โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

น้ำปลาร้าไทย ปังไกลในอเมริกา ส่งออกกว่า 100 ยี่ห้อ พาณิชย์ ลุยเจาะตลาดร้านอาหาร-ชาวเอเชีย6ล้านคน

Khaosod

อัพเดต 15 มี.ค. 2565 เวลา 03.59 น. • เผยแพร่ 15 มี.ค. 2565 เวลา 01.42 น.
พาณิชย์ ลุยเจาะตลาดน้ำปลาร้าไทยในอเมริกา

น้ำปลาร้า ไทย ปังไกลในอเมริกา หลังพิมรี่พายทำตลาด พาณิชย์ ลุยเจาะตลาดคนเอเชีย 5.83 ล้านคน และร้านอาหารไทย 5 พันแห่ง

นางสุปรารถนา กมลเวชช ผอ.สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 2 ปีที่ผ่านมากระแสความนิยมบริโภคน้ำปลาร้าในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ผลิตขนาดย่อม กลาง และใหญ่ ส่งออกน้ำปลาร้ามาจำหน่ายจำนวนมาก ทั้งศิลปินคนดัง สตาร์ตอัพ หรือนักลงทุน ล่าสุดมีจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 100 ยี่ห้อ และยังเติบโตต่อเนื่อง โดยกระแสความร้อนแรงของน้ำปลาร้า ส่วนหนึ่งยังมาจากพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์คนดังซึ่งสามารถขายน้ำปลาร้าได้เดือนละ 140 ล้านบาท ขายทางออนไลน์ได้ 100 ล้านบาท และทางออฟไลน์ขายได้ 40 ล้านบาท

“การพัฒนาปลาร้าไปสู่ซอสน้ำปลาร้า ช่วยยกระดับสินค้าไทยสู่สากล หลุดพ้นข้อครหาเรื่องคุณภาพ ดึงดูดความสนใจจากคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน ที่ชอบลองชิมซ้อสปรุงรสอาหารชนิดใหม่ๆได้มากขึ้น รวมทั้งยังมีโอกาสที่จะขยายตลาดไปสู่ร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 5,000 แห่ง รวมไปถึงเจาะตลาดคนเอเชียที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯที่คุ้นเคยกับปลาร้า เช่น ชาวลาว พม่า กัมพูชา ม้ง เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 5.83 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้อีกด้วย”

นางสุปรารถนา กล่าวว่า สำหรับผู้ที่สนใจส่งออกน้ำปลาร้าไปยังสหรัฐฯต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยขององค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกาเช่น โรงงานผลิตต้องจดทะเบียนกับเอฟดีเอ ,ต้องผลิตด้วยมาตรฐานการผลิตให้ตรงตามมาตรฐาน HACCP (Hazard Analysis andCritical Control Points) และห้ามเติมสารต้องห้ามลงในส่วนผสม เช่น สารCBD จากกัญชงและกัญชาและบัญชีสีเติมอาหาร
ต้องห้าม เป็นต้น

ปัจจุบัน สหรัฐฯ นำเข้าซอสปรุงรสผลิตจากปลา มูลค่า 47.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี2564 และเพิ่มขึ้น 15.49 % และซอสปรุงรสผลิตจากปลาที่นำเข้า 98% คือสินค้าน้ำปลานั้นมีนำเข้าจาก ฮ่องกงมากที่สุด มูลค่า 18.64 ล้านเหรียญ รองลงมาคือ ไทย มูลค่า 17.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 31.17% จากปี 2563 มีสัดส่วนตลาด 36.04 % รองจากไทยคือ เวียดนาม เกาหลีใต้ และ ฟิลิปปินส์

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...