โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จีนหาย! นทท.ลดฮวบ ท่องเที่ยวไทยเสี่ยงทรุดยาว

อีจัน

อัพเดต 27 พ.ค. เวลา 15.43 น. • เผยแพร่ 27 พ.ค. เวลา 08.43 น. • อีจัน

(วันนี้ 27 พ.ค.68) ต้นปี 2025 ที่ควรจะเป็นปีทองของภาคท่องเที่ยว กลับเริ่มต้นด้วยความเงียบผิดปกติ นักท่องเที่ยวจีนที่เคยหลั่งไหลเข้ามาอย่างคึกคัก กลับหดตัวลงอย่างน่าตกใจจากระดับเฉลี่ย 560,000 คนต่อเดือน เหลือเพียง ไม่ถึง 300,000 คน หลังจากเทศกาลตรุษจีน ลดลงเกือบครึ่งในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน

KKP Research วิเคราะห์ว่า ปรากฏการณ์นี้ ไม่ใช่เรื่องชั่วคราว หากสะท้อนความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ลึกและยาวนาน อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภาคการท่องเที่ยวไทยตลอดทศวรรษ

3 แรงกระแทกซัดนักท่องเที่ยวจีนหายจากแผนที่ท่องเที่ยวไทย

1. จีนส่งเสริมเที่ยวในประเทศ เงินไม่สะพัดนอก

จีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลจึงหันมาใช้นโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยเฉพาะด้านท่องเที่ยว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนขาออกยังฟื้นตัวเพียง 86.5% ขณะที่การเที่ยวในประเทศฟื้นเกือบเต็ม 93.6% นั่นแปลว่าเงินที่เคยไหลออกมากลับถูกดูดกลับเข้าไปในจีน

2. นักท่องเที่ยวอิสระมาแทนกรุ๊ปทัวร์

หลังโควิด พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากที่เคยพึ่งพาทัวร์ถึง 40% ตอนนี้เหลือแค่ 20% ขณะที่นักท่องเที่ยวอิสระ (FIT) เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงกว่า คาดหวังคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่า “ราคาถูก” แบบเดิมแปลตรงๆ ว่า นโยบายลดแลกแจกแถมไม่ได้ผลอีกต่อไป และไทยต้องยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวให้สอดรับกับความต้องการที่เปลี่ยนไป

3. “ไม่ปลอดภัย” คำเดียวทำไทยร่วงจากเรดาร์

ผลสำรวจล่าสุดจาก Dragon Trail International ชี้ชัดว่า นักท่องเที่ยวจีนกว่า 50% มองว่าไทยไม่ปลอดภัย เพิ่มขึ้นจาก 38% เพียง 6 เดือนก่อนหน้า จากข่าวลักพาตัวดาราจีน คดีธุรกิจสีเทา และเหตุไม่สงบอื่น ๆ ที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านลบ ขณะที่ประเทศคู่แข่งอย่างญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม และมาเลเซีย กลับไม่ได้รับผลกระทบในด้านความเชื่อมั่นเท่าไทย

ใครจะมาแทนจีน? คำถามใหญ่ที่ยังไร้คำตอบชัด

แม้จะมีความหวังจากตลาด ยุโรปและเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดียที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีจำนวนเกือบ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วงต้นปี 2025 แต่ก็ยังแทนที่จีนไม่ได้ทั้งในเชิงจำนวนและเม็ดเงิน

KKP Research ระบุว่า

  • นักท่องเที่ยวยุโรปมักเน้นท่องเที่ยวคุณภาพสูง เที่ยวภาคใต้ ชอบแหล่งวัฒนธรรม
  • อินเดียเน้นกรุงเทพฯ พัทยา ใช้จ่ายกับกิจกรรมบันเทิงและชอปปิงมากกว่า

ถึงแม้จะมีศักยภาพ แต่พฤติกรรมต่างจากนักท่องเที่ยวจีนโดยสิ้นเชิง ต้องการนโยบายส่งเสริมที่เฉพาะเจาะจงและตรงกลุ่ม

ทางรอดไทยต้องเริ่มที่ “ความปลอดภัย” ไม่ใช่ “ราคา”

ในระยะสั้น ไทยอาจต้องยอมรับความจริงว่า นักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่กลับมาเต็มจำนวน และหันไปลงทุนในตลาดใหม่อย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของไทยในสายตานักท่องเที่ยวโลกต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในมิติความปลอดภัย ซึ่งกลายเป็น “ตัวแปรชี้ชะตา” การท่องเที่ยวยุคใหม่ เพราะในยุคหลังโควิด “ราคาถูก” ไม่ใช่จุดขาย แต่ “รู้สึกปลอดภัย” ต่างหากที่นักท่องเที่ยวพร้อมจ่ายแพง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...