โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กระบี่-ส.จ.บิ๊ก แจงยื่นขอ ส.ป.ก.คุณสมบัติตรงหลักเกณฑ์ (ชมคลิป)

77kaoded

เผยแพร่ 15 พ.ย. 2562 เวลา 06.01 น. • 77 ข่าวเด็ด

กระบี่-“ส.จ.บิ๊ก” แจงยื่นขอ ส.ป.ก.ก่อนลงสมัคร ส.ส.พรรค พปชร. ยันคุณสมบัติตรงหลักเกณฑ์ ขณะเดียวกัน ส.จ.บิ๊ก โอด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ผมผิดไหม

https://youtu.be/9wk5BXuVYAk

กรณีมีกระแสโซเชียล วิพากษ์วิจารณ์การแจก ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเป็นประธานมอบให้กับผู้ผ่านการพิจารณาให้รับที่ดิน 335 ราย เนื้อที่กว่า 4 พันไร่ ในพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในผู้รับมอบ คือ นายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 จ.กระบี่ รับมอบที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 16 ไร่เศษ ซึ่งผู้คนพากันวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องคุณสมบัติว่าเหมาะสมหรือไม่ ต่อมาเจ้าตัวออกมาชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการครอบครองมาก่อนจะมีการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สนง.ปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ เพื่อสอบถามที่มาที่ไปของการพิจารณาคัดสรรผู้มีสิทธิในที่ดินทำกิน ส.ป.ก.4-01 ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ โดยเจ้าหน้าที่ของ สนง.ปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ เปิดเผยข้อมูลว่า การพิจารณาคัดเลือกผู้ที่เข้าเงื่อนไขที่จะรับมอบนั้น ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง กรณีของนายสมัชชา เอ่งฉ้วน ทางคณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตั้งแต่ระดับอำเภอ ซึ่งมี นอภ.เมืองกระบี่ เป็นประธานพิจารณา รวบรวมข้อมูลรวมทั้งการสืบค้นประวัติความเป็นมาของพื้นที่จากผู้นำในชุมชน นำมาประมวลทุกอย่างแล้ว เดิมที่ดินผืนดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจา หมู่ 1 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ พบว่ามีการเข้าไปปลูกปาล์มน้ำมัน ทำการเกษตรอย่าแท้จริง จึงนำมาพิจารณา โดยผู้ยื่นขอคือนายสมัชชา ก็มีคุณสมบัติเข้ากับเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับสิทธิ คือไม่มีที่ดินครอบครองเกิน 50 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายสมัชชา ไม่เคยมีที่ดินครอบครองมาก่อนจริง และคุณสมบัติของนายสมัชชา ก็เข้าหลักเกษณฑ์ของ ส.ป.ก. เพราะเป็นเกษตรกรจริง แต่เรื่องความเหมาะสมเพราะเป็นผู้สมัครของพรรคการเมืองนั้น ยอมรับว่าอาจจะดูไม่เหมาะสม

จนท.ปฏิรูปที่ดิน เผยต่อว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบการทำงานของนายสมัชชา ก่อนจะมาลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ ก็เคยเป็นสมาชิก อบจ.กระบี่ เขต อ.เมืองกระบี่ รู้จักกันในชื่อ ส.จ.บิ๊ก ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำการเกษตร ซึ่งเข้าหลักเกณฑ์ของผู้มีคุณสมบัติถูกต้องทุกอย่าง ทางคณะกรรมการในระดับอำเภอ จึงอนุมัติให้และส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการในระดับจังหวัด ซึ่งมี ผวจ.เป็นประธาน ผ่านการกลั่นกรองในหลายกระบวนการ ซึ่งเกษตรกรแต่ละรายยื่นขอมานานหลายปีแล้ว กระทั่งล่าสุดทางกระทรวงเกษตรฯ สั่งการให้ดำเนินการแจกสิทธิ ส.ป.ก.ให้กับผู้ผ่านการพิจารณา โดยในส่วนของ จ.กระบี่ 8 อำเภอ มีผู้ผ่านการพิจารณาไปแล้ว 335 ราย ส่วนเรื่องความเหมาะสมว่าเป็นคนจน หรือไม่นั้น ตามหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก. ไม่ได้นิยามว่าผู้ที่จะได้สิทธิต้องเป็นคนจน คนแก่ แต่เป็นหลักเกณฑ์ในการนิรโทษให้กับผู้บุกรุกพื้นที่ของรัฐ ทั้งที่บุกรุกเอง และเป็นการบุกรุกที่ดินแปลงใหญ่ สำคัญคือต้องเป็นเกษตรกร แม้จะไม่ทำการเกษตรด้วยตัวเอง แต่ต้องยืนยันได้ว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากการเกษตร โดยกรมป่าไม้จะนำพื้นที่เหล่านั้นมาให้ทาง ส.ป.ก.จัดสรรในกระบวนการปฏิรูปที่ดินทำกิน โดยให้สิทธิครอบครองได้คนละไม่เกิน 50 ไร่ จึงเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มนายทุนเข้ามาถือสิทธิครอบครอง บางรายจะใช้ชาวบ้านมาเป็นนอมินีในการครอบครอง แต่เบื้องหลังกลุ่มนายทุนเข้าไปทำประโยชน์ อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณสมบัติผู้มีสิทธิทำกินนั้น หากตรวจสอบพบในภายหลังว่าผิดเงื่อนไข ทาง ส.ป.ก. ก็มีสิทธิจะสั่งเพิกถอนได้

ทั้งนี้สำหรับนายสมัชชา เอ่งฉ้วน หรือ ส.จ.บิ๊ก เป็นหลานของนายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต รมต.หลายสมัยในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นสมาชิก อบจ.เขต อ.เมืองกระบี่ 3 สมัย ชี้แจงเรื่องที่กำลังเป็นข่าวฉาวว่า ตนยังคงยืนยันว่าที่ดินดังกล่าว เป็นที่ดินที่มีการครอบครองมานานแล้ว ก่อนจะมีการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเมื่อปี 2536 ซึ่งก่อนนี้ทางบ้านของตนซื้อสิทธิในที่ดินดังกล่าวมาจากชาวบ้านอีกทอดหนึ่ง โดยเดิมเป็นสวนยางพารา เนื้อที่ 25 ไร่ ซื้อมาในราคา 2 ล้านบาทเศษ แต่เป็นการถือครองแบบ ภ.บ.ท.5 ต่อมาจึงโค่นยางพารา แล้วนำที่ดินมาปลูกปาล์มน้ำมันแทน กระทั่งมีการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงดำเนินการยื่นขอสิทธิทำกิน โดยยื่นไว้ตั้งแต่สมัยที่นายอาคม เอ่งฉ้วน ลุงของตนเป็น รมช.กระทรวงเกษตรฯ ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐ จะเกิดขึ้น หากตนคิดจะใช้อำนาจในทางที่ผิด ตนคงให้ลุงของตนดำเนินการให้ไปนานแล้ว คนที่ยื่นขอพร้อมๆ กับตนในขณะนั้น ได้รับกันไปหมดแต่ของตนเรื่องยังค้างอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ตนจึงยืนยันว่าที่ดินที่ได้มา ได้มาด้วยความบริสุทธิ์จริง เพราะคุณสมบัติของตนเข้าหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก. การที่เกิดกระแสข่าวออกมาในครั้งนี้ ตนมองว่าอาจจะเป็นการโจมตีกันทางการเมืองหรือไม่ เพราะตอนนี้ใกล้เข้าช่วงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นอกจากนี้นายสมัชชา ยังโพสต์ข้อความชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า “เรียนชี้แจงผู้ที่อยากทราบข้อมูลเนื่องจาก​ที่ที่ผมครอบครอง อยู่ในระเบียบที่จะรับเอกสาร ส.ป.กได้ และการดำเนินการขอที่ดินนี้เกิดขึ้น​ก่อนที่จะมีพรรคพลัง​ประชารัฐ​ และผมจะคิดสมัคร ส.ส.แต่ในเมื่อเข้าเกณฑ์ที่ได้รับจึงยื่นเรื่องตามขั้นตอน ไม่ได้ไปใช้อำนาจพิเศษใดๆ เพราะมีการตั้งกรรมการ​ตรวจสอบกันไม่ต่ำกว่าสามปีจนของคนอื่นได้รับไปหมดแล้ว??? ผิดไหมที่เราเป็นเกษตรกร ผิดไหมเราเป็นหลานผู้ใหญ่บ้าน, ผิดไหมเราเป็น ส.จ.ตัวแทนชาวบ้าน 12 ปี, ผิดเหรอเราเป็นหลาน ส.ส.แล้วเราเหมือนจะรวย… แต่ที่จริงไม่รวย…??? ไม่ผิดนะที่ไม่เคยโกงใครโกงชาติ….. ตามที่ปู..ย่า…ตายายสั่งสอนมา”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของ จ.กระบี่ มีพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ถูกกลุ่มนายทุนเข้าครอบครอง โดยใช้ชาวบ้านเป็นนอมินี คือพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันใน อ.เมือง และ อ.เหนือคลอง กว่า 4 พันไร่ ซึ่งบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ใช้ชื่อชาวบ้านกว่า 400 ราย มาถือสิทธิครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก. จนเกิดการตรวจสอบและต่อมามีการเรียกคืนพื้นที่ ส.ป.ก.ทั้งหมด แต่ทางบริษัทเอกชนรายดังกล่าว ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่ โดยอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดความขัดแย้งกับกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐนำที่ดินมาจัดสรรให้เกษตรกรยากจน เป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานมากว่า 7 ปี ซึ่งทาง สนง.ปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ เตรียมเข้าดำเนินการยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวภายในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ โดยก่อนนี้พื้นที่ดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส เข้าพบกับกลุ่มชาวบ้าน และรับปากว่าจะนำกลับมาจัดสรรให้ชาวบ้านได้เข้าทำกิน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...