เปิดฉากยุค “อินเทอร์เน็ตลอยฟ้า” สายการบินแข่งปล่อยไวไฟฟรีบนเครื่อง
คอลัมน์ : Market Move
การเล่นเน็ต, ดูยูทูบ, แชตไลน์, ไถเฟซบุ๊ก, เอฟสินค้า หรือแม้แต่ทำงานระหว่างนั่งเครื่องบินอาจไม่ใช่แค่ความฝัน หรือเอกสิทธิ์เฉพาะของผู้มีอันจะกินอีกต่อไป เมื่อจำนวนสายการบินที่ตัดสินใจเปิดบริการ “ฟรี” ไวไฟบนเครื่องบินแบบครอบคลุมถึงผู้โดยสารชั้นประหยัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยแอร์ฟรานซ์เป็นสายการบินล่าสุดที่ประกาศแผนให้บริการฟรีไวไฟบนเครื่องบิน ทุกเครื่องทุกเที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศ รวมถึงทุกชั้นตั๋วโดยสารเริ่มตั้งแต่ปี 2025 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ซึ่งสายการบินสัญชาติฝรั่งเศสย้ำว่า ไวไฟฟรีภายใต้ความร่วมมือกับสตาร์ลิงก์นี้จะเป็นแบบอัลตราไฮสปีด (Ultra High Speed) ที่มีความเร็วสูงทัดเทียมกับไวไฟภาคพื้นดิน สามารถรองรับทั้งการสตรีมคอนเทนต์ และเล่นเกมออนไลน์ได้
ทั้งนี้มีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวคือ ต้องสมัครสมาชิก Flying Blue ที่เป็นระบบสมาชิกสะสมไมล์ร่วมระหว่างแอร์ฟรานซ์กับเคแอลเอ็ม โรยัลดัตช์ แอร์ไลน์ ซึ่งสามารถสมัครได้ฟรี
ความเคลื่อนไหวของแอร์ฟรานซ์สะท้อนเทรนด์ที่รายชื่อสายการบินที่ให้บริการฟรีไวไฟแบบครอบคลุมถึงผู้โดยสารชั้นประหยัดกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนกันยายน 2024 นี้ ซึ่งมีสายการบินประกาศให้บริการฟรีไวไฟเพิ่มถึง 3 รายรวด ประกอบด้วย ยูไนเต็ดแอร์ไลน์, ฮาวายเอียนแอร์ไลน์ และแอร์ฟรานซ์
สำหรับยูไนเต็ดแอร์ไลน์จะเริ่มให้บริการฟรีไวไฟภายใต้ความร่วมมือกับสตาร์ลิงก์ในปี 2025 เช่นกัน พร้อมจุดเด่น อย่างผู้ใช้ 1 คน สามารถใช้ไวไฟกับอุปกรณ์ได้มากกว่า 1 เครื่อง และสามารถควบคุมหน้าจอของที่นั่งตนเองได้ด้วย ทั้งนี้สายการบินสหรัฐมีแผนทยอยติดตั้งระบบในเครื่องบินทุกเครื่องในฝูงบินรวมกว่า 1,000 ลำ
ส่วนฮาวายเอียนแอร์ไลน์จะให้บริการฟรีไวไฟบนเที่ยวบินที่บินเข้าและออกจากฮาวาย โดยในเฟสแรกจะมีเครื่องบินที่รองรับ 42 ลำ แบ่งเป็นแอร์บัส A330s จำนวน 24 ลำ และแอร์บัส A321Neos อีก 18 ลำ ก่อนจะตามด้วยเฟสสองสำหรับเครื่องโบอิ้ง 787-9 จำนวน 2 ลำ และ 787-9s อีก 10 ลำ
สำหรับสาเหตุเบื้องหลังกระแสความเปลี่ยนแปลงนี้มาจาก 2 ส่วน คือ การแข่งขันดุเดือดระหว่างสายการบิน ที่พยายามหาจุดเด่นมาชิงผู้โดยสาร และอีกส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ “สตาร์ลิงก์” บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม จากบริษัทสเปซเอ็กซ์ของมหาเศรษฐี “อีลอน มัสก์” ที่เข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ในวงการธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมจนเกิดการแข่งขัน ทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในสถานที่ที่สัญญาณมือถือเข้าไม่ถึงนั้นง่ายขึ้นและราคาถูกลง
“ลินดา โจโจ้” หัวหน้าฝ่ายลูกค้าของยูไนเต็ดแอร์ไลน์ อธิบายกับ Techcrunch สื่อด้านเทคโนโลยีว่า แม้ไวไฟอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินจะมีมานานแล้ว แต่การวางระบบมีความซับซ้อนสูงมาก ตัวอย่างเช่น เดิมยูไนเต็ดแอร์ไลน์มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 4 ราย คือ โกโก้ (Gogo), ทาเลส (Thales), พานาโซนิค (Panasonic) และเวียแซท (Viasat) ซึ่งต่างมีความสามารถและข้อจำกัดแตกต่างกัน ทำให้แต่ละเที่ยวบินมีบริการอินเทอร์เน็ตต่างกัน บางเที่ยวสามารถดูเน็ตฟลิกซ์ได้ บางเที่ยวทำได้เพียงเล่นเว็บ เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากคู่แข่งอย่างเดลต้าแอร์ไลน์ ที่เริ่มเปิดให้บริการไวไฟฟรีบนเครื่องบินเมื่อต้นปี 2024 ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับตัวและเปิดบริการไวไฟฟรีบ้าง โดยสตาร์ลิงก์เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีการใช้ในหลายสายการบิน จึงลดเวลาขอใบอนุญาตต่าง ๆ ลง
สำหรับสายการบินอื่น ๆ ที่ให้บริการไวไฟทั้งฟรีและมีค่าใช้จ่าย โดยกลุ่มที่ฟรี อาทิ แอร์นิวซีแลนด์ ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ เจ็ทบลู นอวีเจียนแอร์ไลน์ ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ เอมิเรตส์ สิงคโปร์แอร์ไลน์ กาตาร์แอร์เวย์ เตอร์กิชแอร์ไลน์ โดยจะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดแตกต่างกันไป อาทิ ต้องสมัครสมาชิก ซึ่งสมัครได้ฟรีก่อน หรือจำกัดปริมาณข้อมูล ฯลฯ
ทั้งนี้สำหรับการบินไทย ปัจจุบันบริการไวไฟยังจำกัดเฉพาะผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกรอยัลออร์คิดแบบแพลทินัมเท่านั้น โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 7.99 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแพ็กเกจรองรับการแชต ส่วนการเล่นเว็บและโซเชียลจะต้องซื้อแพ็กเกจ 24.99 ดอลลาร์สหรัฐ และหากต้องการดูสตรีมมิ่งจะเป็นแพ็กเกจราคา 39.99 ดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากนี้ต้องรอดูกันว่า จะมีสายการบินใดเปิดบริการฟรีไวไฟเพิ่มอีกบ้าง และในอนาคตไวไฟฟรีบนเครื่องบินจะกลายเป็นบริการพื้นฐานเหมือนไวไฟตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านกาแฟได้หรือไม่
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เปิดฉากยุค “อินเทอร์เน็ตลอยฟ้า” สายการบินแข่งปล่อยไวไฟฟรีบนเครื่อง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net