คลัง-ธปท.ผุด 3 มาตรการแก้บาทแข็ง คุมเข้มซื้อ-ขาย 'ทอง' ออนไลน์
คลัง-ธปท.ผุด 3 มาตรการแก้บาทแข็ง คุมเข้มซื้อ-ขาย ‘ทอง’ ออนไลน์
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งและความเคลื่อนไหวของธุรกรรมทองคำบนแพลตฟอร์มออนไลน์ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกประชุม 3 หน่วยงานหลัก เพื่อกำหนดแนวทางรับมืออย่างเหมาะสมที่ประชุมเห็นควร 3 มาตรการสำคัญ
1.ให้กรมสรรพากรกำหนดแนวทางกำกับแพลตฟอร์มซื้อขายทองคำออนไลน์ โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องรายงานและนำส่งข้อมูลธุรกรรมให้กรมสรรพากร เช่นเดียวกับการขายสินค้าออนไลน์ประเภทอื่น
2.ให้กรมสรรพากร พิจารณาความเหมาะสมจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับการประกอบธุรกิจซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
3.ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ศึกษาแนวทางกำกับดูแลปริมาณธุรกรรมทองคำ ให้เหมาะสม
แนวทาง 2 มาตรการของกรมสรรพากรใช้เวลา2สัปดาห์
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า หากดูช่วงเงินบาทแข็งค่าจาก 31.80 บาทต่อดอลลาร์ ลงมาเหลือ 31.40 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงวันที่ 11-15 ธ.ค.68 หากนับธุรกรรมทุกประเภทในการขายเงินดอลลาร์ พบว่า 45% มาจากแรงเทขายจากธุรกรรมทองคำ และบางช่วงเห็นสูงถึง 62% ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาถือว่าใหญ่มากและใหญ่กว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นจึงเป็นปัจจัยให้บาทแข็งค่าชัดเจนโดยเฉพาะธุรกรรมซื้อขายทองคำบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีมูลค่าหลัก 100-1,000 ล้านบาท และซื้อขายบ่อยๆ ถี่ ไม่เกี่ยวกับซื้อขายร้านทองตู้แดง ผู้ซื้อเก็บสะสมรายย่อย
ดังนั้น แนวทางการกำกับดูแลจะมีอยู่ด้วยกัน 3 มาตรการ โดย 2 มาตรการจะเป็นในส่วนกระทรวงการคลัง คือ 1.ให้กรมสรรพากรกำกับผู้ประกอบการซื้อขายแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร และ 2.ให้กรมสรรพากรดูความเหมาะสมในการเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะการซื้อขายทองคำบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่รวมซื้อขายรายย่อย และ 3.มาตรการในส่วนธปท.ในการดูแนวทางการกำกับปริมาณธุรกรรมทองคำ เช่น การกำหนดเพดานธุรกรรม หากผู้ประกอบการ-ลูกค้าเป็นประเภทนี้ และมีการยืนยันตัวตน (KYC) แบบนี้ จะกำหนดเพดานธุรกรรมเท่าไร โดยจะไม่กระทบร้านทองตู้ทอง และซื้อขายรายย่อย
โดยปัจจุบันธปท.อยู่ระหว่างให้กระทรวงการคลังในการแก้ประกาศกระทรวงการคลังในการให้อำนาจเข้าไปกำกับดูแลข้อมูลธุรกรรมและมีสิทธิ์เรียกดูข้อมูลธุรกรรมบางอย่าง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการเปิดฟังความคิดเห็น(เฮียริ่ง) และคาดว่าประกาศกระทรวงการคลังได้ภายในกลางเดือนมกราคม 2569
นายวิทัยกล่าวอีกว่าที่ผ่านมาประเทศไทยเปิดเสรีการนำเงินเข้าประเทศมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ภาครัฐจะดำเนินการเพิ่มเติม คือการออกหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเงินเข้าประเทศ
“ภายใต้เกณฑ์ใหม่จะขอให้ธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารประกอบการนำเงินเข้า ซึ่งต้องมีหลักฐานแสดงที่มาของเงินอย่างชัดเจน ซึ่งหากพบการนำเงินเข้ามาในปริมาณสูงถึงระดับที่มีนัยสำคัญ ธนาคารจะต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของเงินและวัตถุประสงค์ในการนำเงินเข้ามาใช้ในประเทศ”นายวิทัย กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : คลัง-ธปท.ผุด 3 มาตรการแก้บาทแข็ง คุมเข้มซื้อ-ขาย ‘ทอง’ ออนไลน์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th