โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จ่อรื้อราคาประเมินที่ดิน แนวรถไฟฟ้าใหม่ ในรอบ 6 ปี

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 30 ก.ค. 2565 เวลา 07.48 น. • เผยแพร่ 30 ก.ค. 2565 เวลา 07.21 น.

กรมธนารักษ์ เตรียมรีวิวราคาประเมินที่ดินใหม่ ในรอบ 6 ปี เผยข้อมูลย้อนหลังซื้อ-ขายที่ดินไม่คึกคัก

วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 มติชน รายงานว่า นายฐนัญพงษ์ สุขสมศักดิ์ ผู้อำนวยการกองประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากวันที่ 1 มกราคม 2566 กรมประกาศบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่รอบปี 2566-2569 แล้ว ในระหว่างรอบปีอาจจะต้องมีการรีวิวใหม่เพิ่มเติมให้สอดรับกับสภาพพื้นที่และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากราคาที่กรมประกาศใช้ใหม่นี้เก็บข้อมูลและทำการวิเคราะห์เมื่อ 6 ปีที่แล้ว

สำหรับทำราคาประเมินใหม่รอบปี 2563-2566 แต่เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจที่กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตระบาดโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้เลื่อนการประกาศใช้ราคาใหม่มาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เพราะราคาประเมินจะถูกนำไปใช้เป็นฐานการคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วย

นายฐนัญพงษ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมทั้งประเทศราคาประเมินใหม่ที่จะใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 ปรับขึ้น 8% โดยกรุงเทพมหานครปรับขึ้น 2.69% และต่างจังหวัดปรับขึ้น 8.81% โดยที่ผ่านมาได้เก็บข้อมูลสะสมทุกปี พบว่าการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินไม่ค่อยคึกคักเมื่อเทียบกับรอบปี 2558-2562 ขณะนี้กำลังนำข้อมูลมาวิเคราะห์ดูว่าพื้นที่ไหนราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิน 15% จะต้องมีการประกาศราคาใหม่ในระหว่างปีต่อไป

นายฐนัญพงษ์ ระบุว่า ทำเลสำคัญมีแนวโน้มจะต้องปรับราคาประเมินใหม่ เช่น แนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เปิดใช้แล้วแต่ยังไม่ได้ประเมิน เช่น สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-คูคตและช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

รวมทั้งสายที่จะเปิดใช้ในปี 2566 คือ สายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี สายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง หรือกำลังก่อสร้างอย่างสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี รวมถึงทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว การค้าชายแดน และพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ซึ่งส่วนใหญ่ราคาประเมินจะปรับขึ้นสูงจะเป็นรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง เช่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา อู่ตะเภา

ด้านนายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลราคาซื้อขายที่ดินจากข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์จริงในพื้นที่เขต/อำเภอในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู และ สายสีเหลือง ที่ทั้งสองสายเส้นทางใกล้จะก่อสร้างเสร็จและคาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถได้ปลายปี 2565

พบว่าราคาที่ดินเฉลี่ยของทุกเขต/อำเภอในพื้นที่ที่รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายพาดผ่าน ในแนวสายสีเหลืองมีราคาเฉลี่ยที่ 101,287 บาท/ตร.ว. สูงกว่าแนวสายสีชมพูมีราคาที่ดินเฉลี่ยที่ 55,666 บาท/ตร.ว. หรือสูงกว่าถึง 81.95 % เนื่องจากพื้นที่ที่สายสีเหลืองพาดผ่านเป็นชุมชนพาณิชยกรรม และที่พักอาศัยหนาแน่น และราคาที่ดินบริเวณนี้ ปรับตัวสูงขึ้นมากเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่สายสีชมพูพาดผ่านมีชุมชนที่น้อยกว่า และราคาที่ดินโดยพื้นฐานต่ำกว่า

นายวิชัยกล่าวว่า หากพิจารณาด้านอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเฉลี่ยระหว่าง 2 เส้นทางนี้ ในช่วงระหว่างไตรมาส 1 ปี 2562 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2565 หรือในช่วง 14 ไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าราคาที่ดินเฉลี่ยในพื้นที่เขต/อำเภอของสายสีเหลืองมีการเปลี่ยนแปลง 46.95% หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 3.61%

ขณะที่สายสีชมพู มีการเปลี่ยนแปลงถึง 76.30% หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 5.87% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าราคาที่ดินในบริวณสายสีชมพูยังมีราคาเฉลี่ยต่ำกว่าสายสีเหลือง แต่มีอัตราเร่งของราคาที่ดินที่แรงพอสมควร ทั้งนี้คาดว่า เมื่อสายสีชมพูเปิดให้บริการ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว ราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวจะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาก

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเมื่อเทียบปี 2563 กับ 2564 แยกเป็นบีทีเอส เพิ่มขึ้น 7.3% ส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง เพิ่มขึ้น 6.3% ส่วนต่อขยายช่วงตากสิน-บางหว้า เพิ่มขึ้น 7.2% ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 6.0% รถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มขึ้น 6.3% แอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพิ่มขึ้น 4.4% สายสีม่วงเพิ่มขึ้น 4.9%

สายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพิ่มขึ้น 6.7% สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เพิ่มขึ้น 6.3% และช่วงหัวลำโพง-บางแค เพิ่มขึ้น 7.3% สายสีเขียวหมอชิต-คูคต เพิ่มขึ้น 10.4% สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 11.7% สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง เพิ่มขึ้น 13.7% สายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 8.5%

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...