โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เทคนิคการดื่มน้ำเปล่า ลดน้ำหนัก

Health Daily

เผยแพร่ 30 พ.ย. 2564 เวลา 11.30 น. • สุขภาพดีดี

เทคนิคการดื่มน้ำเปล่า ลดน้ำหนัก

 

          ทุกคนคงทราบกันอยู่ดีว่า 

“น้ำ” ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตที่ร่างกายจะขาดไม่ได้ เพราะว่าน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย ถึง 70% มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายสัปดาห์หากขาดอาหาร แต่จะอยู่ได้เพียงไม่กี่วันหากขาดน้ำ ซึ่งการดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 8 แก้วต่อวัน ซึ่งประโยชน์ของน้ำเปล่านั้นมีหลากหลายมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบต่างๆในร่างกาย เช่น ระบบการย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญ รวมไปถึงส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผิวของเราด้วย สุขภาพดีดี.com ได้รวบรวมข้อมูลดีดีเกี่ยวกับ เทคนิคการดื่มน้ำเปล่า ลดน้ำหนัก มาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ

          

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า

 น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ในหนึ่งวันจึงควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน 

การดื่มน้ำ ยังช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก ด้วยเพราะ น้ำจะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น เนื่องจากน้ำทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง ร่างกายจึงต้องเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุล ความร้อน 

ส่งผลให้อาหารและพลังงานถูกเผาผลาญตามไปด้วยและยังช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกิน และการดื่มน้ำเปล่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดความอยากอาหารได้ ทำให้แคลอรีที่ได้รับจากอาหารลดลงและลดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักเพิ่ม 

 

          เมื่อดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น ทำให้ลดโอกาสการดื่มน้ำหวาน หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง จึงควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น 

สำหรับเทคนิคการดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนัก สามารถปฏิบัติได้ในช่วงเวลา ดังนี้

 

1. เริ่มต้นเช้าอันสดใสด้วยการดื่มน้ำ 1 แก้วหลังจากตื่นนอน

          ขั้นตอนแรก เริ่มจากให้ฝึกตื่นเช้าให้เป็นนิสัย เพราะร่างกายของเรามีนาฬิกาชีวิต อวัยวะต่างๆ จะทำงานตามเวลาของมัน ซึ่งเราก็ต้องดื่มน้ำให้สัมพันธ์กับแต่ละช่วงเวลาด้วย  

เวลา 06.30-07.00 น. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอนตอนเช้าทันที ช่วงนี้เลือดในร่างกายจะมีความข้นหนืดสูง หลังจากขาดน้ำมาทั้งคืน การดื่มน้ำในตอนนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และยังช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

 

2. เมื่อเข้าช่วงสายๆ ควรดื่มน้ำ 1 แก้วช่วงเวลา 08.00 – 09.00 น.          

เวลา 08.00-09.00 น.

 ดื่มน้ำ 1 แก้ว โดยดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารเช้า 1 ชม. ไม่ควรดื่มก่อนที่จะกินข้าวทันทีเนื่องจากจะทำให้น้ำย่อยในร่างกายมีความเจือจางลง ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ 

 

3. ดื่มน้ำ 2 – 3 แก้ว ช่วงเวลา 09.00 – 13.00 น.        

เนื่องจากช่วงเวลา  09.00 – 13.00 น. 

ซึ่งเป็นช่วงเวลาทำงาน หากดื่มน้ำระหว่างวัน ทำการจิบน้ำไปเรื่อยๆ จะลดการสูญเสียน้ำในระหว่างวัน นอกจากนี้ น้ำยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย 

 

4. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วงบ่ายและเย็น เวลา 13.00 – 17.00 น.          

ช่วงเวลา 13.00 – 17.00 น. 

ช่วงเวลาเย็น และในช่วงเย็นหากดื่มน้ำในปริมาณ 1 แก้ว จะช่วยดับกระหายได้ดี อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณนั้นชุ่มชื้นอีกด้วย 

 

5. ก่อนและหลังมื้อเย็นควรดื่มน้ำ 2 แก้ว ช่วงเวลา 18.00 น.

          การดื่มน้ำช่วงเย็น ให้ดื่มก่อนและหลังกินมื้อเย็น และแบ่งบางส่วนไปดื่มช่วงก่อนนอน เพื่อช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ และป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับ

 

6. ดื่มน้ำสัก 1 แก้วก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง         

ในแต่ละวัน ควรเข้านอนเวลา 23.00 น. หรือไม่เกินเที่ยงคืน โดยก่อนจะนอน 1 ชม. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ แต่ไม่ควรดื่มใกล้เวลานอนเกินไป เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึก รบกวนการนอน ทำให้นอนหลับไม่สนิทได้

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...