“ดาด้า” เตรียมผ่าตัด! หลังพบริดสีดวงที่เส้นเสียง ต้องหยุดพูด 3 สัปดาห์
ดีเจ.ดาด้า เตรียมผ่าตัดริดสีดวงที่เส้นเสียง หมอให้งดใช้เสียง 3 สัปดาห์ และต้องฝึกการออกเสียงใหม่ เจ้าตัวเครียด หยุดงานไม่เท่าไหร่ หยุดพูดนี่สิ ลำบาก
ได้เวลาซะที “ดีเจ ดาด้า” วรินดา ดำรงผล เผยหลังจากเจ้าตัวต้องเผชิญอาการเสียงแหบมาตลอดเกือบทั้งปี เนื่องจากต้องใช้เสียงในการทำมาหากินเป็นหลัก ล่าสุดหมอแนะนำให้ผ่าตัด เนื่องจากตรวจพบริดสีดวงที่เส้นเสียง หลังผ่าต้องฝึกวิธีการออกเสียงใหม่ รวมไปถึงประเด็นถูกทักว่าทำไมผอมลงจนน่าตกใจ
"ต้นปีนี้กะว่าจะต้องหยุดงาน เป็นริดสีดวงที่เส้นเสียง มันจะทำให้เราเสียงแหบ ปกติก็จะเกิดกับนักร้อง แต่ตอนนี้พิธีกรก็เป็น เพราะว่าเราไลฟ์ในติ๊กต่อกบ่อยๆ เราใช้เสียงทั้งวัน ก็เริ่มหาหมอเป็นประจำ เรามีงานติดกันสามถึงสี่วัน สักพักเสียงเราหายแล้ว แล้วล่าสุดหมอก็บอกว่ามันเป็นริดสีดวงที่เส้นเสียง มันบวมเลย ก็อาจจะต้องผ่าตัด อาจจะใช้วิธีในการส่องกล้องและเลเซอร์ ซึ่งเส้นเสียงมันบวมมากๆ และเราก็เสียงแหบแล้ว“
“ถามว่าอันตรายไหม คือถ้าปล่อยไว้นานๆ มันก็จะทำให้เสียงเราหาย ก็เลยพิจารณาว่าจะใช้วิธียังไง ซึ่งเราก็คิดว่าจะใช้วิธีการผ่าตัด และสิ่งที่เรากลัว ไม่ใช่การผ่าตัด แต่หมอบอกว่าต้องหยุดใช้เสียง 2-3 สัปดาห์ คือปิดวาจา ซึ่งเราทนไม่ได้ เพราะนี่เป็นคนพูดมาก ไอ้เรื่องหยุดงานไม่เท่าไหร่ แต่พื้นฐานเราเป็นคนพูดมาก ซึ่งก็เลยยังไม่สามารถผ่าตัดได้ หมอก็บอกว่าก็ต้องไปฝึกให้เส้นเสียงมันแข็งแรงขึ้น”
“ส่วนเรื่องงานร้องเพลง อาจจะต้องหยุดก่อน เพราะว่าเสียงสูงขึ้นไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) ซึ่งงานจ้างที่เข้ามาเกี่ยวกับร้องเพลง 10 ปีมี 1 งาน เราต้องหยุดงานร้องเพลงแป๊บนึง แล้วก่อนหน้านี้เรามีงานพิธีกรทุกวัน บางวันก็ต้องเข้าไปหาหมอ เพื่อให้ยา หรือฉีดยา ซึ่งหมอบอกว่าอันนี้มันเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ต้นเหตุมันคือเราใช้เสียงเยอะ ก็คือจะต้องไปฝึกบริหารเส้นเสียง เหมือนคนร้องเพลง เค้าบอกวิธีรักษาเส้นเสียง คือห้ามตะโกน เราไม่ได้ตะโกน เราพูดปกติ แต่แค่เราพูดเยอะ หมอบอกว่าถ้าเราผ่าตัด แล้วเรายังพูดเหมือนเดิม ใช้เสียงเหมือนเดิม ยังไงมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งก็ต้องเริ่มฝึกจากกระบังลม แล้วก็ไปออกกำลังกายให้เส้นเสียงแข็งแรง”
ผอมลงจนตอนนี้ใครๆ ก็ทัก
“ที่ทุกคนเห็นว่าเราผอมลง เพราะว่าเราดูแลตัวเอง ตอนนี้ 45 แล้ว อีก 5 ปีก็จะ 50 เราก็เลยคิดว่าต้องหันมาดูแลตัวเองให้เยอะขึ้น พอเราแก่ขึ้น น้ำหนักตัวมันขึ้นทุกปี จาก ไซส์ M ไปไซส์แอล อีกสักพัก ก็ไซส์ XL ตอนนี้เราก็ต้องพยามกลับมาให้อยู่ ไซส์ L ไซส์ M ให้ได้ (เครียดไหม เวลาคนพูดถึงหุ่นเรา?) สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครมาบูลลี่เรื่องหุ่น แต่ถ้าย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มีการบูลลี่ทางรูปร่างและหน้าตา เมื่อก่อนเราโดนมาเยอะมาก ปัจจุบันคือเราจะอ้วนหรือเราจะผอม เค้าดูที่ความสามารถ ไม่ค่อยบูลลี่กันแล้ว ในเรื่องของรูปร่าง ด้าว่ายุคนี้ดีขึ้น“
“อย่างเมื่อก่อนที่เราโดนบูลลี่ก็คือเรื่องอ้วน เรื่องเตี้ย เรื่องดำ อะไรแบบนี้ นั่นคือตอนที่เราเข้าวงการมาใหม่ๆ ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยที่เรายังเป็นวัยรุ่น เราก็เจอมาแล้ว มันก็มีความกดดัน ซึ่งตอนนั้นเราก็ต้องผอมมากๆ ตามทัศนคติของคนไทย แต่ปัจจุบันก็ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เราก็เอาที่ตัวเราแฮปปี้”
“และหลายคนถามถึงเรื่องการตัดกระเพาะ ด้าว่ามันก็ไม่ผิดนะ เพราะมันเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ซึ่งวิธีนี้มันเหมาะสมกับคนที่มีรูปร่างใหญ่มากๆ น้ำหนักเกินมากๆ และพอเค้าไปตัดกระเพาะแล้ว โรคต่างๆ ที่เค้าเคยเป็นอยู่ มันดีขึ้น ด้าว่ามันก็เป็นทางเลือก ด้าว่าการตัดกระเพาะ มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ซึ่งที่เราผอมลง เราก็ยังไม่ได้พึ่งแพทย์ แต่ก็มีปรึกษาบ้างว่าต้องกินอะไร หรือว่าปักปากกา คือเราเรื่อยเปื่อย ศึกษาว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันไหนดี อะไรใหม่ๆ ด้าต้องลอง“
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO