“B-IR-FOF” อีกหนึ่งกองรีท-อินฟาฟันด์... เติมเต็มพอร์ตการลงทุนทางเลือก ดัก “ดอกเบี้ยขาลง” !!!
Wealthy Thai
อัพเดต 22 พ.ย. เวลา 19.05 น. • เผยแพร่ 01 มี.ค. 2567 เวลา 11.01 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดากองทุนติดดาว: กลับมาอีกครั้งกับคอลัมน์ประจำสัปดาห์อย่าง “กองทุนติดดาว”กองทุนที่ได้เรทติ้ง “Morningstar 5 ดาว”จัดเป็นกองทุนหัวกะทิที่มี ‘ผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยง’(Risk-adjusted returns)ดีสุด 10% แรกของกลุ่ม ตามสูตรลับเฉพาะของคนกลางอย่าง “Morningstar”ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดอันดับกองทุนรวมที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก
ครั้งนี้เป็นกองทุนในกลุ่ม “Fund of Property Fund - Thai and Foreign” ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน “Property/REITs/Infra” โดยลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของ NAV
กองรีทหนึ่งสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ช่วยเป็นเครื่องมือในการช่วยลดความผันผวนให้แก่พอร์ตการลงทุนที่นักลงทุนหลายๆ คนมักจะเลือกลงทุนเป็นอันดับต้นๆ เหมือน “หุ้น Value” ที่มีผลตอบแทนเงินปันผลกลับมาให้อย่างสม่ำเสมอในระหว่างที่ลงทุน
แต่ความหลากหลายของกองรีทที่ลงทุนในแต่ละประเภทของสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม โรงงานให้เช่า โกดังสินค้า และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ก็มักทำให้นักลงทุนต้องชั่งใจในการลงทุนด้วยเช่นกัน เพราะแต่ละอสังหาริมทรัพย์ก็มีจุดดี-ด้อยแตกต่างกันออกไป การไปลงทุนผ่านรูปแบบ “กองทุนรวม” ให้ผู้จัดการกองทุนดูแลให้จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูล “กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์”** ที่น่าสนใจมาแบ่งปันให้แก่ผู้อ่านกัน
“B-IR-FOF” ลุย “กองอสังหาฯ/REIT/Infra” เติมเต็มพอร์ตการลงทุนทางเลือก
โดยกองทุนที่เราจะหยิบยกขึ้นมาแนะนำกันในครั้งนี้ มีชื่อว่า“กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์” หรือ “B-IR-FOF” ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ ‘บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด’ จนผลการดำเนินงานมีความโดดเด่นก็ได้ถูกองค์กรณ์อย่าง “มอร์นิ่งสตาร์” จัดเรทติ้งยกให้เป็นกองทุน “5 ดาว”
ด้านรายละเอียดของกองทุนนั้น จะเป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งได้ถูกจัดตั้งหรือจดทะเบียนขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2562 จนถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567) มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 1,313,089,869 บาท และมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 8.47 บาทต่อหน่วย
“สำหรับนโยบายจะลงทุนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
จุดเด่นของ ‘B-IR-FOF’ คือ ทำให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่มีรายได้จากธุรกิจที่มีศักยภาพได้หลากหลายมากขึ้น เช่น สำนักงาน ศูนย์การค้า โรงงาน คลังเก็บสินค้า เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ โรงแรม ศูนย์การประชุม ศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ
หน้าตาพอร์ต…สไตล์ “หุ้นขนาดกลาง” ที่เป็น “หุ้นค่า”
จากนโยบายลงทุนทำให้หน้าตาหุ้นในพอร์ตของกอง ‘B-IR-FOF’ มีบุคลิกของหุ้นสไตล์ “หุ้นขนาดกลาง” ที่เป็น“หุ้นคุณค่า” (Value) เป็นสำคัญ
หน้าตาพอร์ต (ณ วันที่ 31 ม.ค. 24) มีการลงทุนในสิงคโปร์ 45.31% โดย 5 กองทุนที่ลงทุนมากสุด ประกอบด้วย
CapitaLand Ascendas REIT 8.68%
CapitaLand Integrated Commercial Trust 8.00%
WHART 6.97%
FTREIT 6.62%
Mapletree Pan Asia Commercial Trust 5.29%
“ในด้านผลการดำเนินงานของกองทุน B-IR-FOF ตั้งแต่จัดตั้งกอง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 24) จะเฉลี่ยอยู่ที่ -3.27% ต่อปี (ดัชนีชี้วัด -3.45% ต่อปี) ขณะที่ความผันผวนของผลการดำเนินงานอยู่ที่ 11.91% ต่อปี (ดัชนีชี้วัด 13.18% ต่อปี) แต่อย่างไรก็ดีในช่วง 5ปี กองทุนเคยมีผลขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown)อยู่ที่ -28.59%”
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวยังได้ให้นักลงทุนสร้างโอกาสรับผลตอบแทนนอกจากส่วนต่างราคาซื้อขาย ก็คือ “เงินปันผล” ที่กองทุนมีจ่ายไม่เกินปีละ 4 ครั้ง หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนขึ้นมาได้มีการปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 1 ครั้ง รวมเป็นเงิน 0.075 บาทต่อหน่วย
เงินลงทุนขั้นต่ำ “ครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” เพียง 500 บาท เท่านั้น
สำหรับเงื่อนไขการซื้อขั้นต่ำของหน่วยลงทุน “B-IR-FOF” ใน “ครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” จะอยู่ที่ 500 บาท ขณะที่การขายหน่วยลงทุนนักลงทุนสามารถทำได้โดยไม่มีกำหนดเงื่อนไขการขายขั้นต่ำและยอดคงเหลือขั้นต่ำ แต่ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืนจะได้ภายใน 5วันทำการนับตั้งแต่วันทำการถัดจากวันทำการขายคืนหน่วยลงทุน (T+5)
ส่วนรายละเอียดการซื้อขายในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายๆ โดยผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ผ่านสาขาธนาคารกรุงเทพ, บริษัทจัดการ, ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน และในส่วนของช่องทางออนไลน์ อย่าง โมบายแอพฯ Bualuang iBanking และ Bangkok Bank Mobile Banking
“หากดูจากผลตอบแทนในอดีตจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ต้นก็อาจจะต้องแบกรับผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาซื้อขายหน่วยลงทุน ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ที่สร้างผลกระทบต่ออสังหาริมทรัพย์ แต่หากจับจังหวะลงทุนหรือลงทุนในเวลาที่เหมาะสมก็อาจจะตัวช่วยในการสร้างผลตอบแทนได้เช่นกัน โดยเฉพาะในจังหวะที่ดอกเบี้ยผ่านจุดต่ำสุดและเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงอีกครั้ง”
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน