โกลเบล็ก ชี้เฟดลดดอกเบี้ยสูง กนง.เดินเกม คง-ลด
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 8 ธันวาคม 2568 เวลา 21.58 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น -โกลเบล็ก ชี้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ยส่งท้ายปีสูง ขณะที่คาดกนง. รอบนี้แนวโน้มคง-ลดดอกเบี้ย จากผลกระทบน้ำท่วมหลายพื้นที่ พร้อมคาดปี 2569 โอกาสปรับลดลงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง จากอัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับต่ำมาก แนะรัฐ ออกนโยบายกระตุ้นตรงจุด ดีกว่าลดดอกเบี้ยอย่างเดียว หวั่นกระทบเงินทุนไหลออก พร้อมชูหุ้นเด่นรับประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง
นางวิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยกับ “ทีมข่าวหุ้นวิชั่น” ว่า ประเมินสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยโลกและไทย ซึ่งจะผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดทุนในระยะต่อไป โดยมองทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีโอกาสลดดอกเบี้ยสูงถึง 89% ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะมีการประชุมในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 และจะสามารถทราบผลการประชุมในช่วงเช้าวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ตามเวลาของประเทศไทย
ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ ซึ่งตัวชี้วัดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้คือ FedWatch Tool ของ CME Group ที่ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า โอกาสในการที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นสูงถึง 89% โดยมีปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ได้แก่
1. ตลาดแรงงานชะลอตัวในสหรัฐฯ โดยตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัว และมีรายงานตัวเลขติดลบเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นสัญญาณสนับสนุนการลดดอกเบี้ย
2. เงินเฟ้อที่แผ่วลง ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯแสดงให้เห็นความแผ่วลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตัวเลขเงินเฟ้อยังไม่ถึงเป้าหมายที่ Fed ตั้งไว้ที่ 2%
นอกจากนี้ เครื่องมือสำคัญที่ Fed ใช้ในการบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE)
*ดอกเบี้ยลด ต้นทุนการเงินถูกลง
นางวิลาสินี กล่าวว่า ตามหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น การลดอัตราดอกเบี้ยมักจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ในมิติของเศรษฐกิจมหภาค การลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นการลดต้นทุนทางการเงิน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกู้เงินเพื่อนำไปใช้ในการผลิต อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังต้องจับตาเรื่อง ฟันด์โฟลว์ (Fund Flow) เนื่องจากเงินทุนมักจะไหลไปยังแหล่งที่ให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยที่สูงกว่า
*จับตาทิศทางดอกเบี้ย กนง.
สำหรับการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ซึ่งที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ย หรือ แนวโน้มปรับลดลง แม้ว่าในอดีต กนง. เคยมีการตัดสินใจที่สวนกระแสกับ Fed มาแล้ว แต่คาดว่ารอบนี้ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน
ทั้งนี้ ปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลต่อการพิจารณาของ กนง. ได้แก่ ผลกระทบจากภัยพิบัติ ประเด็นเรื่องน้ำท่วมที่กระทบในหลายพื้นที่ , มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ เนื่องจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ที่สภาพัฒน์ประเมินไว้ยังไม่ถึง 1%
*แนวโน้มดอกเบี้ยในปี 2569
คาดการณ์ว่าทิศทางจะยังคงอยู่ในรูปแบบ "คงที่" หรือ "ลดลง" โดยมีโอกาสที่จะปรับลดลงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกรอบเงินเฟ้อของไทย ที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้าต่ำมาก อยู่ที่ 0-1% โดยค่ากลางอยู่ที่ 0.5%
อย่างไรก็ตามนโยบายทางเลือกภาครัฐฯควรกระตุ้นตรงจุด ดีกว่าลดดอกเบี้ย แทนที่จะพึ่งพาการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจเลือกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่มุ่งเป้าหมายโดยตรงมากกว่า เหตุผลคือการลดดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้เกษียณอายุที่มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก และยังอาจทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุน (Fund Flow) ได้
*หุ้นเด่นรับดอกเบี้ยขาลง
หากแนวโน้มดอกเบี้ยยังคงเป็นขาลง หรือ มีการปรับลดลงจริง กลุ่มแรกที่ได้รับประโยชน์โดยตรงคือ กลุ่มธุรกิจไฟแนนซ์ เนื่องจากต้นทุนการเงินจะลดลง หุ้นที่ถูกระบุว่าเป็นประโยชน์ ได้แก่ หุ้น SAWAD , TIDLOR , KTC และ MTC
นอกจากนี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ทางอ้อม เพราะต้นทุนการกู้เพื่อซื้อบ้านจะลดลง อย่างไรก็ตาม การเติบโตของกลุ่มนี้อาจถูกจำกัดจากระดับภาระหนี้ครัวเรือนของไทยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจทำให้การขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านถูกปฏิเสธได้
https://youtu.be/Eju2qSfMNfw?si=SlIaWRcyHYkNK9th
รายงานโดย กานต์นที ใยระย้า