โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

“สสส.-จุฬาฯ”ประกาศจับมือสู้ศึก “โลกรวน” คืนธรรมชาติให้ลูกหลาน หลังพบปะการังฟอกขาวพุ่ง 30% สัญญาณอันตราย ภัยเงียบทำลายฮอร์โมน-เสี่ยงมะเร็ง

สยามรัฐ

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

น่าห่วง! ไทยเผชิญปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเล ผลสำรวจเผย ปะการังฟอกขาวสูง 30% ปี 67 พบคนไทย ได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย พุ่ง 50,000 ชิ้น เสี่ยงป่วยโรคทางเดินอาหาร-ระบบฮอร์โมน-เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง สสส. สานพลัง สกสว.-จุฬาฯ MOU เร่งพัฒนาแผนจัดการทรัพยากรชายฝั่ง-ภัยพิบัติ พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืน

วันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 09.30 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสนับสนุนการบริหารทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งและการจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ชายฝั่ง ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area Based) และการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs)

โดย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ไทยกำลังเผชิญปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน เช่น ขยะทะเลที่เพิ่มมากขึ้นและพิษจากไมโครพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาใหม่ จากข้อมูลกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ปี 2567 โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พบว่า คนไทยได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายประมาณ 50,000 ชิ้นต่อคนต่อปี เสี่ยงป่วยโรคทางเดินอาหาร ระบบฮอร์โมน และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งสาเหตุจากพลาสติกไหลจากแม่น้ำลงสู่ทะเล และสัตว์น้ำบริโภค ส่งผลให้ไมโครพลาสติกปนเปื้อนห่วงโซ่อาหาร ขณะที่ภาคใต้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งยาวกว่า 823.06 กิโลเมตร สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งปลูกสร้างบริเวณชายฝั่ง ส่งผลต่อชุมชนและท้องถิ่น ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเพิ่มขึ้นสูงถึง 30% ของพื้นที่ปะการังทั่วประเทศนอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้เกิดภัยพิบัติ เช่น ปรากฏการณ์ Rain bomb ที่ทำให้ฝนตกหนักฉับพลันในพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย ทั้งหมดนี้ล้วนกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และระบบนิเวศ

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือกับ สกสว. และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ เพื่อร่วมขับเคลื่อน 1.ส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมด้านการบริหารทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2.บูรณาการองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมขับเคลื่อนทางสังคม 3.พัฒนาศักยภาพชุมชนให้เกิดการจัดการอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกับภาครัฐและเอกชน 4.สร้างความร่วมมือระหว่างกองทุนภาครัฐและภาคีเครือข่าย เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดย สสส. ร่วมสนับสนุนใน 4 มิติ 1.สร้างเสริมสุขภาพควบคู่การขับเคลื่อนและสนับสนุนการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม 2.พัฒนายุทธศาสตร์ด้านการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมให้เชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ของ สสส. 3.ส่งเสริมการรวมกลุ่มผู้ประกอบการและสร้างเครือข่ายในพื้นที่ และ 4.สนับสนุนกิจกรรมขับเคลื่อนในพื้นที่ชายฝั่ง เพื่อให้การจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งเกิดประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกลไกการทำงานที่เข้มแข็ง

ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีบุคลากรทั้งอาจารย์และนักวิจัยจากหลายคณะร่วมขับเคลื่อนงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง เช่น สาขาธรณีวิทยาและวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมแหล่งน้ำและวิศวกรรมสำรวจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภูมิศาสตร์กายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์ คณะอักษรศาสตร์ ตลอดจนสถาบันวิจัยสังคมและสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน โดยใช้งานวิจัยขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ผ่านมาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดให้มีการเรียนการสอนและการทำงานวิจัยที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล (SDGs) ความร่วมมือกับ สสส. และภาคีเครือข่ายในครั้งนี้ จะตอกย้ำถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมในมิติต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า สกสว. มีภารกิจในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและกองทุนต่างๆ เพื่อส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการพัฒนาบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย โดยเป็นตัวกลางในการประสานงานหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัย (PMUs) หน่วยงานทุนสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund) หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และพัฒนาระบบฐานข้อมูลด้านการวิจัย สำหรับการสนับสนุนการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย นอกจากนี้ ยังมุ่งเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ด้านการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง โดยบูรณากับแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...