“ASP-SME-A” เฟ้น “หุ้นไทย” ไซส์กลาง-เล็ก…สร้างผลตอบแทนสุดจี๊ด !!!
กองทุนติดดาว: กลับมาอีกครั้งกับคอลัมน์ประจำสัปดาห์อย่าง “กองทุนติดดาว” กองทุนที่ได้เรทติ้ง “Morningstar 5 ดาว” จัดเป็นกองทุนหัวกะทิที่มี ‘ผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยง’(Risk-adjusted returns)ดีสุด 10% แรกของกลุ่ม ตามสูตรลับเฉพาะของคนกลางอย่าง “Morningstar” ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดอันดับกองทุนรวมที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก
ครั้งนี้เป็นกองทุนในกลุ่ม “Equity General” ที่มีจุดเด่นเน้นลงทุนใน “หุ้นไทย” บริษัทขนาดกลางและเล็ก ใน SET/maiที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโตทางธุรกิจ
ปัจจุบัน “หุ้นไทย” ถือว่าน่าสนใจ หลังราคาปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมี Forward 12M P/E ที่ 14.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่ 15.4 เท่า และมีแนวโน้มกำไรบจ.พลิกกลับมาโตได้ประมาณ 10% มองแบบนี้ก็ยังมีอนาคต โดยตลาดมองเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้ 1,500 จุด บวกลบ มากน้อยแตกต่างกันออกไป
แต่ถ้าอยากมองหา “ความแตกต่าง” ก็คงต้องขยับไปยัง “หุ้นไซส์กลาง-เล็ก” เพราะมุมมองของแต่ละบลจ.จะเริ่ม “แตกต่าง” กันอย่างชัดเจน
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ มี “กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก” ที่น่าสนใจ ดีกรี “กองทุน 5 ดาว” จากทาง “Morningstar”** มาฝากกัน
“ASP-SME-A” เฟ้น “หุ้นไทย” ไซส์กลาง-เล็ก สร้างผลตอบแทนสุดจี๊ด
สำหรับกองทุนรวมที่เราหยิกยกมานั้น มีชื่อว่า “กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า” (ASP-SME-A)” บริหารจัดการโดย ‘บลจ.แอสเซท พลัส’ มีความเสี่ยง “ระดับ 6” (เสี่ยงสูง) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2560 มีนโยบายลงทุน “หุ้นไทย” บริษัทขนาดกลางและเล็ก ใน SET/maiที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโตทางธุรกิจ และด้วยจุดเด่นของ “Equity General” ทำให้ไม่มีข้อจำกัดในการลงทุนในหุ้นแต่ประการใดทั้งเรื่องของขาดและสไตล์ เป็นต้น
หน้าตาพอร์ต…สไตล์ “หุ้นขนาดกลาง” ที่เป็นส่วนผสมระหว่าง “หุ้นเติบโต” และ “หุ้นคุณค่า”
จากนโยบายลงทุนทำให้หน้าตาหุ้นในพอร์ตของกอง ‘ASP-SME-A’ มีบุคลิกของหุ้นสไตล์ “หุ้นขนาดกลาง” ที่เป็นส่วนผสมระหว่าง“หุ้นเติบโต” (Growth) และ “หุ้นคุณค่า” (Value) เป็นสำคัญ
สำหรับหน้าตาพอร์ต (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 24) มีการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรม ประกอบด้วย
Food & Beverage 49%
Commerce 93%
Banking 48%
Market for alternative Investment 94%
Agribusiness 17%
“โดยหุ้น 5 อันดับแรก ที่กองทุนลงทุนมากสุด ได้แก่ SAPPE, SISB, TCAP,TISCO และ ICHI ตามลำดับ”
“ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน ASP-SME-A ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 24) เฉลี่ยอยู่ที่ 8.44%ต่อปี(ดัชนีชี้วัด 0.96% ต่อปี) ขณะที่ความผันผวนของผลการดำเนินงานเฉลี่ยอยู่ที่ 16.51% ต่อปี (ดัชนีชี้วัด 15.29% ต่อปี) อย่างไรก็ดีในช่วง 5 ปีย้อนหลังกองทุนเคยมีผลขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) อยู่ที่ -35.11%”
เงินลงทุนขั้นต่ำ “ครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” เพียง 1 บาท เท่านั้น
สำหรับผู้ลงทุนที่อยากจะลงทุนในกองทุนดังกล่าวก็สามารถลงทุนเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียง 1บาท ตามเงื่อนไขมูลค่าขั้นต่ำของ “การซื้อครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” ที่บริษัทได้กำหนด ในขณะที่มูลค่าขั้นต่ำของการขายคืนและยอดคงเหลือขั้นต่ำจะไม่มีข้อกำหนดเอาไว้แต่ประการใด ซึ่งมีระยะเวลาในการรับเงินค่าขายภายใน 3 วันทําการหลังจากวันทํารายการขายคืน (T+3)
ส่วนรายละเอียดการซื้อขายในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายๆ โดยผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัสจำกัด และตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายหน่วยลงทุนอื่นๆ ที่บริษัทหลักทรัพย์ แอสเซทพลัส จำกัดแต่งตั้งขึ้น หรือช่องทางออนไลน์ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ASP FUND
สำหรับ “หุ้นไทย” ปีนี้ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง อาจทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจ แต่ในขณะเดียวกัน “Downside Risk” ก็จำกัดขึ้นตามไปด้วย และหากใครมองหาโอกาสการลงทุนที่ “แตกต่าง” ในจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยราคาถูกเช่นปัจจุบัน กลุ่ม “หุ้นไซส์กลาง-เล็ก” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถเข้ามาเติมเต็มพอร์ทการลงทุนได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน