สธ. เผย ไฟไหม้โกดังสารเคมีอยุธยา กระทบ รพ.-ร.ร. ประชาชนอีกกว่า 80 ราย ซ้ำร้าย “ไม่มีใบอนุญาต” ประกอบกิจการ
สธ. เผย ไฟไหม้โกดังสารเคมีอยุธยา กระทบ รพ.-ร.ร. ประชาชนอีกกว่า 80 ราย ซ้ำร้าย “ไม่มีใบอนุญาต” ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเกี่ยวกับสารเคมี
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลผลทางกระทบสุขภาพจากเหตุการณ์ไฟไหม้โกดังเก็บกากอุตสาหกรรม หมู่ 2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อคืนวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่าเบื้องต้นโกดังเก็บสารเคมีกากอุตสาหกรรม มีทั้งสิ้น 5 โกดัง ภายในมีถังบรรจุสารเคมีจำนวนมาก ภายนอกเป็นบ่อพักน้ำเสียขนาดใหญ่สีน้ำตาลเข้มกลิ่นคล้ายสารเคมี พื้นที่รอบโกดังในรัศมี 1 กิโลเมตร มีโรงพยาบาลชุมชน 1 แห่ง โรงเรียน 7 แห่ง ศูนย์เด็กเล็ก 3 แห่ง และวัด 10 แห่ง ได้ประเมินผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน โดยสอบถามผู้ได้รับผลกระทบรวม 30 หลังคาเรือน ในระยะจุดเกิดเหตุ จนถึง 3 กิโลเมตร พบว่าในระยะไม่เกิน 500 เมตร มีผู้ได้รับผลกระทบ 87 ราย จำนวน 25 หลังคาเรือน ในระยะ 1-3 กิโลเมตร มีผู้ได้รับผลกระทบ 8 ราย จำนวน 5 หลังคาเรือน ส่วนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่มีทั้งหมด 19 ราย เป็นเด็กเล็ก 8 ราย ผู้สูงอายุ 11 ราย ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมทั้งไม่พบประชาชนที่ได้รับผลกระทบรุนแรง มีเพียงอาการที่เกิดจากการได้รับควันไฟและกลิ่นเหม็นสารเคมี ทำให้หายใจไม่สะดวก รู้สึกรำคาญ และมีเถ้าเขม่าฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้ให้การดูแลและจัดระบบส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้มีอาการแล้ว
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยรอบ ทีมปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (ทีม SEhRT) ของกรมอนามัยและศูนย์อนามัยที่ 4 ได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศเบื้องต้นในบ้านประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อหาการปนเปื้อนสารพิษ พบค่าระดับสารอินทรีย์ระเหยง่ายแบบรวมประมาณ 1.09 ppm ซึ่งเป็นระดับที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ, การตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้นจากค่าความเป็นกรด-ด่าง ในแหล่งน้ำสาธารณะใกล้โกดัง พบค่า pH ประมาณ 7.5 คือมีความปลอดภัย ได้เก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ น้ำใช้ประชาชน น้ำทิ้งจากโรงงาน เพื่อเชื่อมโยงกับการปนเปื้อนสารเคมีของโกดัง ซึ่งอยู่ระหว่างส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ จะใช้เวลาประมาณ 7 วัน แต่จากการเดินสำรวจโดยรอบไม่พบการปล่อยน้ำเสีย หรือสารเคมีออกจากพื้นที่โกดัง ทั้งนี้ โกดังที่เกิดเหตุไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเกี่ยวกับสารเคมี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ.2535 จากหน่วยงานราชการท้องถิ่น และไม่พบใบอนุญาตประกอบกิจการลักษณะคล้ายคลึงกันจากหน่วยงานอื่น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สธ. เผย ไฟไหม้โกดังสารเคมีอยุธยา กระทบ รพ.-ร.ร. ประชาชนอีกกว่า 80 ราย ซ้ำร้าย “ไม่มีใบอนุญาต” ประกอบกิจการ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th