“สมุทรสงคราม”ผู้สมัครนายกอบต.เกือบครึ่งจังหวัดไร้คู่แข่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในจังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 1-5 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา พบปรากฏการณ์น่าสนใจเมื่อ อบต. จำนวน 22 แห่งของจังหวัด มีถึง 10 แห่ง มีผู้สมัครนายกเพียงรายเดียว คิดเป็นเกือบครึ่งของทั้งหมด

นางสาวมาณวิกา ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กกต) ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครนายก อบต.รวม 35 คน ผู้สมัครสมาชิกสภา อบต.รวม 366 คน ผู้สมัครนายก แยกตามอำเภอ ดังนี้ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม อบต.ลาดใหญ่ มีผู้สมัครมากที่สุด 3 คน รองลงมาคือ อบต.บางแก้ว อบต.นางตะเคียน อบต.คลองเขิน แห่งละ 2 คน ส่วน อบต.ท้ายหาด และ อบต.บางขันแตก แห่งละ 1 คน

อำเภออัมพวา อบต.ท่าคา มีผู้สมัครมากที่สุด 3 คน ขณะที่ อบต.ยี่สาร อบต.แควอ้อม อบต.บางแค อบต.แพรกหนามแดง และ อบต.บางช้าง แห่งละ 2 คน ส่วน อบต.บางนางลี่ อบต.วัดประดู่ อบต.ปลายโพงพาง และ อบต.เหมืองใหม่ แห่งละ 1 คน อำเภอบางคนที อบต.โรงหีบ มีผู้สมัครมากที่สุด 3 คน ส่วน อบต.บางสะแก อบต.ดอนมะโนรา อบต.กระดังงา และ อบต.บางคนที แห่งละ 1 คน ส่วน อบต.บางพรมไม่มีการเลือกตั้งนายกเนื่องจากเพิ่งมีการเลือกตั้งไปก่อนหน้า หลังนายกเก่าเสียชีวิต จึงจัดเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภา อบต.เท่านั้น

นางสาวมาณวิกา กล่าวว่า การที่มี อบต.ถึง 10 แห่งของจังหวัด หรือเกือบครึ่งหนึ่งมีผู้สมัครนายกเพียงคนเดียว และเป็นนายกที่ครบวาระ อาจสะท้อนผลงานของนายกเดิมที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ไม่มีผู้ลงสมัครแข่งขัน อีกทั้งจังหวัดสมุทรสงครามไม่มี “บ้านใหญ่” หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ดูแล อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครที่ไร้คู่แข่งยังต้องผ่านเงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 % ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ และมากกว่าคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใด จึงจะถือว่าได้รับการเลือกตั้งตามกฎหมาย

ผอ.กกต.สมุทรสงครามกล่าวด้วยว่า หลังปิดรับสมัคร กกต.ได้จัดกิจกรรมสมานฉันท์ผู้สมัครทั้งนายกและสมาชิกสภา อบต.ทั้ง 22 แห่ง ที่โรงแรมริเวอร์ตั้น โดยเน้นย้ำข้อปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการหาเสียงโดยไม่ใส่ร้ายคู่แข่ง การห้ามซื้อสิทธิขายเสียง รวมถึงการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียซึ่งการหาเสียงต่างๆทั้งหมดของผู้สมัครต้องยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายต่อ ผอ.กกต.จังหวัดฯ มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิด ทั้งนี้ผู้สมัครนายก อบต.สามารถใช้จ่ายในการหาเสียงได้ไม่เกิน 1,500,000 บาท ส่วนผู้สมัครสมาชิกสภา อบต.ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 225,000 บาท

สำหรับจังหวัดสมุทรสงคราม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีประชากร 186,784 คน และมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 153,954 คน กกต.ตั้งเป้ารณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในแต่ละ อบต.ไม่น้อยกว่า 75% และหวังให้บัตรเสียไม่เกิน 3%

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ผู้สมัครนายกลงแข่งขันเพียงรายเดียว ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ความนิยมและผลงานของผู้บริหารท้องถิ่นเดิมผ่านคะแนนเสียงของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง