One Day with นักฉุกเฉินการแพทย์
นักฉุกเฉินการแพทย์ เป็นอาชีพที่เพิ่งมีมาไม่นานในประเทศไทย หรือ 10 กว่าปีมานี้เอง แต่ในต่างประเทศมีค่อนข้างนานแล้ว เป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินนอกโรงพยาบาล
One Day with Me by RAMA Chanel ในวันนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับอาชีพการเป็น นักฉุกเฉินการแพทย์ หรือ Paramedic โดย อ. นฉพ.พลวัฒน์ กานต์ชยาวงศ์ นักฉุกเฉินทางการแพทย์ และอาจารย์ผู้ช่วยหลักสูตรฉุกเฉินทางบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ให้คำแนะนำและอธิบายภารกิจ ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือชีวิตคนในช่วงนาทีความเป็นและความตาย
เริ่มต้นกันเลย ภารกิจในช่วงเช้า อ. นฉพ.พลวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า จะเป็นการเรียนการสอน หรือการทำ Workshop การปฏิบัติการกลุ่มย่อย กลุ่มละ 3 - 4 คน โดยใช้เวลา 10 - 15 นาที
จากนั้นมี Class การสอน ใส่ที่ชวยหายใจ หรือ Endotracheal Tube ให้กับนักศึกษาฉุกเฉินการแพทย์หรือ Paramedic Student
ซึ่งในวันนี้ อ. นฉพ.พลวัฒน์ ใช้เวลาในการสอนถึงเที่ยง จากนั้นก็พักกลางวัน
ในช่วง 13.00 น. เป็นการ Orientate นักศึกษาฝึกงานชั้นปีที่ 4 ผ่านทางออนไลน์ โดยใช้เวลาในการสอนราว 1 ชั่วโมง จากนั้นก็พาเราก็ไปต่อยังหน่วยที่เรียกว่า Ramathibodi Emergency Medical Operation Unit หรือ RAMA EMO Unit
โดยเป็นหน่วยปฏิบัติการทางการแพทย์ ที่นอกจากจะออกรับแจ้งเหตุ ผู้ป่วยฉุกเฉิน ออกไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่นอกโรงพยาบาล ยังมีการประสานเพื่อนำส่งผู้ป่วยเข้าไปสู่ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย
ผ่านมายังห้องที่มีรางวัลต่าง ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่มีมากมาย ล่าสุดจะเป็นรางวัลการแข่งขันที่ญี่ปุ่น ในการแข่งขัน EMS Asia 2023 Championship หรือการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับเอเชีย โดยที่หน่วยปฏิบัติการของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับรางวัลที่ 2 ของเอเชีย
ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน จะเป็นห้องประสานนำส่งผู้ป่วย และเป็นห้องสั่งการเวลาออกเคสฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งมีแพทย์ Consult 24 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้า Inchart ที่จะคอยดู และ Monitor กลับมาที่ศูนย์ที่สามารถ Monitor ได้
นอกจากนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ตำแหน่ง EMD ที่คอยรับสาย รับแจ้งเหตุ แล้วจดประสานข้อมูลต่าง ๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์ของโรงพยาบาลรามาธิบดี จะรับสายด่วน 1669 ที่นี่จะติดกับศูนย์บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ซึ่งจะแบ่งเป็น 12 โซน ใกล้ที่ไหน โรงพยาบาลที่ใกล้จะออกไปรับ ตามความเหมาะสมและนำส่งผู้ป่วย
การอยู่เวรบ่าย ถ้าเป็นเวรที่ศูนย์สั่งการจะมีตำแหน่งที่เป็นหัวหน้าเวร หรือจะเป็นตำแหน่ง EMD ที่คอยรับสาย คอยประสานงาน ก็จะออกไปตามความเหมาะสมกับผู้ป่วย
เวลามีเคสโทรมาที่สายด่วน 1669 ก็รับสายและบันทึกข้อมูลและสั่งการพิมพ์ได้ เมื่อกดออด ทีมที่ Stand by อยู่ 24 ชั่วโมง ก็จะไปที่รถ Ambulance เพื่อออกเคส และเดินทางไปจุดเกิดเหตุ
ยกตัวอย่าง วันนี้มีเคสที่ ผู้ป่วยชาย 1 ราย อายุ 50 ปี มีประวัติการรักษาตัวที่รามามาก่อนหน้า ก็สั่งการทีม ออกไปรับเคส
นักฉุกเฉินทางการแพทย์ Paramedic ของที่นี่มีด้วยกัน 20 คน และมีอาจารย์แพทย์ที่เป็น Staff ด้วย จะมีรถ Ambulance ที่เป็นคันสีเหลืองสำหรับส่วนฉุกเฉินการแพทย์ 3 คัน รวมอุปกรณ์ที่ใช้ในการแพทย์ฉุกเฉินต่าง ๆ
นอกจากนี้มีห้องพักสำหรับการรอปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สามารถพักผ่อน หลังออกเคสแล้วก็จะมารอในห้องประชุม เพื่อทำการรีวิวเคส เพื่อประเมินว่า ส่วนไหนที่ทำได้ดี และส่วนไหนที่จะปรับปรุงบ้าง ก็จะมีการคุยกันหลังจากนั้น
ก่อนจะเริ่มเวรบ่าย ในวันอังคาร และพฤหัสบดี ก็จะมีการออกกำลังกายของเจ้าหน้าที่ ที่เป็นนักฉุกเฉินการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ มาออกกำลังกายร่วมกัน โดยท่าออกกำลังที่นำมาฝึกปฏิบัติ ก็เพื่อการมีสุขภาพกายที่ดี เวลาออกไปเคสข้างนอก เราจะต้องยกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมาก จะสามารถใช้ท่าที่ถูกต้องได้ และจะได้มีสุขภาพกายที่ดี และแข็งแรงตลอดเวลา
จากนั้น ในเวลา 16.00 น. ก็จะมีการขึ้นเวรบ่ายต่อ แต่ต้องเปลี่ยนชุดเสียก่อน
ไปกันที่รถ Ambulance โรงพยาบาลรามาธิบดี สีของรถคันนี้อาจจะแตกต่างจากรถคันอื่น จะเป็นสีตามระเบียบใหม่ของสำนักงานฉุกเฉินแห่งชาติ รถคันนี้ก็จะเป็นไปตามมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด มีมาตรฐานความปลอดภัยครบถ้วนไปดูภายในรถคันนี้กัน
▪️ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่บนรถ Ambulance
หลัก ๆ ก็จะมีอุปกรณ์ไว้ช่วยชีวิต จะแบ่งออกเป็น 2 กระเป๋า คือ อุปกรณ์สำหรับทางเดินหายใจ (Airway) อีกกระเป๋าจะเป็น Circulation เกี่ยวกับเรื่องของความดัน เรื่องของเลือด การให้สารน้ำ หรือน้ำเกลือต่าง ๆ ก็จะอยู่ในกระเป๋าเดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบใช้
การออกเคส 1 ครั้งจะใช้บุคลากร 3 คน โดยที่ 2 คน แบ่งหน้าที่ช่วยกันรักษา อีกคนก็ช่วยขับรถและดูแลความปลอดภัย ว่าในทีมจะต้องมีความปลอดภัยอย่างไรบ้าง หรือว่าจะเคลื่อนย้ายอย่างไร เลือกอุปกรณ์เคลื่อนย้ายให้เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องวัดความดัน ที่สามารถใช้วัดความดันได้และช็อกไฟฟ้าหัวใจได้ เป็นเครื่อง Monitor ลิงก์กับศูนย์สั่งการได้ เป็นระบบแบบ Real Time ข้อมูลไปถึงแพทย์สามารถตัดสินใจช่วยเหลือและรักษาได้เร็วมากขึ้น
ความพิเศษของรถคันนี้ที่คันอื่นไม่มีคือ เปลไฟฟ้าระบบ Hydralic ซึ่งปัญหาของนักฉุกเฉินทางการแพทย์ส่วนใหญ่ เท่าที่ผ่านมา หรือปัญหาของบุคลากรทางการแพทย์ มีปัญหาอาการปวดหลัง ซึ่งเปลนี้ก็ลดภาระของบุคลากรได้บ้าง
จะเห็นได้ว่าการแพทย์ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญ ที่อาจจะใกล้ตัวเรา แต่สมัยนี้มีคนรู้จักมากขึ้น มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
“สำหรับตัวผมเอง ได้รับโอกาส ได้เข้าไป ช่วยกำกับหรือช่วยดูในซีรีส์หลายๆ เรื่อง ที่เป็นซีรีส์ทางการแพทย์ ยกตัวอย่าง ซีรีส์เรื่องรักฉุดใจนายฉุกเฉิน หรือในเรื่องอื่น ๆ ในช่องต่าง ๆ ที่ได้ทำมา ทำให้คนรู้จักอาชีพนี้ หรือรู้จักสาขานี้มากขึ้น
ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้ามาสมัครเรียนได้ หรือว่าค้นหาข้อมูลดูก่อนได้ ว่าตอบโจทย์เราหรือไม่ สามารถจะเป็นฟันเฟืองในระบบนี้ เติมเต็มในระบบได้หรือเปล่า”
▪️ สิ่งที่ต้องมีสำหรับนักฉุกเฉินทางการแพทย์
สิ่งที่ต้องมีประการแรก คือ ต้องเตรียมใจให้ดี เราต้องเจอกับอะไรหลายอย่าง ต้องรอบคอบแล้วก็ปลอดภัย เตรียมใจให้ดีกับอะไรที่อาจจะเกิดขึ้น มีไหวพริบ ปฏิภาณ มีสติตลอดเวลาที่อยู่หน้างาน ทุกคนรู้ว่าเวลาฉุกเฉิน จะล่กไปหมด ทุกคนจะดูตื่นเต้นและทำอะไรไม่ค่อยถูก ดังนั้นต้องเตรียมใจให้ดี
การเข้ามาเรียน จะมีการฝึกจำลองสถานการณ์ ดังนั้นระหว่างที่เรียนนักฉุกเฉินทางการแพทย์ จะมีการสอบปฏิบัติ ในเวลาอันจำกัดสามารถจัดการผู้ป่วยอย่างเหมาะสมได้หรือไม่
อีกอย่างที่ต้องมีคือ “ความเสียสละ” เพราะอาชีพนี้ต้องเข้าไปช่วยเหลือคน ต้องอยู่เวร เช้า บ่าย หรือ ดึก
ช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่เกิดภาวะฉุกเฉินมาก เช่น อุบัติเหตุทางจราจร คนเดินทางออกต่างจังหวัดกันมาก เพื่อให้เขาพ้นจากภาวะวิกฤติ ต้องทำการช่วยเหลือตรงนั้น
▪️ ความประทับใจในการเป็นนักฉุกเฉินทางการแพทย์
“คือการต้องอยู่กับผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่อยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน แม้จะมีเพียง 1% ที่ทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตเพิ่มขึ้น เราถือว่า คุ้มที่จะเสี่ยง ที่จะช่วยให้เขารอดชีวิต
อาชีพนี้ต้องเสียสละ เพราะต้องช่วยเหลือคนและอยู่เวรไม่เป็นเวลา” นฉพ.พลวัฒน์ ระบุ
นฉพ.พลวัฒน์ ลงเวรในเวลา 23.00 น. สิ้นสุดภารกิจของการปฏิบัติหน้าที่อันยาวนานในวันนี้ และเดินทางกลับบ้าน ..
รับชมวิดีโอ : https://youtu.be/Y_uATU_nh7Y?si=tnW2v13Fzw27BUcv