ILM ยกเครื่อง สาขาพัทยา รับอสังหาฯ-ท่องเที่ยวโตก้าวกระโดด
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM ทุ่ม 50 ล้านปรับลุค “สาขาพัทยา” รองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภาคอสังหาฯ ขยายตัวก้าวกระโดด คาดหนุนยอดขายโต 15% ต่อเดือน
[caption id="attachment_77068" align="aligncenter" width="750"]
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)[/caption]
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีแผนมุ่งสู่ Lifestyle Mall ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสินค้า บริการ ควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งทุกมิติ ผ่านการรีโนเวทสาขาและการปรับโฉมสโตร์ใหม่เพื่อสร้าง EXPERIENCE ให้ทุกการช้อปของลูกค้า
โดยปี 2023 อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้แพลนรีโนเวทรวมทั้งสิ้น 2 สาขา โดยโฟกัส Tourist stores เพื่อรองรับเมืองท่องเที่ยวและกำลังซื้อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับ Q3 / 2023 ที่ผ่านมาได้รีโนเวทสาขาภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว
และในไตรมาสที่ 4 ได้รีโนเวทใหม่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาพัทยา โดยขยายกลุ่มสินค้าพร้อมกับเพิ่มโซนใหม่ให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยแนวคิด "The New Experience in Pattaya" สู่การเป็น "The Biggest furniture store in pattaya"…ครบ จบที่เดียว มอบความครบครันทุกไลฟ์สไตล์โซลูชั่นเพื่อการอยู่อาศัย
โดยใช้งบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ให้เป็นที่สุดของเฟอร์นิเจอร์อันดับ 1 แห่งภูมิภาคตะวันออก! จุดหมายใหม่ของคนรักบ้าน และกลุ่มธุรกิจที่ชื่นชอบการตกแต่ง
“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาพัทยา เป็นสโตร์ No.1 ของกลุ่ม Tourist stores ที่มีศักยภาพ และมีโอกาสทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกชาติที่เพิ่มขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวเอเชีย และฝั่งยุโรปตะวันตก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย
จากข้อมูล ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังพัทยาจำนวน 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ราว 1.5 ล้านคน
โดยนักท่องเที่ยวที่น่าจับตาคือชาวรัสเซียที่มีการเข้ามาไทยในปี 2566 ราว 4.68 แสนคน เติบโตกว่า 7% เมื่อเทียบกับปี 2562 (ก่อนโควิด-19) โดยมีปัจจัยที่ส่งเสริมต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวพัทยาที่หลากหลาย ได้แก่ การเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
รวมถึงภาครัฐฯ มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในพื้นที่พัทยาและพื้นที่โดยรอบ ได้แก่ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อสามสนามบิน และโครงการมอเตอร์เวย์สายพัทยา-มาบตาพุด
การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่ และสามารถกระตุ้นให้เมืองพัทยามีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าพื้นที่เมืองพัทยาเพิ่มขึ้นจาก 100 ตารางกิโลเมตรในปี 2523 เป็น 215 ตารางกิโลเมตร ในปี 2565 ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยาเติบโต โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม
สอดคล้องกับข้อมูลว่าอสังหาริมทรัพย์ระบุว่าปี 2566 มีผู้ซื้อคอนโดมิเนียมมากที่สุด คิดเป็น 55% ของยอดขายทั้งหมด และรองลงมาคือโครงการบ้าน มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 20% ในขณะที่วิลล่าและทาวน์เฮ้าส์ได้รับความนิยมน้อยกว่า มีส่วนแบ่งทางตลาดเพียง 15% และ 10%
สำหรับ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาพัทยา ถือเป็นสาขาที่มีกลุ่มลูกค้าหลากหลายทั้งคนในพื้นที่ ผู้ประกอบการอสังหาฯ-,ภาคการท่องเที่ยว และยังรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลายประเทศ ทั้งชาวยุโรป รัสเซีย จีน เวียดนาม อินเดีย ฯลฯ ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่หลากหลายในเมืองพัทยาและละแวกใกล้เคียง ทั้งรูปแบบท่องเที่ยวทางทะเลและเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
นอกจากนี้ยังรวมถึงสิทธิ์การเดินทางเข้าประเทศที่สะดวกขึ้น หลังรัฐบาลขยายระยะเวลาให้พำนักในไทยจาก 30 วัน เป็น 90 วัน ( 1พ.ย.66 – 30 เม.ย.67) จากเดิมวีซ่าฟรีอยู่แล้ว ก็เป็นปัจจัยเอื้อให้ดีมานด์นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสอดคล้องกับฐานข้อมูลของลูกค้าสมาชิก Joy Card ที่พบว่ามีจำนวนลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติที่กลับมาช้อปที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาพัทยา เพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติที่เติบโตสูงถึง 38% เรียกว่าสูงเกินคาด และจากสัญญาณบวกจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาจึงนำไปสู่การรีโนเวทปรับโฉมใหม่ของสาขาพัทยา
ทั้งนี้ได้โฟกัสการเพิ่มสัดส่วนเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น โดยเสริมทัพด้วยการเพิ่มพื้นที่ 100% สำหรับสินค้ากลุ่ม Personalized Furniture ให้ตอบโจทย์การเลือกดีไซน์ได้ด้วยตัวเอง และขยายพื้นที่โซน Kitchen เพิ่มอีก 50% เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น พร้อมเพิ่มโซน Design Studio ส่งมอบบริการด้านดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าของใช้ ของแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ BANANA ให้ช้อปครบ จบที่เดียว ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายในสโตล์ Cozy โดยใช้เทคนิคการจัดวางที่ Flexible และการดิสเพลย์ เพื่อสร้างอินสไปร์การแต่งบ้านและต้อนรับ High-season ด้วยเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีกับ “Gift of Happiness” ด้วย Magic X’mas Tree & Ornament
ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ช้อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เชื่อมั่นจะสามารถผลักดันยอดขายโต ราว 15% / เดือน หลังจากการปรับโฉมสโตร์