โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สาวเผยชีวิตสุดลำบากเพราะป่วยโรคแปลก ทำให้หน้าอกขยายใหญ่ น้ำหนักรวมเฉียด 10 กก.

เดลินิวส์

อัพเดต 16 ก.ค. เวลา 19.58 น. • เผยแพร่ 16 ก.ค. เวลา 15.35 น. • เดลินิวส์
สาวบราซิลวัย 22 ปี พบชีวิตใหม่หลังจากศัลยแพทย์ผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อส่วนเกินออกจากหน้าอกของเธอซึ่งมีน้ำหนักรวมเกือบ 10 กก. ใช้เวลาผ่าตัดยาวนานถึง 10 ชั่วโมง

เทย์นารา มาร์คอนเดส นักศึกษาครูชาวบราซิล ต้องเผชิญกับภาวะที่หน้าอกของเธอขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและผิดปกติภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งเกิดจากอาการป่วยที่หาได้ยากและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตประจำวันของเธออย่างมาก

มาร์คอนเดสได้บันทึกเรื่องราวการป่วยของเธอผ่านโซเชียลมีเดียตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงการรักษาช่วงสุดท้าย ก่อนกลายเป็นผู้ป่วยโรคแปลก เธอเคยสวมเสื้อไซซ์ M มาตลอด จนกระทั่งหน้าอกของเธอเริ่มโตขึ้นด้วยอัตราที่น่าตกใจถึง 750 กรัมต่อเดือน ทำให้เธอไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าเดิมๆ ได้อีกต่อไปหรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าไซซ์ใหญ่ จนในที่สุดก็ต้องสั่งตัดเสื้อผ้าพิเศษ

“ฉันใส่ไม่ได้กระทั่งเสื้อยกทรง” มาร์คอนเดสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว G1 ในท้องถิ่น “มีอยู่วันหนึ่งฉันลองเสื้อไป 8 ตัว แต่ใส่ไม่ได้เลยสักตัว ฉันถึงกับสติแตก”

ป้าของเธอเป็นคนแรกที่สังเกตและแสดงความกังวล แต่มาร์คอนเดสก็พยายามมองข้ามไป จนกระทั่งคนแปลกหน้าเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินี้

“ฉันออกไปข้างนอก แล้วผู้คนก็เริ่มจ้องมองและชี้มาที่ฉัน” เธอให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN Brazil “ครั้งหนึ่งฉันไปซูเปอร์มาร์เก็ต ผู้คนถึงกับคิดว่าฉันขโมยของและซ่อนไว้ในหน้าอกของฉัน ตอนนั้นแหละที่ฉันเริ่มกังวล”

การขยายตัวของหน้าอกส่งผลกระทบเกือบทุกด้านในชีวิตของเธอ มาร์คอนเดสเขียนในโพสต์โซเชียลมีเดียของเธอว่า หน้าอกที่ใหญ่ผิดปกติทำให้เธอทำกิจวัตรประจำวันแทบไม่ได้ และทำให้เธอมีอาการปวดหลัง คอ และไหล่อย่างรุนแรง

“มันรบกวนฉันมาก การตัดเล็บเท้าหรือใส่รองเท้าผ้าใบเป็นเรื่องยาก” เธอกล่าวในโพสต์ “ฉันวิ่งไม่ได้และเลิกไปฟิตเนสเพราะอาการปวดหลัง”

หญิงสาวกล่าวว่า บางครั้งอาการปวดก็รุนแรงมากจนเธอต้องใช้รถเข็นเพื่อไปไหนมาไหน

ในตอนแรกแพทย์เกรงว่า มาร์คอนเดสจะเป็นมะเร็ง แต่สุดท้ายก็วินิจฉัยว่าเธอมีภาวะเต้านมโตผิดปกติ (Gigantomastia) ซึ่งเป็นโรคหายาก อาการของผู้ป่วยคือหน้าอกจะมีการเจริญเติบโตมากเกินไปและไม่สามารถควบคุมได้ ตามข้อมูลของศูนย์การแพทย์ชื่อดังอย่างคลินิกคลีฟแลนด์ ระบุว่า มีกรณีผู้ป่วยโรคนี้ที่ได้รับการบันทึกไว้ประมาณ 300 กรณีเท่านั้น

โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่อาจเกี่ยวข้องกับวัยแรกรุ่น การตั้งครรภ์ ยาบางชนิด โรคอ้วน ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรือแม้แต่ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

อาการของผู้ป่วยบางรายจะค่อยๆ ลุกลามอย่างช้าๆ เป็นเวลาหลายปี แต่กรณีของมาร์คอนเดสกลับลุกลามอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่สัปดาห์

นอกจากอาการปวดและท่าทางที่ไม่ดีแล้ว อาการอื่นๆ อาจรวมถึงอาการชาที่หัวนม การติดเชื้อหรือรอยโรคใต้หน้าอก และปัญหาทางจิตใจ เช่น ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และปัญหาด้านภาพลักษณ์ทางกาย

ในบางกรณี ยาอาจช่วยชะลอการเจริญเติบโตได้ แต่ผู้ป่วยจำนวนมากจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด ในกรณีที่อาการรุนแรงหรือเกิดซ้ำ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเต้านมทิ้งทั้งหมด

ตอนที่หน้าอกของมาร์คอนเดสมีขนาดใหญ่ที่สุดนั้น มีน้ำหนักรวมประมาณ 11.7 กก. แม้ว่าจะไม่มีการแปลงน้ำหนักหน้าอกเป็นขนาดเสื้อชั้นในโดยตรง แต่ศัลยแพทย์เพื่อความงามรายหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนียประมาณการไว้ว่า เต้านมคัพ C จะมีน้ำหนักประมาณข้างละ 0.49 กก., คัพ D หนักประมาณข้างละ 0.77 กก., คัพ DD/E หนักประมาณข้างละ 1 กก., คัพ DDD/F หนักประมาณข้างละ 1.17 กก.

มาร์คอนเดสเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมปีที่แล้ว และออกจากโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านั้น เธอขอระดมทุนเพื่อการรักษาและได้รับเงินบริจาค 7,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 235,000 บาท) และกล่าวว่ามันคุ้มค่ากับทุกดอลลาร์

แต่การผ่าตัดก็ต้องแลกกับการสูญเสียบางอย่าง ในกรณีของมาร์คอนเดส เธอสูญเสียความรู้สึกที่หัวนมทั้งหมด และจะไม่สามารถให้นมบุตรได้ นอกจากนี้ แพทย์ยังเตือนว่า เนื้อเยื่อหน้าอกของเธออาจกลับมาโตได้อีกในอนาคต จึงจำเป็นต้องติดตามอาการกันต่อไป

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Instagram / @thay_marcondes01

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...