‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ รับอยากมีลูก ขอรีวิวชีวิตคู่หลังแต่ง ‘ใหม่ ดาวิกา’ ย้ำยังหวาน!
นับเป็นงานวิวาห์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดแห่งปีไปอย่างอบอุ่นและโรแมนติก เมื่อซูเปอร์สตาร์สาว "ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่" ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับพระเอกหนุ่มมากความสามารถ "เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่ายแต่หรูหรา และอบอวลไปด้วยความรักของครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น
ล่าสุดได้เจอหนุ่ม เต๋อ ฉันทวิชช์ ในงานแถลงข่าวรายการ "3Fight3 Basket Boy Season 2" ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจรีวิวชีวิตหลังแต่งงานให้ฟัง พร้อมเผยอาการป่วยที่เกิดขึ้นเมื่อภรรยาไม่อยู่ใกล้ ๆ โดยหนุ่มเต๋อเผยว่า
“ช่วงนี้ป่วยนิดหน่อยครับ ไอ เนื่องจากอากาศเปลี่ยน แล้วก็ฝุ่นเยอะด้วย แต่ปกติก็ไม่ได้ป่วยบ่อย อ้อนภรรยาครับ แต่ตอนนี้ภรรยาอยู่เมืองนอกครับ จิตใจเลยป่วย มีผลกระทบเยอะเลย ก็ต้องรอเขาจะกลับมาถึงจะหาย คือเขาเป็นยาใจสำคัญในชีวิตครับ มันเหมือนขาด มันเกินครึ่งของชีวิตแล้ว ถ้าให้รีวิวชีวิตหลังแต่งงาน จริงๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนเยอะนะครับ คล้ายๆ เดิม เพราะโดยทั่วไปก็อยู่ด้วยกันเยอะอยู่แล้ว แล้วพอแต่งงานก็เหมือนเปลี่ยนสถานะเฉยๆ ทุกอย่างก็ยังคล้ายเดิม ยังสวีตเหมือนเดิม
ส่วนพิธีการที่ผ่านมานั่นคืองานแต่งแล้วครับ แต่งแบบเล็กๆ แต่ก็เดี๋ยวคิดดูอีกที อาจจะมีนัดเพื่อนๆ หรือพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันอีกสักครั้งหนึ่ง แต่งานใหญ่ๆ ไม่มีแล้วครับ 9 พฤศจิกายน เป็นฤกษ์ที่เลือกไว้ตั้งแต่แรก รู้สึกว่าเป็นวันที่ดี แล้วก็ดีมาก เพราะช่วงนั้นฝนตก มีวันนั้นวันเดียวที่ไม่ตก งานก็จัดบ้านของน้องใหม่ที่กรุงเทพฯ เลยครับ แต่คนจะงงนิดหนึ่ง เพราะพรีเวดดิ้งไปถ่ายเขาใหญ่ แล้วลงหลังงานแต่ง ส่วนแขกที่มาร่วมงานก็ประมาณ 20 นิดๆ แต่จะมีพี่ฮิวโก้ (จุลจักร จักรพงษ์) มาร้องเพลง แขกบางส่วนก็จะมีงานเช้ากับงานเย็น งานเช้ายิ่งน้อยไปใหญ่เลย มีไม่ถึง 10 คน
สำหรับที่ “มิ้นต์ ชาลิดา” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงงานแต่งของเรา ที่มีบรรยากาศเรียบง่ายจริง แต่ใช้ผ้าม่านตกแต่งไปเยอะมาก คือเอาผ้ามาแรปที่บ้าน ให้เป็นเทกเจอร์คล้ายๆ เค้กแต่งงานเป็นชั้นๆ แล้วเราก็มีความเห็นร่วมกัน รู้สึกว่างานแต่งอยากจะมีแต่คนที่เราสนิท คนที่อยู่ในชีวิตเราจริงๆ แล้วน้องใหม่ก็จะมีเวลาพูดถึงทุกคนเลย ในงานเราสามารถพูดถึงทุกคนได้ มีช่วงเวลาที่พูดถึงเขา ว่าเขาเป็นคนสำคัญในช่วงชีวิตเรา ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเชิญแขกมาเยอะ เราอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง แล้วพอแต่งที่บ้านด้วย ก็เลยอยากเชิญคนพิเศษที่อยู่ในชีวิต ส่วนมีคนน้อยใจหรือเปล่า ที่ไม่ได้ถูกเชิญมางาน ไม่ทราบเลยครับ แค่รู้สึกว่า บุคคลที่อยู่ในงาน เป็นบุคคลที่เรารักและเคารพอยู่แล้ว แต่ว่าคนอื่นเราก็รักและเคารพเหมือนกัน เราก็จะมีส่งข้อความไป เขาก็จะส่งข้อความมาคุยกัน แล้วเป็นช่วงไว้อาลัยพอดี แขกน้อยก็เป็นเรื่องที่ดี แล้วก็ไม่อยากมีโมเมนต์ฉลองอะไรขนาดนั้น รู้สึกว่าอยู่กับคนใกล้ชิดแล้วพูดคุยกันดีกว่า แล้วช่วงนั้นพอดีมีโรคจิตตามน้องใหม่ด้วย เลยต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยนิดนึง ประเด็นคือแต่งในบ้านด้วย
หลายคนยกให้เป็นงานแต่งแห่งปี ก็ขอบคุณครับ คือเขามีงานในฝัน ในแบบที่เขาชอบ ข้อดีคือเขาไม่ได้อยากได้งานใหญ่โตอลังการ เขารู้ว่าเขาชอบอะไร เขาก็ทำทุกอย่างในสิ่งที่เขาชอบ เราก็คุยกันตลอด รายละเอียดอะไรต่างๆ อาจจะใหญ่ แต่ว่าตัวงานเองก็แต่งในบ้านแบบอบอุ่น ชุดเจ้าสาววันนั้นก็มี 2 ชุด ส่วนคำมั่นสัญญาก็ไม่ได้มีอะไรเยอะเลย ผมแค่บอกว่าหลังจากนี้จะดูแลเขาให้ดี จะสปอยเขาครับ แต่น้องเขาก็ไม่ค่อยขออะไรนะครับ ส่วนเราอาจจะมีปากมีเสียงเล็กน้อย แต่ถ้ารู้ตัวว่ามันไม่ได้ ก็จะเฟดตัวเองครับ พอบอกว่าจะสปอยทุกอย่าง เขาก็ยิ้มดีใจ
สำหรับแพลนชีวิตคู่ จริงๆ ผมไม่ได้คิดแพลนอะไรเยอะแยะมากมาย แค่รู้สึกว่า ณ เวลานี้ เราอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการแล้ว เป็นสามีภรรยากันแล้ว แค่นี้มีความสุขแล้วครับ หลังจากนี้ก็จะเป็นสเต็ปต่อๆ ไป ว่าจะคิดเรื่องมีลูกไหม จะไปไหนกัน จะอยู่ด้วยกันแบบไหน ก็เป็นเรื่องของอนาคต เรื่องทะเบียนสมรส ก็ไม่ได้จดครับ ยังไม่ได้คิดเลย ส่วนเรื่องลูกมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาครับ บางทีก็อยากมี บางทีก็ยังไม่พร้อม สักพักก็อยากมี ช่วงนี้เป็นช่วงที่ค่อนข้างอยากมี จริงๆ หลักคืออยู่ที่ค่ายแหละ ถ้าค่ายเรามั่นคง มันก็จะสบาย ถ้าค่ายยังมีอะไรต้องทำเยอะ มันก็จะเหมือนเพิ่มภาระอีกนิดหนึ่ง
ถามถึงเรื่องฮันนีมูน ยังเลยครับ อาจจะปีหน้า เรือนหอที่จะสร้างก็ปีหน้า ทุกอย่างเริ่มปีหน้าหมด ผมก็แต่งเข้าเหมือนเดิม ทุกอย่างลงตัว ไม่ต้องปรับอะไรอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะมีแต่เขาขอผมนะ เรื่องเวลา ผมยุ่ง ส่วนเขางานเยอะ แต่จะมีช่วงว่าง แล้วก็ว่างไม่ตรงกัน แต่พออยู่บ้านเดียวกัน ก็ได้เจอกันบ่อย ปัญหางอนกันเรื่องเวลาก็ไม่ค่อยมีแล้วครับ น้อยลงแล้ว แต่ก็มีเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่เขาจะงอนผม เพราะผมไปทำงาน ทำโน่นนี่ เล่นบาส ถามว่าชินกับคำว่าสามี ภรรยาหรือยัง ชินแล้วครับ สรรพนามที่เรียกกันก็เหมือนเดิม แต่เมียจ๋าก็มีบ้าง ถามว่าเขาเรียกเราว่าอะไร ก็มีหมดครับ บางทีแกล้งๆ ก็มีผัว สามี มีทุกอย่าง”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก terchantavit