โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ปุ๊ ปิยะมาศ อดีตนางเอกร้อยล้าน มุ่งหน้าเข้าทางธรรม สืบทอดพระพุทธศาสนา

The Bangkok Insight

อัพเดต 11 ก.ย 2563 เวลา 05.02 น. • เผยแพร่ 11 ก.ย 2563 เวลา 05.01 น. • The Bangkok Insight

รัสรินทร์ ปริยไชยพงศ์ หรือ ปุ๊ ปิยะมาศ โมนยะกุล อดีตดารานักแสดงที่เคยรับบทนางเอกหลายเรื่องของผู้กำกับกำธร ทัพคัลไลย หลังเกษียณมาหลายปี ปัจจุบันวัย 67 ปี แสวงหาความสุขใจด้วยการทำกิจกรรมกับกลุ่ม ” คนร่วมทาง” ที่นำโดย สุเทพ ประยูรพิทักษ์ นักร้องนักแสดง เจี๊ยบ ปวีณา และนักแสดงอีกหลายท่าน ที่รวมกลุ่มจิตอาสาออกตระเวนซ่อมแซมทาสีบูรณะวัดวาอารามเก่า และ พระพุทธรูปที่ชำรุดทรุดโทรม โดยที่ทางวัดไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น วัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา พร้อมเล่าย้อนอดีตฉายา นางเอกตลกร้อยล้าน ผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์  ผลิตโดย CHANGE2561

แม่ปุ๊ ดูแลรูปร่างหน้าตาได้สวยเหมือนเดิม

ปุ๊ ปิยะมาศ : เราก็ดูแลตัวเองประมาณหนึ่ง ออกกำลังกายบ้าง ส่วนใหญ่ออกโดยธรรมชาติ คือ สิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวัน ก็คือการออกกำลังกาย

ได้รับฉายานางเอกตลกร้อนล้าน มายังไงกับฉายานี้

ปุ๊ ปิยะมาศ : ไม่ทราบว่ามายังไง นักข่าวเขาตั้งให้ คงเป็นเพราะเราเป็นนางเอกตลก คนแรกที่เป็นนางเอกแล้วเล่นบทตลก แล้วคือ รวมๆหนังที่เราเล่นหลายๆเรื่องเป็นร้อยล้านๆ

แต่ในยุคนั้นทำเงินได้ร้อยล้านคือ มหาศาลมาก

ปุ๊ ปิยะมาศ : แต่ที่ได้ฉายานี้มาเราไม่ได้เล่นเรื่องเดียวนะคะ คือ 1 เรื่องเมื่อก่อนได้ 1 ล้านคือ เยอะมาก เพราะค่าดูหนัง 16 บาท 4 บาท

แม่ปุ๊ เล่นกี่เรื่องถึงได้ร้อยล้าน

ปุ๊ ปิยะมาศ : ประมาณ 10 เรื่องได้ค่ะ แต่เราจะทำปีละเรื่องเท่านั้นนะคะ ตอนนั้น เพราะคุณสามีเขาทำอะไรแปลกๆไม่เหมือนใคร อย่างคนอื่นคือ เขาทำหนังแล้วพอเขาทำแล้วได้เงินเขาเปิดเรื่องต่อไปเลย เพราะเขาเห็นว่าเขาขายได้ แต่เราต้องให้ฉายไปก่อน เก็บเงินเก็บทองแล้วไปเที่ยวต่างประเทศก่อน แล้วค่อยกลับมาเปิดเรื่องใหม่ เพราะแบบนี้เราถึงทำปีล่ะ 1 เรื่อง

เห็นแบบนี้ แม่ปุ๊ เคยเล่นบู๊ด้วย ??

ปุ๊ ปิยะมาศ : ใช่ค่ะ เตะต่อย นางเอกคนนี้ชนะเลิศมาก แต่เดี๋ยวไม่ได้แล้วนะคะ (หัวเราะ)

จากหนังบู๊แล้วมายังไงเป็นนางเอกตลก ??

ปุ๊ ปิยะมาศ : คือ สมัยการทำภาพยนตร์ คือคนดูชอบแบบไหนก็จะทำๆออกมาแบบนั้น อย่างช่วงแรกที่แม่ปุ๊ เข้ามาคือ ช่วงหนังชีวิตตอนนั้นก็ต้องร้องไห้หนักมาก ตาบวมตาแดงคนถึงจะดูช่วงนั้นเขาก็ทำกันใหญ่เลยหนังชีวิต สักพักคนเบื่อ ก็เปลี่ยนมาทำหนังบู๊ ก็ทำหนังบู๊ๆกัน เราก็เล่นตามกระแสหนังว่าช่วงนั้นเขาทำอะไรกัน

ปุ๊ ปิยะมาศ : ตอนนั้นทำบู๊เยอะๆเราก็คิดกันว่าเดี๋ยวคนจะเบื่อแน่ๆ แล้วคุณสามีเลยคิดว่ามาทำตลกกันบ้างดีกว่าเนอะ เพราะหนังตลอดคนทำน้อย เราก็ทำหนังตลกจริงๆไม่ใข่แค่เรื่องราวความจริงเลย แต่ต้องให้คนดูรู้สึกว่ามันไม่จริงด้วยนะคะ ต้องให้เขารู้สึกว่ามันคือ คาแรคเตอร์ของเรา

ปุ๊ ปิยะมาศ : พอเริ่มมาทำหนังตลก เราก็ทำแรกๆเราไม่ได้ตลกนะ เราเป็นนางเอกที่เริ่ดเชิด แก่นซ่า  แต่พอทำไป 3 เรื่อง คุณกำธร บอกว่า ปุ๊ เรื่องหน้าตลกนะ เราก็คิดว่าเราจะตลกได้ยังไง หน้าเราก็แบบนี้ คนดูก็คิดว่าเราเรียบร้อยด้วย เขาก็บอกว่าให้เราปล่อยออกมาจากข้างใน ไม่ต้องไปกั๊ก เป็นนางเอกที่เล่นตลกเรื่องแรก มาดามยี่หุบ

เมื่อก่อนคือ นางเอก คือนางเอก พระเอกคือพระเอก แต่พอนางเอกมาเล่นตลก ช่วงนั้นเกิดเป็นกระแสเลย ยากไหมกับบทนี้

ปุ๊ ปิยะมาศ : ตั้งสติอยู่นานนะ เรื่องแรกที่เราเล่นคือ มาดามยี่หุบ เราต้องเข้าใจว่ายี่หุบ คือ ยี่หุบ  เขาเป็นคนฉลาด ใสซื่อ ไม่แสดงออก การเล่นตลกต้องไม่กั๊กไม่ห่วงภาพนางเอก แล้วก็ต้องไม่เจตนาตลกด้วย ต้องทำให้เป็นคาแรคเตอร์ของเราจริงๆ การเล่นตลกเป็นสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว แต่พอเรารู้จุดคือ เราเล่นแล้วไม่กั๊ก เวลาเราส่งบทออกไปหรือสวมบทนั้นอยู่คนดูจะรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติ

แล้วทำไมนางเอกหนังของ คุณกำธร ต้องเป็น ปุ๊ ปิยะมาศ ทุกเรื่องเลย

ปุ๊ ปิยะมาศ : เพราะคุณกำธร คือ สามีค่ะ แล้วคือ จ้างเราไม่ต้อเสียเงินเลย เรือล่มในหนองทองจะไปไหน เราเสียเงินสร้างเอง ไปจ้างคนอื่นเราโกรธนะ เราเลยเล่นเอง

ระหว่างทางที่เราทำหนังปีละเรื่องเราสามารถไปเล่นหนังของคนอื่นได้ไหม ในระหว่างที่รอหนังเรื่องต่อไป

ปุ๊ ปิยะมาศ : ไปได้ค่ะ แต่สามีก็ต้องเป็นคนเลือกบทให้เรา เราไม่อึดอัดนะคะ เพราะหนังของเราเอง เราทำทุกอย่างในกอง เป็นแอดมิน เป็นผู้จัดการกองถ่าย เป็นเด็กกองเลย พอเราถึงกองเราก็แต่งหน้าทำผมเพื่อที่จะเข้าฉาก พอเราถ่ายเสร็จเราก็วิ่งเป็นแจ๋วในกอง ก็เหนื่อยแล้ว เพราะทำทุกอย่าง

แล้วจริงไหมตั้งแต่อดีตยาวนาน เป็นนางเอก รับบทมาก็มาก แม่ปุ๊ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็น ผู้หญิงสวย เลย

ปุ๊ ปิยะมาศ : จริง อันนี้จริงเราแค่รู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนน่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวย มารู้ตัวว่าตัวเองสวย ตอนแก่ แล้วค่ะ คือ เราไปนั่งย้อนดูรูปเราเก่าๆเราก็รู้สึกว่าทำไมตาเราโตจัง ทำไมมันน่ารักจังเลยเหมือนไม่ใช่เรา

ปุ๊ ปิยะมาศ : สมัยก่อนคือเราต้องแต่งหน้าเองเสื้อผ้าหน้าผม คือ เราต้องดูแลตัวเอง

แฟนๆหลายคนคิดถึง ไม่เห็นทางหน้าจอเลย เพราะมีข่าวว่า แม่ปุ๊ จะอำลาวงการไม่รับงานแล้ว และมุ่งหน้าเข้าทางธรรม

ปุ๊ ปิยะมาศ : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะเรายังมีภาระทางโลกอีกเยอะ เราก็รับงาน แต่เพราะเราไม่ได้ค่อยออกไปไหน ทำให้ผู้จัดลืมๆเราไปบ้าง เพราะจริงๆแล้วเราก็ต้องไปเจอให้เขาได้เห็นหน้าบ้าง ถ้ามีคนติดต่อถ้าเวลามันลงตัวเราก็รับนะ เพื่อเอาเงินไปทำบุญ

คนอื่นๆทำบุญก็จะถวายปัจจัย แต่ของ แม่ปุ๊ ไม่เหมือนคนอื่นนอกจากถวายปัจจัยแล้วยังทำอะไรอีก

ปุ๊ ปิยะมาศ : เราลงแรงด้วยคือ กาย วาจา ใจ การทำบุญนี้ คือ ทำได้ยาก คือ เขามีคณะอยู่นะคะ เขาทำมา 20 กว่าปีแล้ว แต่แม่ปุ๊ เพิ่งเข้าไปร่วมกับเขาได้ 2 ปีกว่า ใช่ชื่อคณะคนรวมทาง ใครต่างคนต่างก็ใช้ปัจจัยของตัวเองกัน เราก็นำเงินไปบูรณะตามวัดต่างๆให้กลับมาสมบูรณ์สวยงามเหมือนดั่งเดิม เราทำพระพุทธรูปที่แตกหักทำมาซ้อมทำใหม่ เพราะว่ายิ่งเราทำแล้วเหงื่อออกมาเท่าไหร่ ที่เราทำเพราะเราต้องการให้โบสถ์อันนี้ พระพุทธรูปนี้ อยู่ไปต่ออีก 5,000 ปี วัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาสืบต่อไปค่ะ

https://youtu.be/qS-S5BarYrQ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...