ครม.รื้อเอ็มอาร์โออู่ตะเภา เปิดช่องให้เอกชนเช่าที่ดิน
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2567 และพิจารณายกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2561 เรื่องขออนุมัติโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาหรือเอ็มอาร์โอ วงเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ตามที่ กพอ. เสนอ
สำหรับมติ ครม. ที่ผ่านมาได้รับทราบมติ กพอ. ครั้งที่ 4/2567 ที่เห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา และขอให้พิจารณายกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2561 เนื่องจากมติ ครม.ดังกล่าวได้อนุมัติในหลักการโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา โดยมอบหมายให้กองทัพเรือดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานใหม่และให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนกับเอกชน เพื่อออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือในอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานใหม่ ให้บริการและซ่อมบำรุงรักษาของโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา เป็นระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี
อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้พ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ไม่สามารถอยู่ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการได้ ตามประกาศ กพอ. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการ ในการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. 2560 (พีพีพี อีอีซี แทรค) จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2561 ได้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินการจากการให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนกับเอกชน เพื่อออกแบบจัดหา และติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือในอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานใหม่ ให้บริการ ซ่อมบำรุงรักษาของโครงการดังกล่าวเป็นเวลาไม่เกิน 50 ปี เป็นการให้เอกชนเช่าที่ดินเพื่อประกอบกิจการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน