โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

SMEs-การเกษตร

ยี่หร่า กะเพราควาย ใบจันทน์ ปริศนาแห่งนามและพันธุ์

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 24 ก.ย 2564 เวลา 07.50 น. • เผยแพร่ 24 ก.ย 2564 เวลา 06.37 น.

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหาการเรียกชื่อพืชพันธุ์ผักไม่เหมือนกันมาบ้างนะครับ

เมื่อลองไล่ๆ ดูแล้ว ก็พบว่ามีหลายกรณีทีเดียว เช่นว่า ผู้คนรุ่นเก่าๆ ในเขตภาคเหนือและบางส่วนของภาคกลาง มักเรียก ขึ้นฉ่าย ว่า “ตั้งโอ๋” เสมอ เมื่อเข้าร้านอาหารสั่งปลาช่อนผัดใบตั้งโอ๋ ก็จะเป็นผัดขึ้นฉ่ายทุกครั้ง

ใบเบย์ (bay leaf) ถูกเรียกในครัวไทยว่า “ใบกระวาน” มาตลอด ทั้งๆ ไม่ใช่เป็นใบของต้นกระวาน (cardamom) แต่อย่างใด

เม็ดยี่หร่า (cumin) ซึ่งเป็นพืชตระกูล “เทียน” ชนิดหนึ่งในกลุ่มสมุนไพรไทยโบราณนั้น ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมล็ดของต้นไม้ใบฉุนที่คนภาคใต้เรียกยี่หร่า (tree basil) กระทั่งหนังสือตำราอาหารภาษาไทยหลายเล่มก็ยังเขียนไว้เช่นนั้น เลยกลายเป็นความเข้าใจผิดที่แก้ไขยากที่สุดไปอีกข้อหนึ่ง

ส่วนกรณี “ใบยี่หร่า” ที่ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้เรียกสั้นๆ ว่า “ใบรา” พบได้ในแกงเนื้อ หรือแกงปลาดุกนั้น แถบภาคกลางมีหลายชื่อ อย่างเช่นแถบกาญจนบุรี เรียก “กะเพราควาย” บ้าง “กะเพราช้าง” บ้าง ทว่าส่วนใหญ่เมื่อเอ่ยถึงยี่หร่าก็จะเข้าใจร่วมกันได้ว่าคือต้น tree basil นี้

แต่มีอีกชื่อหนึ่งที่คนภาคเหนือใช้เรียกใบยี่หร่าด้วย คือเรียกว่า “ใบจันทน์”

เรื่องการเรียกใบยี่หร่าว่าใบจันทน์นี้ เป็นที่เข้าใจร่วมกันในวงค่อนข้างกว้างนะครับ มีการอธิบายขยายความต่อไปด้วยว่า บางแห่งถึงกับเรียก “จันทน์หมาวอด” คือถ้าได้ใส่ในผัดเผ็ดเนื้อหมาละก็ เป็นถูกกันดีนัก จน “วอด” คือกินกันหมดกระทะอย่างรวดเร็วทีเดียว

อย่างไรก็ดี มีสูตรกับข้าวของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ อยู่สูตรหนึ่ง คือ “ผัดเผ็ดเนื้อสับใบจันทน์” คุณชายถนัดศรีให้เอาเนื้อวัวสับหยาบมาผัดน้ำมันกับพริกแกงเผ็ดและพริกขี้หนูสับ เม็ดพริกไทยอ่อน สุดท้ายจึงใส่ใบจันทน์ ท่านว่าผัดเผ็ดกระทะนี้ “หากใครไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องใส่พริกขี้หนู เพราะใบจันทน์มีรสเผ็ดร้อนอยู่แล้ว รับประทานหน้าหนาวเรียกเหงื่อดีนัก” และว่า ใบจันทน์นั้น “ถ้าหาไม่ได้ ให้ใส่ใบยี่หร่าแทน”

ถ้าเป็นอย่างที่ท่านเขียนหมายเหตุ ใบจันทน์ ในความรับรู้ของคุณชายถนัดศรีก็ต้องเป็นคนละใบกับใบยี่หร่าแน่ๆ

แต่ว่าคือใบอะไรล่ะครับ

พอลองค้นดู ปรากฏว่า ผักแพว (Vietnamese Coriander) ที่ทางภาคเหนือเรียก ผักไผ่ อีสานเรียก พริกม้า นั้น มีที่เรียกในแถบโคราชว่า “จันทน์โฉม” ด้วย ภาคใต้บางแห่งเรียก “หอมจันทน์” รสชาติผักแพวนั้นเผ็ดร้อน หอมฉุนรุนแรง แถมมีสูตรผัดเผ็ดปลาดุกที่ใส่ผักแพวเพิ่มความฉุนร้อนด้วย เรียกว่าผักแพวก็ถูกใช้ปรุงรสผัดเผ็ดด้วยเช่นกัน

ผมเลยอยากเดาว่า ใบจันทน์ของคุณชายถนัดศรีน่าจะคือผักแพวนี้เองน่ะครับ

ตัวอย่างการเรียกต่างๆ กันไปต่อกรณีใบจันทน์ที่ผมยกมานี้ ไม่ได้แปลว่าจะสามารถชี้ว่าใครเรียกผิดเรียกถูกนะครับ มันบอกได้แต่เพียงว่า ความรับรู้ของคนเกี่ยวกับนิยามพืชใบฉุนสองสามชนิดนี้ มีความต่างกันไปในแต่ละแห่ง

คล้ายๆ อีกกรณีหนึ่ง คือ “กะเพราควาย” ซึ่งผมเพิ่งได้เห็นตัวแปรสำคัญอีกตัวหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง

ตามที่เล่าไว้ตอนแรก คืออันว่ากะเพราควาย กะเพราช้างนั้น รับรู้กันทั่วไปว่าคือใบยี่หร่า ที่มักใส่เอากลิ่นฉุนในผัดเผ็ดหรือแกงป่า ผมจำได้เลยว่า เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เคยกินแกงป่าร้านหนึ่งในเขตตัวเมืองนครนายก เป็นแกงน้ำใสๆ สีแดงๆ ใส่เนื้อวัวสดนุ่มๆ โดยปรุงใส่ใบยี่หร่าในตอนท้าย เมื่อยกมาให้ซดหรือราดข้าวสวยร้อนๆ กินกับน้ำปลาพริกขี้หนู ก็รู้สึกหอมแปลกลิ้นมากๆ ในเวลานั้น

อย่างไรก็ดี พี่อู๊ด – คุณชวิศา อุตตะมัง ชาวเวียงแหง เชียงใหม่ ได้เคยบอกพวกผมว่า กะเพราควายที่เวียงแหงไม่ได้หมายถึงยี่หร่า แต่เป็นพืชตระกูล basil อีกชนิดหนึ่ง ที่แม้มีลักษณะต้น ใบ และดอกคล้ายยี่หร่ามาก แต่ก็ไม่ใช่อย่างเดียวกันแน่ๆ โดยเฉพาะกลิ่นจะต่างกันโดยสิ้นเชิง

กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวเมืองเชียงรุ่ง – สิบสองปันนา สาธารณรัฐประชาชนจีน บ่ายวันหนึ่ง ระหว่างทางที่นั่งรถออกไปเมืองลา คณะเราแวะซื้อภาชนะเครื่องจักสานสวยๆ ริมทาง ผมเองเดินเลี่ยงไปชมทิวทัศน์ข้างถนน และพบว่า พงไม้ข้างถนนลูกรังแดงๆ นั้น มีต้นอะไรอย่างหนึ่งที่หน้าตาน่าจะกินได้แน่ๆ

ลักษณะต้น ทรงพุ่ม ใบ ดอกของมันคล้ายยี่หร่ามากๆ เมื่อลองเด็ดใบมาขยี้ดม พบว่ากลิ่นของมันเทียบเท่าใบกะเพราฉุนร้อนระดับเกรดเยี่ยมๆ ที่ผมเองก็พบในเมืองไทยอยู่เพียงไม่กี่แห่ง

ไม่มีกลิ่นหอมแรงๆ แบบยี่หร่า มีแต่ความฉุนร้อนสาหัสสากรรจ์เท่านั้น น่าพิศวงจริงๆ

ผมหักกิ่งเด็ดใบเอากลับมาที่รถให้ชาวคณะดู ทำให้พี่อู๊ด ซึ่งมาด้วยกันในคราวนี้ด้วย ตื่นเต้นมากๆ

“นี่แหละๆ กะเพราควายแบบเวียงแหงที่พี่อู๊ดบอก ใช่เลยๆ เห็นมั้ยพี่บอกแล้วว่ามันไม่ใช่ยี่หร่าๆ” ดูพี่อู๊ดจะโล่งใจมากที่ทำให้พวกเราเข้าใจเรื่องนี้ได้เสียที ผมเลยเก็บช่อดอกแก่มาหลายช่อ กะว่ากลับไปจะลองเพาะต้นอ่อนปลูกไว้ทำกับข้าวกินที่เมืองไทยดู

เช่นเดียวกับกรณีใบจันทน์นะครับ คือนี่ไม่ได้แปลว่า ใครที่เรียกยี่หร่าว่ากะเพราควายจะเข้าใจผิด มันเป็นการนิยามนามเฉพาะถิ่น กับพืชที่ปรากฏเชื้อพันธุ์ขึ้นงอกงามในแผ่นดินนั้นๆ เท่านั้นเอง

“กะเพราควาย” นี้ พี่อู๊ด บอกว่า แถวบ้านเธอเอามาผัดกับเนื้อวัว แกงคั่วเนื้อ หรือใส่ต้มเนื้อแซ่บๆ จะอร่อยมาก

เดี๋ยวถ้าผมปลูกขึ้นงามดีจนพอจะเอามาปรุงกับข้าวกินได้ ค่อยมาว่ากันอีกทีว่าจะทำอะไรกินดี หรือว่าอยากจะเรียกชื่อมันใหม่ว่าอะไรดีนะครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...