‘เทพมนตรี’ ยืนยัน MOU43 เถื่อน เปิดโอกาสให้เขมรขึ้นมายึดดินแดนไทย
9 ธ.ค. 2568- นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความว่า MOU43 เถื่อน เปิดโอกาสให้เขมรขึ้นมายึดดินแดนไทย
เส้นเขตแดนบนเทือกเขาพนมดงรักต้องเป็นไปตาม อนุสัญญาปีค.ศ. 1904 ที่ใช้สันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งในเวลาต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งคณะกรรมการผสมเขตแดนสยาม-อินโดจีนฝรั่งเศส กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศรวมถึงกรมแผนที่ทหารบก กระทรวงกลาโหมในคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อ พ.ศ.2505 ได้ศึกษาและลงรายละเอียดเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรในคำท้วงติงต่อฝ่ายกัมพูชา
โดยอธิบายว่าเส้นเขตแดนบริเวณเทือกเขาพนมดงรักนั้นให้ใช้สันปันน้ำและสันปันน้ำนั้นจะต้องไปสุดเส้นเขตที่ขอบหน้าผามิฉะนั้นแล้วจะไม่สอดคล้องกับ สนธิสัญญาที่ไทยทำกับฝรั่งเศสในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ต้องการให้มีไมตรีต่อกันอย่างถาวรสอดคล้องกับหลักของการปกครองเพราะการกำหนดเส้นเขตจะต้องมีความชัดเจนตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการผสมได้ดำเนินการเอาไว้ เขตแดนตอนเทือกเขาพนมดงรักจึงต้องใช้ขอบหน้าผาเป็นเกณฑ์ เพราะพื้นที่ทั้งหมดต้องไม่เหลือพื้นที่ระหว่างสันปันน้ำมาถึงขอบหน้าผาซึ่งในบางพื้นที่จะมีระยะถึง 1- 2 กิโลเมตร
แต่เมื่อมี MOU43 กลับเปิดโอกาสให้กัมพูชาขึ้นมาใช้พื้นที่ระหว่างสันปันน้ำกับขอบหน้าผา ยึดเป็นที่ตั้งทางทหารและรวมถึงนำเอาคนกัมพูชาขึ้นมาตัดไม้ทำลายป่าในเขตอุทยานต่างๆที่อยู่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชานี่คือเหตุผลอันหนึ่งที่ที่เป็นประเด็นปัญหา
MOU 43 เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายกัมพูชา ทำให้เราสุ่มเสี่ยงสูญเสียดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
MOU43 คือปัญหาใหญ่ของชาติ.