระยอง ล้มคว่ำได้รับความเสียหาย บนพื้นถนนและขอบราวสะพานยังพบร่องรอยการขูดไถลเป็นทางยาว ด้านล่างของสะพานความสูงประมาณ 4 เมตร พบร่างของผู้ชาย อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ลักษณะตกลงมามาจากด้านบนสะพานร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่จึงใช้ผ้าขาวคุมพร้อมทั้งกั้นห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ

เบื้องต้น พ.ต.ท.รัตพล วรรณะ รอง ผกก.สอบสวน ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อ สรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ได้มามอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เคลื่อนย้ายเก็บรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ เพื่อรอให้ญาติ นำเอกสารมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

>> อธิบดี ปภ. ลงพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วม อ.แม่สาย ขณะนี้คลี่คลายแล้ว ทุกภาคส่วนเร่งคืนพื้นที่ให้ประชาชน

16.00 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลงพื้นที่บริเวณด่านศุลกากรแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

นายภาสกร เปิดเผยว่า “สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำสายได้ลดระดับลง จนเรียกได้ว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ตอนนี้เหลือเพียงคราบดินโคลนที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งจังหวัดเชียงรายร่วมกับหน่วยทหารช่าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำเครื่องจักรกลหนักเข้าปฏิบัติการล้างคราบดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน ซึ่งเพื่อให้การบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด โดยการทำงานของเจ้ากน้าที่ขณะนี้ได้แบ่งพื้นที่ (Zoning) ในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนออกเป็น 4 โซน และแบ่งมอบภารกิจหน่วยงาน ได้แก่ โซน A พื้นที่ชุมชนสายลมจอย โดยฝ่ายปกครอง อส. โซน B ชุมชนเกาะทราย โดย มทบ.37 โซน C ชุมชนไม้ลุงขน โดย ฉก.ทัพเจ้าตาก และโซน D โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน“ นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
สำหรับการสนับสนุนการทำงานแก้ไขปัญหาและ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 14 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ติดตั้งที่วัดป่ายาง เทศบาลเมืองแม่สาย เครื่องสูบน้ำ 14 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ติดตั้งบริเวณหน้าหมู่บ้านธนธานี เทศบาลเมืองแม่สาย และได้สั่งการให้นำรถผลิตน้ำดื่มสะอาดเข้ามาประจำในพื้นที่เพื่อพร้อมผลิตน้ำดื่มสะอาดให้ประชาชนใช้ทันทีที่ได้รับการประสานจากจังหวัด

>> “ตำรวจท่องเที่ยว” ใช้กล้อง AI สกัดเหตุอาชญากรรม ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จับแล้วร่วม 200 ราย

16.53 น. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ( ผบช.ทท. ) เปิดเผย ว่า ตำรวจท่องเที่ยวเริ่มนำเทคโนโลยีกล้อง AI ที่เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาติดตั้งในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อคัดกรองบุคคลที่เคยกระทำความผิดและมีหมายจับ รวมถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

ตำรวจท่องเที่ยวได้เริ่มนำระบบกล้อง AI มาใช้ในเดือนกรกฎาคม 2567 ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับรายแรกได้ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 และจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมได้แล้วรวม 180 ราย ประกอบด้วย ชลบุรี ( เมืองพัทยา ) 102 ราย , เชียงใหม่ 54 ราย , นครราชสีมา 21 ราย และ สมุทรปราการ( สนามบินสุวรรณภูมิ ) 3 ราย

นอกจากนี้ยังได้นำข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยง ที่มีพฤติกรรมเป็นกลุ่มแก๊ง หรือเคยการกระทำความผิดในแหล่งท่องเที่ยว เช่น แก๊งล้วงกระเป๋าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แก๊งแลกเงิน เป็นต้น จำนวนกว่า 600 ราย ลงไว้ในฐานข้อมูล หากบุคคลกลุ่มนี้เข้ามาในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระบบจะแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อจะเฝ้าระวัง ตรวจสอบ ติดตามดูพฤติกรรม อันเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลกลุ่มนี้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวได้

>> ประมงจังหวัด เผย รับซื้อปลาหมอคางดำสมุทรสาคร 10 วัน ยอดทะลุ 2.7 แสนกิโลกรัม

17.44 น. นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานภายใต้โครงการควบคุมและกำจัดประชากรปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำ จำนวน 10 แพ อำนวยความสะดวกแก่เกษตรกร ประชาชน ชาวประมง ในพื้นที่ และได้มอบหมายให้บุคลากรในสังกัดสำนักงานประมงจังหวัด สำนักงานประมงอำเภอ ให้บริการชั่งปลาให้กับเกษตรกร ชาวประมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

สำหรับยอดจับปลาหมอคางดำที่จังหวัดสมุทรสาคร ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 รวมจำนวน 16,691 กิโลกรัม รวมจับปลา 10 วัน จังหวัดสมุทรสาครรับซื้อปลาหมอคางดำส่งไปที่อินโนฟาร์ม จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว จำนวน 275,197 กิโลกรัม คงเหลือจำนวนปลาที่ต้องรับซื้อในโครงการฯ อีก จำนวน 474,803 กิโลกรัม

ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวเชิญชวนแพรวบรวม หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมแรงร่วมใจกำจัดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถนำปลามาจำหน่ายที่จุดรับซื้อทั้ง 10 แพที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบเป้าหมาย 750,000 กิโลกรัม หรือภายในวันที่ 11 กันยายน 2568

>> ไฟไหม้บ้านเรือนที่ป่าโมก เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้ใน 30 นาที คาดไฟฟ้าลัดวงจร โชคดีไร้คนเจ็บหรือเสียชีวิต

19.53 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักเลขที่ 615/ค หมู่ที่ 3 ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง จึงประสานเจ้าหน้าที่กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลป่าโมก พร้อมรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลเอกราช เข้าระงับเหตุโดยเร่งด่วน

เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วบริเวณตัวบ้าน ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 4 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ภายในเวลา 30 นาที จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่า สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายอย่างละเอียด

>> เพลิงไหม้ห้องผู้ป่วย บนโรงพยาบาลร้าง ย่านเย็นอากาศซอย 3 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

20.49 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยเย็นอากาศ 3 ถนนเย็นอากาศ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารคอนกรีต 5 ชั้น ประกอบกิจการเป็นโรงพยาบาลร้าง (ปิดกิจการ) ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 ภายในห้องพักผู้ป่วย เสียหายทั้งหมดจำนวน 2 ห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 50 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้ห้องต้นเพลิงเสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งมหาเมฆ

>> เพลิงไหม้รถยนต์ ใกล้เคียงแยก คปอ. เสียหายวอดทั้งคัน

21.44 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ใกล้เคียงแยก คปอ. ถนนพหลโยธิน แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องเครื่องยนต์ เพลิงลุกไหม้ห้องเครื่องยนต์ลุกลามเสียหายหมดทั้งคัน

ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน

>> หนุ่มจีนเมาฉ่ำ เนียนดื่มกินกับเพื่อนร่วมชาติ เกิดเพี้ยนปาสิ่งของ โดนด่าไล่ออกนอกห้อง ก่อนจะกลับมาใช้มีดไล่แทงเจ็บ จ.ชลบุรี

00.16 น. พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุชาวจีนใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บ กลางห้องอาหารวีไอจี ภายในร้านอาหารจีนชื่อดังแห่งหนึ่ง บริเวณถนนพัทยาสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุภายในห้องอาหาร VIP 6 บนชั้น 5 พบมีร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งโต๊ะหม้อไฟทรงกลมและเก้าอี้กระจัดกระจายไปทั่วห้อง บริเวณพื้นและผนังพบกองเลือดติดอยู่ ส่วนที่โต๊ะวางของพบขวดเบียร์ที่ดื่มแล้วเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวผู้บาดเจ็บ เป็นชายชาวจีน อายุ 40 ปี วิ่งหนีตายลงมาขอความช่วยเหลือกับพนักงานร้าน สภาพไม่สวมเสื้อ ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ชายโครงซ้ายกู้ภัยฯ จึงปฐมพยาบาลก่อนพาตัวส่ง รพ.พัทยา-เมโมเรียล

ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นชายสัญชาติจีน อายุประมาณ 35-40 ปี ได้วิ่งหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในห้องครัว มีอาการเมาสุรา ที่ใบหน้าปูดบวม ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ โดยมีลูกค้าชาวจีนถือไม้ตีกอล์ฟยืนล้อมเกลี่ยกล่อมเจรจาให้ออกมามอบตัว ก่อนที่ผู้ก่อเหตุถูกกดันอย่างหนักยอมเดินออกมามอบตัว ตรวจสอบภายในตัวพบอาวุธมีดทำครัว 1 เล่ม ที่ใช้การก่อเหตุ ตำรวจจึงเก็บเป็นหลักฐาน

เบื้องต้นคนแทงยังคงอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก ไม่สามารถให้การได้ ตำรวจจึงคุมตัวไปคุมขังที่ สภ.เมืองพัทยา และต้องรอให้เจ้าตัวสร่างเมาเสียก่อน ถึงจะสอบสวนและดำเนินคดีตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะเร่งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด และสอบสวนหาสาเหตุการแทงครั้งนี้ ว่าที่จริงแล้วเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

00.47 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 201 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...